ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรก ผู้แทนราษฎรประจำเดือนตุลาคม

สภาผู้แทนราษฎร

การสร้างสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตในฐานะคณะผู้บริหารของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต (CEC ของสหภาพโซเวียต) จัดทำโดยสนธิสัญญาว่าด้วยการก่อตัวของสหภาพโซเวียต ในข้อตกลงนี้ มีการใช้คำย่อ "Sovnarkom" เป็นครั้งแรก

ต้นแบบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตคือสภาผู้แทนราษฎร - คณะกรรมการประธานคณะกรรมาธิการชุดแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐโซเวียตซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแล "การจัดการชีวิตของรัฐบางสาขา" ก่อตั้งโดยพระราชกฤษฎีกาของรัฐสภารัสเซียทั้งหมดครั้งที่ 2 และคณะกรรมการบริหารกลางทั้งหมดของรัสเซียเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2460 เมื่อห้าปีก่อนการก่อตั้งสหภาพโซเวียตสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีวี. ไอ. เลนินเป็นประธานเป็นรัฐบาล สาธารณรัฐโซเวียตรัสเซีย (ตั้งแต่ พ.ศ. 2461 - RSFSR) หลังจากการก่อตั้งสหภาพโซเวียต สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้ประสานงานกิจกรรมของสาธารณรัฐโซเวียตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ สหภาพโซเวียตที่จริงแล้วกลายเป็นรัฐบาลแรกของสหภาพโซเวียตในช่วงเวลาระหว่างการลงนามในสนธิสัญญาเกี่ยวกับการก่อตั้งสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2465 และการก่อตั้งสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466

การเป็นรัฐบาลของสหภาพโซเวียต สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต และผู้แทนราษฎรที่นำโดยสหภาพโซเวียต มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์และกระบวนการสำคัญๆ ของประเทศและสังคม เช่น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังสงครามกลางเมือง นโยบายเศรษฐกิจใหม่ (NEP), การรวบรวม, การผลิตไฟฟ้า, อุตสาหกรรม, แผนพัฒนาห้าปี เศรษฐกิจของประเทศ, การเซ็นเซอร์, การต่อสู้กับศาสนา, การกดขี่ข่มเหงและการกดขี่ทางการเมือง, ป่าช้า, การเนรเทศประชาชน, การผนวกรัฐบอลติกและดินแดนอื่น ๆ ของสหภาพโซเวียต, องค์กรของขบวนการพรรคพวกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ด้านหลังในช่วงมหาราช สงครามรักชาติ. ระยะเวลาของกิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตครอบคลุมสงครามและความขัดแย้งทางอาวุธหลายครั้งในดินแดนของสหภาพโซเวียตและนอกเขตแดน - ในยุโรปเอเชียกลางและตะวันออกไกล

ในรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2467 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตถูกกำหนดให้เป็นผู้บริหารและผู้บริหารของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและด้วยการนำรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 มาใช้ ชื่ออื่น - รัฐบาลของสหภาพโซเวียต - และได้รับสถานะของผู้บริหารและผู้บริหารสูงสุด รัฐบาลควบคุมสหภาพโซเวียต.

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตก่อตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและเป็นผู้บริหารและผู้บริหาร สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตกำกับดูแลกิจกรรมของผู้บังคับการตำรวจแห่งสหภาพทั้งหมดพิจารณาและอนุมัติพระราชกฤษฎีกาและมติที่มีนัยสำคัญของสหภาพทั้งหมดภายใต้สิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2467 บทบัญญัติเกี่ยวกับสภาประชาชน ผู้บังคับการคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและอื่น ๆ นิติบัญญัติ. พระราชกฤษฎีกาและมติของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีผลผูกพันกับอาณาเขตทั้งหมดของสหภาพโซเวียตและอาจถูกระงับและยกเลิกโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและรัฐสภา เป็นครั้งแรกที่องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตนำโดยเลนินได้รับการอนุมัติในสมัยที่ 2 ของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตตามระเบียบในปี 2466 คือ: ประธานรอง ประธานผู้บังคับการตำรวจของสหภาพโซเวียต; ผู้แทนของสาธารณรัฐสหภาพเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยสิทธิในการลงคะแนนเสียงที่ปรึกษา

รัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 ได้กำหนดความรับผิดชอบและความรับผิดชอบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตต่อศาลฎีกาของสหภาพโซเวียตและในช่วงเวลาระหว่างการประชุมสูงสุดของสหภาพโซเวียตสหภาพโซเวียตกับรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้รวมตัวกันและกำกับดูแลการทำงานของผู้แทนทั้งหมดของสหภาพและสาธารณรัฐประชาชนของสหภาพโซเวียตและเศรษฐกิจรองและ สถาบันวัฒนธรรม, ได้ดำเนินมาตรการเพื่อดำเนินการระดับชาติ แผนเศรษฐกิจ, งบประมาณของรัฐ, ดำเนินการเป็นผู้นำในด้านความสัมพันธ์ภายนอกกับ ต่างประเทศ, อยู่ภายใต้การดูแล ก่อสร้างทั่วไปกองกำลังติดอาวุธของประเทศ ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีสิทธิที่จะระงับการตัดสินใจและคำสั่งของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพและยกเลิกคำสั่งและคำแนะนำของผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐ ล้าหลังในสาขาการจัดการและเศรษฐกิจที่ได้รับมอบหมายให้มีความสามารถของสหภาพโซเวียต

ในช่วงมหาสงครามแห่งความรักชาติ กิจกรรมของผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตนั้นอยู่ภายใต้คณะกรรมการป้องกันประเทศ - องค์กรปกครองฉุกเฉินภายใต้การนำของประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต I.V. สตาลินซึ่งถูกสร้างขึ้นสำหรับ ช่วงสงครามและมีอำนาจเต็มที่ในสหภาพโซเวียต

ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเป็นหัวหน้ารัฐบาลโซเวียต การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานได้ดำเนินการโดยได้รับอนุมัติจากองค์ประกอบของรัฐบาลในสมัยของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต (ตั้งแต่ปี 2481 - ศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียต)

สหพันธรัฐและสาธารณรัฐปกครองตนเองแต่ละแห่งมีรัฐบาลของตนเอง - สภาสาธารณรัฐ ผู้แทนราษฎร- ก่อตั้งโดยคณะกรรมการบริหารกลาง (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 สภาสูงสุด) ของสหภาพที่เกี่ยวข้องหรือสาธารณรัฐปกครองตนเอง รัฐบาลของพรรครีพับลิกันไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต แต่พวกเขามีหน้าที่ในกิจกรรมของพวกเขาที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากพระราชกฤษฎีกาและมติของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพ ในเวลาเดียวกันผู้แทนราษฎรสหภาพ - รีพับลิกันในสภาสาธารณรัฐของผู้แทนราษฎรมีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาสองฝ่าย - พวกเขาอยู่ใต้บังคับบัญชาพร้อมกันทั้งสภาผู้แทนราษฎรของสาธารณรัฐสหภาพซึ่งพวกเขาถูกสร้างขึ้นและไปยังสหภาพที่เกี่ยวข้อง- ผู้แทนพรรครีพับลิกันของสหภาพโซเวียตซึ่งคำสั่งและคำแนะนำจะได้รับคำแนะนำในกิจกรรม

บางครั้งคุณต้องได้ยินว่าผู้ก่อตั้งรัฐโซเวียต V.I. เลนินถูกกล่าวหาว่า "ล้อมรอบตัวเองกับชาวยิว" และตั้งแต่แรกเริ่ม "รัฐบาลของพวกบอลเชวิคคือรัฐบาลของชาวยิว" แม้แต่ประธานาธิบดีปูตินก็พูดเป็นนัยในครั้งเดียว เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งที่สับสน มาดูกันว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

ในคืนวันที่ 7-8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460 สภาคองเกรสแห่งสหภาพโซเวียต All-Russian ได้รับรองเอกสารทางประวัติศาสตร์สามฉบับ ได้แก่ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยสันติภาพ พระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับที่ดิน และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลโซเวียตชุดแรก .

มี 15 คนในองค์ประกอบแรกของ SNK (สภาผู้แทนราษฎร) (ข้อมูลนี้หาง่ายแม้ผ่านเครื่องมือค้นหาทางอินเทอร์เน็ต)

องค์ประกอบระดับชาติของรัฐบาลประมาณสอดคล้องกับองค์ประกอบระดับชาติของรัฐรัสเซียทั้งหมด ดังนั้นใน 15 สมาชิกเหล่านี้คือ:

ตัวแทนของชนชาติคอเคเซียน (จอร์เจีย) - หนึ่ง (I. Dzhugashvili);

ตัวแทน ชาติตะวันตก(ขั้วโลก) - หนึ่ง (I. Teodorovich);

ตัวแทนของชาวเมดิเตอร์เรเนียน (ยิว) - หนึ่ง (L. Bronstein);

ตัวแทนของ Little Russia (ยูเครน) - สามคน (P. Dybenko, N. Krylenko, V. Ovseenko)

9 คนจาก 15 คนเป็นชาวรัสเซีย มาเรียงกันตามชื่อ:

ผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการภายใน - RYKOV Alexei Ivanovich เกิดในปี 2424 ในครอบครัวชาวนาในจังหวัด Vyatka เขต Yaransky การตั้งถิ่นฐานของ Kukarka รัสเซีย. ศึกษาที่มหาวิทยาลัยคาซาน ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติ สมาชิกของ RSDLP ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2441

ผู้บังคับการตำรวจเพื่อการเกษตร - Milyutin Vladimir Pavlovich เกิดในปี 1884 ในหมู่บ้าน Tugantsevo เขต Lgovsky จังหวัด Kursk ในครอบครัวของครูในชนบท รัสเซีย. เขาเรียนที่คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเข้าร่วมคำราม ขบวนการซึ่งเป็นสมาชิกของ RSDLP ตั้งแต่ปี 1903 ในปี 1917 เขาเป็นประธานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานและทหารของสหภาพโซเวียต Saratov

ผู้บังคับการแรงงานของประชาชน - SHLYAPNIKOV Alexander Gavrilovich เกิดในปี พ.ศ. 2428 ในเมืองมูรอมในตระกูลโปมอร์ผู้เชื่อเก่า รัสเซีย (มีใครเคยได้ยินเรื่อง Old Believer Jews?) พ่อของเขาทำงานเป็นช่างสี ช่างไม้ คนงาน แม่ - ลูกสาวของคนงานเหมือง สมาชิกของ RSDLP ตั้งแต่ปี 1901 จับกุม อพยพ ทำงานในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส ผู้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ปี 1917 ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มความคิดริเริ่มสำหรับการสร้าง Petrograd Soviet

ผู้บังคับการตำรวจเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม - Viktor Pavlovich NOGIN เกิดในปี พ.ศ. 2421 ที่กรุงมอสโกในครอบครัวเสมียน รัสเซีย. หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนในเมืองใน Kalyazin จังหวัดตเวียร์ เขาทำงานเป็นเสมียน จากปี 1896 เป็นคนงานในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมเสียงคำราม วงเวียนซึ่งเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่ปี พ.ศ. 2441 ในปี พ.ศ. 2460 เขาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานของมอสโกโซเวียต

ผู้บังคับการตำรวจแห่งการศึกษา - Lunacharsky Anatoly Vasilyevich เกิดในปี พ.ศ. 2418 ที่เมืองโปลตาวาในครอบครัวข้าราชการ รัสเซียขุนนางทางพันธุกรรม ขณะเรียนอยู่ที่โรงยิม เขาได้จัดตั้งและเป็นผู้นำวง Marxist ซึ่งเป็นประสบการณ์งานปาร์ตี้ตั้งแต่ปี 1895 เขาศึกษาที่มหาวิทยาลัยซูริก เขาทำงานด้านวรรณกรรม เขาเป็นคนเดียวในกลุ่มผู้บังคับการเรือคนแรกที่ทำงานในตำแหน่งของเขาเป็นเวลา 12 ปี

ผู้บังคับการตำรวจฝ่ายการเงิน - SKVORTSOV Ivan Ivanovich (นามแฝง Stepanov) เกิดในปี พ.ศ. 2413 ที่โบโกรอดสค์ในครอบครัวพนักงานโรงงาน รัสเซียแปลกพอ เขาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันครูแห่งมอสโกและทำงานเกือบตลอดชีวิตในมอสโกในองค์กรมอสโกของ RSDLP (นอกเวลาตั้งแต่ 2439) ผู้เขียนงานพื้นฐานจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การเมือง ผู้แปลงานของมาร์กซ์

ผู้บังคับการตำรวจแห่งความยุติธรรม - OPPOKOV Georgy Ippolitovich (นามแฝง Lomov) เกิดในปี พ.ศ. 2431 ที่เมืองซาราตอฟในตระกูลผู้สูงศักดิ์ พ่อของเขารับใช้ที่นี่มานานกว่า 30 ปีในฐานะผู้จัดการสาขาของธนาคารแห่งรัฐ รัสเซีย. ตั้งแต่อายุ 13 เขาเข้าร่วมเป็นวงกลมเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่ปี 2446 เขาศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กระหว่างการเนรเทศ Arkhangelsk (2454-2456) เขาเข้าร่วมการสำรวจขั้วโลก (เพื่อ โลกใหม่และเช็กกูบา)

ผู้บังคับการไปรษณีย์และโทรเลข - AVILOV Nikolai Pavlovich (นามแฝง Glebov) เกิดในปี พ.ศ. 2430 ในครอบครัวของช่างทำรองเท้าคาลูก้า รัสเซีย. ตั้งแต่อายุ 12 เขาทำงานในโรงพิมพ์ ตั้งแต่ปี 1904 เขาเป็นสมาชิกของ RSDLP ดำเนินการจัดงานเลี้ยงในมอสโกและเทือกเขาอูราลศึกษาที่โรงเรียนปาร์ตี้โบโลญญา "การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์พบว่าเขากำลังหนีจากดินแดนนาริม" ต่อมาเขาทำงานเป็นประธานสภาสหภาพแรงงานเลนินกราด

วิทยาลัยของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการทหารและกองทัพเรือประกอบด้วย:

ดีเบ็นโก้ พาเวล เอฟิโมวิช เกิดในปี พ.ศ. 2432 ในครอบครัวชาวนาที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในหมู่บ้าน Lyudkov เขต Novozybkovsky จังหวัด Chernihiv ดังที่เขาได้กล่าวไว้ในอัตชีวประวัติของเขาในช่วงกลางทศวรรษ 1920 ว่า "แม่ พ่อ พี่ชายและน้องสาวยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Lyudkov และทำงานเป็นชาวนา" เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนในเมือง 4 ปี ตั้งแต่อายุ 17 ปี เขาทำงานเป็นพลบรรจุในท่าเรือ จากนั้นก็เป็นกะลาสีเรือ ในปี 1911 เขาถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อเข้าร่วมการโจมตีและรับใช้ในกองเรือบอลติก ในปี 1917 ประธาน Central Balt ผู้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติเดือนตุลาคมและสงครามกลางเมือง

KRYLENKO Nikolai Vasilievich - นักปฏิวัติทางพันธุกรรม เกิดในปี 2428 ในเขต Sychevsky ของจังหวัด Smolensk ในครอบครัวของ Ukrainians ที่ถูกเนรเทศ เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เข้าร่วมขบวนการนักศึกษาซึ่งเป็นพรรคบอลเชวิคตั้งแต่ปี พ.ศ. 2447 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเขาถูกระดมเข้ากองทัพและได้รับยศธง ในปี พ.ศ. 2460 เขาได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการกองร้อย กองพล และกองทัพ ในเดือนตุลาคมเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

OVSEENKO Vladimir Alexandrovich (นามแฝง Antonov) เกิดในปี พ.ศ. 2427 ที่เชอร์นิกอฟ พ่อ Alexander Anisimovich เป็นขุนนางผู้หมวดจากนั้นก็เป็นกัปตันของกองทหารสำรองซึ่งเป็นทหารผ่านศึกจากสงครามรัสเซีย - ตุรกีดังนั้น Vladimir Ovseenko จึงถือได้ว่าเป็นทหารที่สืบทอดมา หลังจากสำเร็จการศึกษาจาก Voronezh Cadet Corps เขาศึกษาที่ Nikolaev Military Engineering และ St. Petersburg Cadet Schools ในช่วง 1 การปฏิวัติรัสเซียศาลทหารเซวาสโทพอลตัดสินประหารชีวิตในฐานะผู้เข้าร่วมกิจกรรม แต่หลบหนี 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460 เป็นผู้นำการจับกุมพระราชวังฤดูหนาวเป็นการส่วนตัว

และในที่สุดประธานสภาผู้แทนราษฎร ULYANOV Vladimir Ilyich (เลนิน) ข้าพเจ้าขอเน้นว่าใน "มติ" ดังกล่าว ผู้แทนราษฎรทุกคนได้รับการตั้งชื่อตามชื่อจริงของพวกเขา (ใช้นามแฝงอยู่ในวงเล็บ) เกี่ยวกับ Vladimir Ilyich ในฐานะผู้นำของพวกบอลเชวิค มีข่าวลือมากที่สุด ใกล้ " สถานที่ทั่วไป” เป็นคำกล่าวที่ว่าเขาเป็นคนยิว อย่างไรก็ตาม วิทยานิพนธ์นี้ไม่ใช่สัจพจน์ แต่เป็นเวอร์ชัน มีเอกสารหลักฐานว่าบรรพบุรุษของเขา Alexander Dmitrievich Blank เป็นไม้กางเขนของ Israel Blank แต่การศึกษาของนักประวัติศาสตร์มอสโก M. Bychkova (1993) แสดงให้เห็นว่าในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 สองชื่อเต็มเสิร์ฟในแผนกการแพทย์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก - ช่องว่าง AD สองช่องอายุใกล้เคียงกัน คนหนึ่งเป็นชาวยิวที่รับบัพติสมาจริง ๆ และอีกคนมาจากครอบครัวพ่อค้าออร์โธดอกซ์มอสโก ดังนั้น Russian Blank จึงได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาศาลซึ่งให้สิทธิ์ในการเป็นขุนนางทางพันธุกรรม ชาวยิวที่ว่างเปล่าไม่ได้อยู่ในราชการ แต่ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน (เช่นที่โรงงาน Zlatoust) ดังนั้นเขาไม่มีสิทธิ์ดังกล่าว อย่างที่คุณทราบ V.I.Ulyanov เป็นขุนนาง ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าปู่ของเขาเป็น A.D.Blank ของรัสเซีย ตามคำกล่าวของ M. Bychkova ครั้งหนึ่งบุคคลในช่องว่างทั้งสองนั้นจงใจผสมปนเปกันโดยใครบางคน เลิกคาดเดากันได้เลย: V.I. Ulyanov ผู้ซึ่งเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมของรัสเซียที่ยิ่งใหญ่ เป็นชาวรัสเซียในด้านจิตวิญญาณ ภาษา และแหล่งกำเนิด เป็นการยากที่จะเข้าใจว่าเลือดของชาวยิวหนึ่งในสี่ (แม้ว่าจะเป็นปัญหา) จะมีค่าเกินดุลได้อย่างไร รัสเซียผู้ยิ่งใหญ่

อาจถูกคัดค้าน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงองค์ประกอบแรกของรัฐบาลโซเวียตเท่านั้น ดังนั้น? มาดูกันดีกว่า ตามข้อความในพระราชกฤษฎีกา ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการรถไฟ "ยังคงว่างอยู่ชั่วคราว" ไม่กี่วันต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ถูกยึดไป

ELIZAROV Mark Timofeevich ลูกชายของข้ารับใช้จากหมู่บ้าน Bestuzhevka จังหวัด Samara รัสเซีย. ขณะเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เขาได้เข้าร่วมชุมชน Samara และใกล้ชิดกับ Ulyanovs - Alexander และ Anna Vladimir Ilyich ยังเป็นพยานในการแต่งงานของ Mark และ Anna ต่อมา Elizarov เรียนที่โรงเรียนวิศวกรรมมอสโกของกระทรวงรถไฟทำงานในการจัดการรถไฟมอสโก - เคิร์สต์และในเวลาเดียวกันก็นำเสียงคำราม วงกลมในหมู่คนงาน ในปี 1919 เขาเสียชีวิตด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460 อเล็กซานดรา มิคาอิลอฟนา โกลลอนไท รัฐมนตรีหญิงคนแรกของโลก ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจเพื่อการกุศลแห่งรัฐ Domontovich เกิดเป็นลูกสาวของนายพลจากตระกูลผู้สูงศักดิ์ที่มีต้นกำเนิดในยูเครนย้อนหลังไปถึงเจ้าชายปัสคอฟ เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยซูริกและในปี พ.ศ. 2449 ได้เข้าร่วม RSDLP

ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460 ผู้บังคับการตำรวจแห่งรัฐคือ Eduard Eduardovich ESSEN จากยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน Russified เกิดในปี พ.ศ. 2422 ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สมาชิกของ RSDLP ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2441 ในปี พ.ศ. 2460 - ประธานสภาผู้แทนเขต Vasileostrovsky

สองสัปดาห์ต่อมา ผู้แทนหลายคนลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวการเมืองของเลนิน สถานที่ของพวกเขาถูกยึดครองโดย:

ผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการภายใน PETROVSKY Grigory Ivanovich จากชาวนาที่สืบเชื้อสายมาจากหมู่บ้าน Pechenegy จังหวัด Kharkov ประเทศยูเครน เขาเรียนที่โรงเรียนเป็นเวลาสองปีครึ่งและถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากขาดเงินค่าเล่าเรียน เขาทำงานในโรงตีเหล็ก ช่างทำกุญแจ จากนั้นเป็นช่างกลึงในโรงงาน ซึ่งเป็นสมาชิกของ RSDLP ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2440 เขาเป็นรองผู้ว่าการดูมาแห่งรัสเซียจากคนงานของจังหวัดเยคาเตริโนสลาฟ (พ.ศ. 2455-2457)

ผู้บัญชาการประชาชน Podbelsky Vadim Nikolaevich เกิดในปี พ.ศ. 2430 ที่เมืองยากูเตียในครอบครัวของสมาชิกพลัดถิ่นของเจตจำนงของประชาชน รัสเซีย. ผู้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในการปฏิวัติปี 1905 เข้าร่วม RSDLP นำงานพรรคในตัมบอฟและมอสโก เสียชีวิตในปี 1920

ผู้บังคับการตำรวจสาธารณสุข SEMASHKO Nikolai Alexandrovich จากชาวนาในจังหวัด Orel ของเขต Yelets ของหมู่บ้าน Livenskaya เขาเรียนที่คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยมอสโกเข้าร่วมขบวนการนักศึกษาถูกไล่ออกและไล่ออก หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคาซาน เขาทำงานเป็นหมอ จากนั้นก็ลี้ภัย - เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของ RSDLP ในปี 1917 เขาเป็นประธานสภาเขต Zamoskvoretskaya ในมอสโก

กองบัญชาการกองทัพบกและกิจการทหารเรือได้รับการจัดระเบียบใหม่ PODVOISKY Nikolai Ilyich บุตรชายของนักบวชจากหมู่บ้าน Kunashovka เขต Nezhinsky จังหวัด Chernihiv กลายเป็นผู้บัญชาการสงครามของประชาชน (เป็นชาวยิวจริงๆหรือ?) เขาศึกษาที่วิทยาลัยศาสนศาสตร์ Chernihiv และ Yaroslavl Legal Lyceum ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคมาตั้งแต่ปี 2444 ในปี 2460 - หัวหน้าองค์กรทหารของ RSDLP และคณะกรรมการปฏิวัติทางทหาร

ผู้บังคับการตำรวจ Proshyan Prosha Perchevich ซึ่งแม้แต่ Pan Lukyanenko ก็จำได้ว่าเป็นชาวอาร์เมเนีย แต่ไม่ใช่บอลเชวิค - ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 เป็นสมาชิกของพรรคสังคมนิยม-ปฏิวัติ ในปี ค.ศ. 1917 พรรคสังคมนิยมฝ่ายซ้าย-ปฏิวัติ นักโต้เถียงที่กระตือรือร้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2461 ระหว่าง "การอภิปรายในเบรสต์" เขาเกษียณ มีส่วนร่วมในการจลาจลต่อต้านบอลเชวิคในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2461 ผิดกฎหมายและเสียชีวิตด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ในไม่ช้า

ผู้บังคับการตำรวจทรัพย์สินของรัฐ KARELIN Vladimir Alexandrovich เกิดในปี พ.ศ. 2434 รัสเซียจากชนชั้นสูงเป็นบุตรชายของที่ปรึกษาวิทยาลัย จบจากมหาวิทยาลัย ทนายความ นักข่าว ในปี 1917 เขาได้รับเลือกเป็นประธานของ Kharkov City Duma ซึ่งเป็นคณะปฏิวัติสังคมซ้าย

Narkomzem KOLEGAEV Andrey Lukich เกิดที่ Surgut จังหวัด Tyumen ในครอบครัวชนชั้นนายทุน รัสเซีย. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 เป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยม-ปฏิวัติ ในการลี้ภัยเขาเรียนที่มหาวิทยาลัยปารีส ในปี ค.ศ. 1917 เขาได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนชาวนาของโซเวียตคาซาน ภายใต้การนำของเขา Collegium of the People's Commissariat ซึ่งประกอบด้วยนักปฏิวัติสังคมนิยมฝ่ายซ้ายทั้งหมด ได้พัฒนาร่างกฎหมายว่าด้วยการขัดเกลาที่ดิน ซึ่งได้รับอนุมัติจากรัฐสภาโซเวียต All-Russian ครั้งที่ 3 ในปี 1918

และสุดท้าย สไตน์เบิร์ก ไอแซค ซาคาโรวิช ทนายความที่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ผู้บังคับการตำรวจยุติธรรม ตั้งแต่ 12/13/1917 ถึง 3/18/1918 เขาสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองด้วยการปล่อยบุคคลสำคัญที่ต่อต้านบอลเชวิคจำนวนมาก (V. Burtsev, A. Gotz) จากการถูกจับกุมในทัณฑ์บน ใช่ชาวยิว แต่นี่คือสิ่งที่จับได้ - เขาไม่ใช่บอลเชวิค สไตน์เบิร์กเป็นตัวแทนของพรรคซ้ายสังคมนิยม-ปฏิวัติ ซึ่งตอนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลพันธมิตรกับ RSDLP(b)

ดังนั้น ตัวอย่างนี้จึงไม่สนับสนุนความชอบธรรมของคำว่า "ยิวบอลเชวิค" ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งนิยมใช้กันมากโดยกลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์

เป็นการเหมาะสมที่จะระลึกถึงลักษณะของพันเอกอาร์. โรบินส์นักการทูตชาวอังกฤษซึ่งได้รับในปี 2460: “สภาผู้แทนราษฎรชุดแรกตามจำนวนหนังสือที่เขียนโดยสมาชิกและภาษาที่พวกเขาพูดนั้นสูงขึ้นใน วัฒนธรรมและการศึกษามากกว่าคณะรัฐมนตรีใดๆ ในโลก” .

ฉันสังเกตว่าจาก 92 คนที่ทำงานในสภาผู้แทนราษฎรในปี 2460-2461 51 คนมีตำแหน่งสูงกว่าหรือไม่สมบูรณ์ อุดมศึกษา, 18 - รองหรือพิเศษ.

บทนำ

บทที่ 1 การสร้างสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

๑. ประวัติการก่อตั้งสภาผู้แทนราษฎร

2 องค์ประกอบและการก่อตัวของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

3 ประวัติกรอบกฎหมายของ SNK

บทที่ 2 งานและอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

1 อำนาจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

2 กิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

3 การเปลี่ยนแปลงสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

บทสรุป

บทนำ

ไม่ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของหัวข้อที่เลือกเนื่องจากการศึกษาแบบจำลองอำนาจของสหภาพโซเวียตสาระสำคัญรูปแบบและคุณสมบัติของการพัฒนาไม่เพียง แต่รัสเซียเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อโลกด้วย ระบบอำนาจนี้มีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ทั้งหมดของศตวรรษที่ 20 และในเวลาเดียวกัน ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดการโต้เถียงอย่างต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์และสาธารณะ

ความซับซ้อนและความไม่สอดคล้องกันของกระบวนการพัฒนาระบบอำนาจของสหภาพโซเวียตจำเป็นต้องศึกษาประวัติศาสตร์การเมือง

เครื่องมือของรัฐโซเวียตเกิดขึ้นจากการล่มสลายของการปฏิวัติของรัฐชนชั้นนายทุนและเป็นพื้นฐานใหม่ ประเภทประวัติศาสตร์เครื่องมือของรัฐ

กระบวนการรื้อถอนเครื่องมือของรัฐของชนชั้นนายทุนและการสร้างกลไกใหม่นั้นสัมพันธ์กัน การสร้างรัฐของสหภาพโซเวียตมีลักษณะเฉพาะโดยการหลีกเลี่ยงความไม่ต่อเนื่องในที่ที่มีอำนาจ

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม (8 พฤศจิกายน) ค.ศ. 1917 สภาคองเกรสแห่งโซเวียต All-Russian ครั้งที่ 2 ได้ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา "ในการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎร" ซึ่งถือเป็นรัฐบาลของกรรมกรและชาวนากลุ่มแรกของโลก พระราชกฤษฎีกานี้กำหนดรากฐานของสถานะทางกฎหมายของรัฐบาลโซเวียต กิจกรรมเชิงปฏิบัติของสภาผู้แทนราษฎร (SNK) เป็นพยานถึงความจริงที่ว่าอำนาจของตนในระดับหนึ่งเกินกว่าแนวความคิดของลักษณะ "อำนาจของรัฐบาล" ของร่างกายที่ดำเนินกิจกรรมการบริหารและการบริหารรอง ในทางกฎหมาย สิ่งนี้ได้แสดงไว้ในสิ่งพิมพ์ของสภาผู้แทนราษฎร ไม่เพียงแต่ในการดำเนินการของรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระราชกฤษฎีกาด้วย - การกระทำที่มีลักษณะเป็นกฎหมายด้วย

สถานที่หลักในกิจกรรมของเขาถูกครอบครองโดยงานสร้างสรรค์งานองค์กรและความคิดสร้างสรรค์: การสร้างเศรษฐกิจสังคมนิยมใหม่ความสำเร็จของผลผลิตสูงสุด แรงงานสังคม, การพัฒนาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างครอบคลุม, การศึกษาคอมมิวนิสต์ของคนทำงาน, การสร้างเงื่อนไขเพื่อความพึงพอใจสูงสุดต่อความต้องการด้านวัตถุและวัฒนธรรมของพวกเขา

ในความหมายกว้าง ๆ เครื่องมือของรัฐโซเวียตประกอบด้วยโซเวียตที่มีการแตกแขนงออกไปในศูนย์กลางและในท้องที่ในรูปแบบของเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การบริหาร การป้องกันและหน่วยงานอื่น ๆ และองค์กรสาธารณะจำนวนมากของคนงานด้วยทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

ในแนวคิดที่แคบ มันครอบคลุมอำนาจรัฐสูงสุดและท้องถิ่น - สภาผู้แทนราษฎรที่ทำงานซึ่งสร้างหน่วยงานของรัฐ: ในศูนย์ - ครั้งแรกสภาผู้บังคับการตำรวจแล้วจากนั้นคณะรัฐมนตรีของ สหภาพโซเวียตและคณะรัฐมนตรีของสหภาพและสาธารณรัฐปกครองตนเองตลอดจนกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ในสาขา - คณะกรรมการบริหารของโซเวียตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทำงาน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม, ฟาร์มรวม, ฟาร์มของรัฐ, MTS, กำกับการพัฒนาสาธารณูปโภค, การค้า, จัดเลี้ยงแสดงความห่วงใยต่อบริการด้านวัฒนธรรมและชุมชนของประชากร

เรื่องของการวิจัยคือโครงสร้างของสภาผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตในการโต้ตอบกับโครงสร้างของรัฐ

จุดมุ่งหมาย ภาคนิพนธ์เป็น ความหมายทางประวัติศาสตร์ SNK สหภาพโซเวียต

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ จำเป็นต้องแก้ไขงานต่อไปนี้:

.เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์การก่อตั้งสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

.กำหนดสถานที่ของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธรัฐรัสเซียในระบบราชการ

.เพื่อสังเกตความสำคัญทางกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตในการบริหารราชการ

บทที่ 1 การสร้างสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

.1 ประวัติสภาผู้แทนราษฎร

รัฐบาลของรัฐกรรมกรและชาวนาเป็นรัฐแรกของโลกได้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในฐานะสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม (8 พฤศจิกายน) ค.ศ. 1917 วันรุ่งขึ้นหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติสังคมนิยมในเดือนตุลาคมที่ยิ่งใหญ่ โดยมติของสภาแรงงานและทหารโซเวียต All-Russian ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลแรงงานและชาวนา

พระราชกฤษฎีกาที่เขียนโดย V.I. Lenin ระบุว่าการปกครองประเทศ “จนกว่าจะมีการเรียกประชุมของ สภาร่างรัฐธรรมนูญรัฐบาลแรงงานชั่วคราวและชาวนาซึ่งจะเรียกว่าสภาผู้แทนราษฎร” V.I. เลนินได้รับเลือกให้เป็นประธานคนแรกของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งทำงานในตำแหน่งนี้เป็นเวลาเจ็ดปี (พ.ศ. 2460-2467) จนกระทั่งเสียชีวิต เลนินพัฒนาหลักการพื้นฐานของกิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นงานที่ต้องเผชิญกับหน่วยงานสูงสุดของการบริหารรัฐของสาธารณรัฐโซเวียต

ชื่อ "ชั่วคราว" ที่มีการยุบสภาร่างรัฐธรรมนูญหายไป องค์ประกอบแรกของสภาผู้แทนราษฎรเป็นพรรคเดียว - รวมเฉพาะพวกบอลเชวิค ข้อเสนอของฝ่ายซ้ายสังคมนิยม-ปฏิวัติเพื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรถูกปฏิเสธโดยพวกเขา ธ.ค. ในปีพ.ศ. 2460 ฝ่ายซ้ายสังคมนิยม-ปฏิวัติได้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและอยู่ในตำแหน่งก่อนจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2461 พวกเขาออกจากสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับบทสรุปของสันติภาพเบรสต์และเข้ารับตำแหน่งต่อต้านการปฏิวัติ . ในอนาคต CHK ก่อตั้งขึ้นโดยตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 1918 ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของรัฐสภาโซเวียต All-Russian ครั้งที่ 5 รัฐบาลของสาธารณรัฐถูกเรียกว่าสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR

รัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 1918 กำหนดหน้าที่หลักของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR การจัดการทั่วไปของกิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR เป็นของคณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian องค์ประกอบของเกาะ Prospect ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต All-Russian หรือรัฐสภาของโซเวียต สภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิที่จำเป็นอย่างเต็มที่ในด้านกิจกรรมการบริหารและการบริหารและร่วมกับคณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian มีสิทธิในการออกกฤษฎีกา การใช้อำนาจบริหารและการบริหารสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR กำกับกิจกรรมของผู้แทนราษฎรและศูนย์อื่น ๆ หน่วยงานและกำกับและดูแลกิจกรรมของหน่วยงานท้องถิ่น

การบริหารกิจการของสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนราษฎรขนาดเล็กก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม (5 กุมภาพันธ์) พ.ศ. 2461 กลายเป็นคณะกรรมการถาวรของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR สำหรับการพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับประเด็นที่ส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรและประเด็นของกฎหมายปัจจุบันสำหรับการจัดการแผนกสาขาการบริหารราชการและรัฐบาล ในปี ค.ศ. 1930 สภาผู้แทนราษฎรขนาดเล็กถูกยกเลิก โดยคำสั่งของคณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 ได้มีการจัดตั้งขึ้นภายใต้หัวหน้า V.I. สภาแรงงานและการป้องกันชาวนาของสภาเลนิน 2461-2563 ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2463 ได้มีการแปรสภาพเป็นสภาแรงงานและกลาโหม (STO) ประสบการณ์ของ SNK แรกถูกใช้ในรัฐ การก่อสร้าง pr-in สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตทั้งหมด

ภายหลังการรวมสาธารณรัฐโซเวียตให้เป็นหนึ่งเดียว รัฐสหภาพ- สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (USSR) ก่อตั้งรัฐบาลสหภาพ - สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต ระเบียบว่าด้วยสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกลางเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตก่อตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและเป็นผู้บริหารและผู้บริหาร สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตดูแลกิจกรรมของผู้แทนประชาชนทั้งหมดและสหภาพสาธารณรัฐ (สหภาพสาธารณรัฐ) พิจารณาและอนุมัติพระราชกฤษฎีกาและมติเกี่ยวกับความสำคัญของสหภาพทั้งหมดภายใต้สิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2467 บทบัญญัติเกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎรของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและการกระทำทางกฎหมายอื่น ๆ พระราชกฤษฎีกาและมติของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีผลผูกพันกับอาณาเขตทั้งหมดของสหภาพโซเวียตและอาจถูกระงับและยกเลิกโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและรัฐสภา เป็นครั้งแรกที่องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตนำโดยเลนินได้รับการอนุมัติในสมัยที่ 2 ของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต ตามระเบียบปี พ.ศ. 2466 ประกอบด้วย ประธาน รอง ประธานผู้บังคับการตำรวจของสหภาพโซเวียต; ผู้แทนของสาธารณรัฐสหภาพเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยสิทธิในการลงคะแนนเสียงที่ปรึกษา

ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นลูกบุญธรรมในปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเป็นผู้บริหารและผู้บริหารสูงสุดของอำนาจรัฐ ล้าหลัง. มันก่อตัวเป็นท็อป สหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียต รัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 ได้กำหนดความรับผิดชอบและความรับผิดชอบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตสูงสุด สภาและระหว่างการประชุมด้านบน สหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียต - รัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้รวมตัวกันและกำกับดูแลการทำงานของคณะกรรมาธิการทั้งหมดของสหภาพโซเวียตและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตและครัวเรือนอื่น ๆ ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และสถาบันวัฒนธรรมได้ดำเนินมาตรการเพื่อดำเนินการ nar.-hoz. แผน, นาง งบประมาณใช้ความเป็นผู้นำในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับต่างประเทศเป็นผู้นำการพัฒนาทั่วไปของกองกำลังติดอาวุธของประเทศ ฯลฯ ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีสิทธิ์ที่จะระงับการตัดสินใจและคำสั่ง ของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพสาธารณรัฐในสาขาการจัดการและเศรษฐกิจที่อยู่ในความสามารถของสหภาพโซเวียตและยกเลิกคำสั่งและคำแนะนำของผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียต ศิลปะ. 71 แห่งรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 กำหนดสิทธิของคำขอของรอง: ตัวแทนของสภาผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติหรือผู้บังคับการตำรวจของสหภาพโซเวียตซึ่งรองผู้ว่าการสูงสุดของสหภาพโซเวียตเป็นคำขอ จำเป็นต้องให้คำตอบด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษรในห้องที่เหมาะสม

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 ก่อตั้งขึ้นในสมัยที่ 1 ของท็อป สภาสหภาพโซเวียต 19 ม.ค. 2481 30 มิถุนายน 2484 โดยการตัดสินใจของรัฐสภาอัปเปอร์ สภาสหภาพโซเวียต, คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ All-Union แห่งบอลเชวิคและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้สร้างคณะกรรมการป้องกันประเทศ (GKO) ซึ่งรวบรวมความสมบูรณ์ของอำนาจรัฐในสหภาพโซเวียตในช่วงมหาราช สงครามรักชาติ 2484-45

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนเป็นคณะผู้บริหารและผู้บริหารสูงสุดของอำนาจรัฐในสาธารณรัฐยูเนี่ยน เขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อสภาสูงสุดของสาธารณรัฐและรับผิดชอบต่อเขาและในช่วงเวลาระหว่างการประชุมสุดยอด สภา - ต่อหน้าประธานาธิบดีสูงสุด สภาแห่งสาธารณรัฐและรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 ออกมติและคำสั่งบนพื้นฐานของและตามกฎหมายที่มีอยู่ของสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐสหภาพ มติและคำสั่งของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตและมีหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินการของพวกเขา

1.2 องค์ประกอบและการก่อตัวของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

ขั้นตอนที่สำคัญในการนำรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตมาใช้ในปี 2467 คือการประชุมครั้งที่สองของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตซึ่งเปิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2466

คณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตได้จัดตั้งรัฐบาลโซเวียตขึ้น - สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเป็นผู้บริหารและผู้บริหารของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและรับผิดชอบในการทำงานกับมันและรัฐสภา (มาตรา 37 ของรัฐธรรมนูญ) บทเกี่ยวกับอวัยวะสูงสุดของสหภาพโซเวียตเป็นที่ประดิษฐานความสามัคคีของอำนาจนิติบัญญัติและผู้บริหาร

ในการจัดการสาขาของรัฐบาลมีการสร้างผู้แทนของสหภาพโซเวียตจำนวน 10 คน (บทที่ 8 ของรัฐธรรมนูญแห่งสหภาพโซเวียตปี 2467): ห้าสหภาพทั้งหมด (สำหรับการต่างประเทศการทหารและกองทัพเรือการค้าต่างประเทศการสื่อสารไปรษณีย์และโทรเลข ) และห้าสห (สภาสูงสุดของเศรษฐกิจแห่งชาติ , อาหาร, แรงงาน, การเงินและการตรวจสอบแรงงานและชาวนา). ผู้แทนราษฎรของ All-Union มีตัวแทนในสาธารณรัฐสหภาพ ผู้แทนราษฎรของประชาชนเป็นผู้นำในอาณาเขตของสาธารณรัฐสหภาพผ่านผู้แทนราษฎรของสาธารณรัฐ ในด้านอื่น ๆ การจัดการดำเนินการโดยสาธารณรัฐสหภาพเท่านั้นผ่านผู้แทนราษฎรที่เกี่ยวข้อง: การเกษตร, กิจการภายใน, ความยุติธรรม, การศึกษา, สุขภาพ, ประกันสังคม

ผู้บังคับการตำรวจของสหภาพโซเวียตนำโดยผู้บังคับการตำรวจ กิจกรรมของพวกเขาผสมผสานหลักการของเพื่อนร่วมงานและความสามัคคีในการบังคับบัญชา ภายใต้ผู้บังคับการตำรวจภายใต้ตำแหน่งประธานวิทยาลัยได้ก่อตั้งขึ้นซึ่งสมาชิกได้รับการแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต ผู้แทนราษฎรมีสิทธิที่จะตัดสินใจเพียงลำพัง ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากวิทยาลัย คณะกรรมการหรือสมาชิกรายบุคคลในกรณีที่ไม่เห็นด้วยสามารถอุทธรณ์คำตัดสินของผู้บังคับการตำรวจไปยังสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตโดยไม่ระงับการดำเนินการตามคำตัดสิน

เซสชั่นที่สองอนุมัติองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตและเลือก V. I. เลนินเป็นประธาน

เนื่องจาก V. I. เลนินป่วย ความเป็นผู้นำของสภาผู้แทนราษฎรจึงดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ห้าคน: L. B. Kamenev, A. I. Rykov, A. D. Tsyurupa, V. Ya. Chubar, M. D. Orakhelashvili ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2466 Chubar ยูเครนเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งยูเครนและจอร์เจีย Orakhelashvili เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่ง TSFSR ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติหน้าที่โดยตรงก่อนอื่น ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 Rykov จะกลายเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต Rykov และ Tsyurupa เป็นชาวรัสเซียในขณะที่ Kamenev เป็นชาวยิว จากตัวแทนห้าคนของสภาผู้แทนราษฎรมีเพียง Orakhelashvili เท่านั้นที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอีกสี่คนมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเป็นผู้สืบทอดโดยตรงของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR นอกจากประธานและผู้แทน 5 คนแล้ว สภาผู้แทนราษฎรชุดแรกของสหภาพยังรวมถึงผู้บังคับการตำรวจ 10 คนและประธาน OGPU ด้วยคะแนนเสียงที่ปรึกษา ตามปกติแล้ว เมื่อเลือกผู้นำสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ปัญหาก็เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนที่จำเป็นจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการจัดตั้งผู้แทนราษฎรพันธมิตร ผู้แทนราษฎรของ RSFSR เพื่อการต่างประเทศ การค้าต่างประเทศ การสื่อสาร ไปรษณีย์และโทรเลข สำหรับการทหารและกิจการทหารเรือ ได้เปลี่ยนเป็นสหภาพแรงงาน ข้าราชการสภาราษฎรในสมัยนั้นยังคงก่อตัวขึ้นจากอดีตพนักงานฝ่ายบริหารและผู้เชี่ยวชาญในสมัยก่อนปฏิวัติเป็นหลัก สำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นลูกจ้างก่อนการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2464-2465 คิดเป็นเพียง 2.7% ซึ่งอธิบายได้จากจำนวนพนักงานที่รู้หนังสือไม่เพียงพอ พนักงานเหล่านี้หลั่งไหลจากผู้แทนราษฎรชาวรัสเซียไปยังสหภาพแรงงานโดยอัตโนมัติ โดยมีพนักงานจำนวนน้อยมากที่ย้ายจากสาธารณรัฐ

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนก่อตั้งขึ้นโดยสภาสูงสุดของสาธารณรัฐยูเนี่ยนและประกอบด้วย: ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยน รองประธาน; ประธานคณะกรรมการผังเมือง ผู้แทนราษฎร: อุตสาหกรรมอาหาร; อุตสาหกรรมเบา อุตสาหกรรมป่าไม้ เกษตรกรรม; ฟาร์มข้าวและปศุสัตว์ การเงิน; การค้าภายในประเทศ กิจการภายใน; ความยุติธรรม; สุขภาพ; ตรัสรู้; อุตสาหกรรมท้องถิ่น สาธารณูปโภค; ประกันสังคม; คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างที่ได้รับมอบอำนาจ หัวหน้าภาควิชาศิลปะ; ได้รับอนุญาตจากผู้แทนราษฎรของ All-Union People

1.3 ประวัติกรอบกฎหมายของ SNK

ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 กิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรคือ:

· การจัดการกิจการทั่วไปของ RSFSR การจัดการของแต่ละสาขาของรัฐบาล (มาตรา 35, 37)

· การออกกฎหมายและการใช้มาตรการ "ที่จำเป็นสำหรับวิถีชีวิตสาธารณะปกติและรวดเร็ว" (ข้อ 38)

ผู้แทนราษฎรมีสิทธิในการตัดสินใจเพียงลำพังในประเด็นทั้งหมดภายในเขตอำนาจของผู้แทนราษฎร นำพวกเขาไปสู่ความสนใจของวิทยาลัย (มาตรา 45)

เกี่ยวกับทุกคน มติที่นำมาใช้และการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎรแจ้งให้คณะกรรมการบริหารกลางทั้งหมดของรัสเซีย (มาตรา 39) ซึ่งมีสิทธิ์ระงับและยกเลิกการตัดสินใจหรือการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 40)

กำลังสร้างผู้แทนราษฎร 17 คน (ในรัฐธรรมนูญ ตัวเลขนี้ระบุอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากมี 18 คนในรายการที่นำเสนอในมาตรา 43)

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้แทนราษฎรของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR<#"justify">· ด้านการต่างประเทศ

· เกี่ยวกับกิจการทหาร

· สำหรับกิจการทางทะเล

· บน กิจการภายใน;

· ความยุติธรรม;

· แรงงาน;

· ประกันสังคม

· การศึกษา;

· ไปรษณีย์และโทรเลข;

· เกี่ยวกับกิจการของสัญชาติ

· บน กิจการทางการเงิน;

· วิธีการสื่อสาร;

· เกษตรกรรม;

· การค้าและอุตสาหกรรม

· อาหาร;

· สภาสูงสุดของเศรษฐกิจแห่งชาติ;

· ดูแลสุขภาพ.

ภายใต้ผู้บังคับการตำรวจของแต่ละคนและภายใต้ตำแหน่งประธานของเขา มีการจัดตั้งวิทยาลัยขึ้น ซึ่งสมาชิกได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 44)

ด้วยการก่อตัวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2465 ของสหภาพโซเวียต<#"justify">· การค้าภายในประเทศ

· แรงงาน

· การเงิน

· RCT

· กิจการภายใน

· ความยุติธรรม

· ตรัสรู้

· ดูแลสุขภาพ

· เกษตรกรรม

· ประกันสังคม

· VSNKh

ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้รวมสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงชี้ขาดหรือคำปรึกษาซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตภายใต้รัฐบาลของ RSFSR สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้จัดสรรผู้แทนถาวรของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต (ตามข้อมูลของ SU, 1924, N 70, Art. 691.) ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2467 สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR และสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีการบริหารกิจการเดียว (ตามวัสดุของ TsGAOR ของสหภาพโซเวียต, f. 130, op. 25, d. 5, l. 8)

ด้วยการแนะนำรัฐธรรมนูญของ RSFSR ลงวันที่ 21 มกราคม 2480<#"justify">· อุตสาหกรรมอาหาร

· อุตสาหกรรมเบา

· อุตสาหกรรมไม้

· เกษตรกรรม

· ฟาร์มรัฐธัญพืช

· ฟาร์มปศุสัตว์

· การเงิน

· การค้าภายในประเทศ

· ความยุติธรรม

· ดูแลสุขภาพ

· ตรัสรู้

· อุตสาหกรรมท้องถิ่น

· สาธารณูปโภค

· ประกันสังคม

สภาผู้แทนราษฎรยังรวมถึงประธานคณะกรรมการวางแผนแห่งรัฐของ RSFSR และหัวหน้ากรมศิลปากรภายใต้สภาผู้แทนราษฎรของ RSFSR

บทที่ 2 งานและอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

.1 อำนาจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพออกมติและคำสั่งบนพื้นฐานของและตามกฎหมายที่มีอยู่ของสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐยูเนี่ยนมติและคำสั่งของสภาผู้บังคับการตำรวจที่ไม่ใช่เจ้าของสหภาพโซเวียตและตรวจสอบของพวกเขา การดำเนินการ

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพมีสิทธิที่จะระงับการตัดสินใจและคำสั่งของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐปกครองตนเองและเพื่อยกเลิกการตัดสินใจและคำสั่งของคณะกรรมการบริหารของสหภาพโซเวียตของผู้แทนดินแดนทำงานภูมิภาคและเขตปกครองตนเอง .

ผู้บังคับการตำรวจแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนสั่งการสาขาการบริหารของรัฐที่อยู่ในความสามารถของสาธารณรัฐยูเนี่ยน

ปัญหาผู้บังคับการตำรวจแห่งสาธารณรัฐสหภาพภายใต้อำนาจของผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ คำสั่งและคำแนะนำบนพื้นฐานของและตามกฎหมายของสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐสหภาพ มติและคำสั่งของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐ สหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐยูเนี่ยน คำสั่งและคำแนะนำของผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติของสหภาพโซเวียต

ผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนเป็นสหภาพรีพับลิกันหรือรีพับลิกัน

คณะกรรมาธิการของสหภาพสาธารณรัฐประชาชนของสหภาพ-รีพับลิกันกำกับสาขาการบริหารของรัฐที่ได้รับมอบหมาย โดยรายงานทั้งต่อสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนและต่อผู้บังคับบัญชาการสหภาพสาธารณรัฐประชาชนของสหภาพโซเวียตที่เกี่ยวข้อง

ผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันชี้นำสาขาการบริหารของรัฐที่ได้รับมอบหมาย โดยรายงานตรงต่อสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยน

งานที่สำคัญที่สุดของสภาผู้แทนราษฎรคือการฟื้นฟูชีวิตทางเศรษฐกิจ ในระหว่าง สงครามกลางเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัด วินัยแรงงานและการขาดงานถึง 30-40% ความเข้มและประสิทธิผลของแรงงานลดลงประมาณ 10-15% เมื่อเทียบกับปี 1913 ค่าแรงที่แท้จริงลดลง ทั้งจำนวน ค่าจ้างค่าเฉลี่ยของ RSFSR ในปี 2462-2464 เป็น 38-40% ของระดับก่อนสงคราม อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปีพ. ศ. 2465 เริ่มเพิ่มขึ้นและในฤดูใบไม้ผลิปี 2466 ถึง 60%

ในช่วงต้นยุค 20 อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปอย่างรวดเร็วพอสมควร ในสุนทรพจน์ของเขาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2466 A. I. Rykov สังเกตเห็นการเติบโตที่เห็นได้ชัดเจนในอุตสาหกรรม ถ้าปี 1920 ถูกใช้เป็น 100% สำหรับตัวบ่งชี้นี้ ดังนั้น 1921-119%, 1922-146% และ 1923-216% อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2466 ปริมาณการผลิตภาคอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2456 มีเพียง 40.3% และการผลิต เกษตรกรรม-75% แน่นอน สิ่งสำคัญในการสร้างสหภาพขึ้นอยู่กับความสำเร็จทางเศรษฐกิจ

ในขณะเดียวกัน งานในการก่อสร้างนี้ยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุด ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2466 การประชุมครั้งแรกของประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพเกิดขึ้นและในวันที่ 29 กันยายนของปีเดียวกันครั้งที่สอง คณะกรรมาธิการของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตเพื่อจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต, สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตและผู้แทนของสหภาพโซเวียตได้พบกันเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 13 กันยายน 22 ตุลาคม 23 และ 24 เร็วเท่าที่ 24 สิงหาคม 2466 รัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตอนุมัติคำสั่งของวันสำหรับเซสชั่นที่สามของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตซึ่งเปิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนและสิ้นสุดในวันที่ 12 พฤศจิกายนของปีเดียวกัน ตัวแทนทั้งหมดของ CEC ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพได้จัดทำรายงานของพวกเขา ขณะที่งานกำลังดำเนินการอยู่ในคณะกรรมาธิการเพื่อเตรียมการตัดสินใจของเซสชั่นนี้ คณะกรรมาธิการมีงานจำนวนมากซึ่งได้รับมอบหมายให้พัฒนากฎระเบียบเกี่ยวกับหน่วยงานกลางของสหภาพโซเวียตโดยคำนึงถึงการแก้ไขที่เสนอโดยสาธารณรัฐสหภาพสำหรับโครงการที่ส่งเพื่อขออนุมัติโดยเซสชั่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีชีวิตชีวาเกิดขึ้นในคณะกรรมาธิการที่พัฒนา "ระเบียบว่าด้วยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต" ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับระบบทวิภาคีเนื่องจากบางคนคิดว่ามันฟุ่มเฟือยที่จะสร้างสภาเชื้อชาติและสนับสนุนการทำให้การประชุมของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตง่ายขึ้น ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 และประกอบด้วยสิบบท ในทางกลับกัน 79 ย่อหน้า มันมีไว้สำหรับการประชุม CEC ของสหภาพโซเวียตทั้งแบบปกติและพิเศษและจะมีการประชุมปกติสามครั้งต่อปี บทพิเศษอุทิศให้กับสภาฝ่ายสัมพันธมิตร สภาเชื้อชาติ และคณะกรรมการประนีประนอม ในกรณีที่อาจมีความขัดแย้งระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการประชุมร่วมกันของทั้งสองห้องซึ่งมีการอุทิศบทแยกต่างหาก หน้าที่ของรัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตได้อธิบายไว้อย่างละเอียด เหนือสิ่งอื่นใด มันยังจัดให้มีสิ่งต่อไปนี้: “รัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตออกกฤษฎีกา, มติและคำสั่ง, พิจารณาและอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาและมติที่ส่งโดยสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต, แต่ละแผนกของ สหภาพโซเวียต คณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐสหภาพ รัฐสภา และหน่วยงานอื่น ๆ "

รัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตยังได้รับสิทธิ์ในการยกเลิกการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต, สิทธิในการนิรโทษกรรม, สิทธิในการให้อภัย ฯลฯ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลาง ของสหภาพโซเวียตและ เจ้าหน้าที่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆจะต้องดำเนินการโดยประธานและเลขานุการคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต ในเวลาเดียวกันทั้งเครื่องมือเลขานุการและเทคนิคของ CEC ของสหภาพโซเวียตจะต้องอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลและอยู่ภายใต้การนำของเลขานุการของ CEC ของสหภาพโซเวียต ในวันเดียวกันนั้นเอง วันที่ 12 พฤศจิกายน ได้มีการนำกฎระเบียบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตและผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตมาใช้ เมื่อพูดถึงบทบัญญัติของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อถึงวรรคเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่นที่สร้างขึ้นโดยสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตโดยเฉพาะในคณะกรรมาธิการเพื่อสมมติฐานทางกฎหมายคณะกรรมการบริหารและการเงินและอื่น ๆ ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามซึ่งคณะกรรมาธิการทั้งหมดภายใต้สภาผู้แทนราษฎรและ STO ซึ่งมีสิทธิในการบริหารและการบริหาร ควรจะรวมถึงผู้แทนของสาธารณรัฐสหภาพด้วยคะแนนเสียงชี้ขาด

โดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตร่างนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตและเป็นหน่วยงานบริหารและการบริหาร นอกจากประธานและเจ้าหน้าที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรยังรวมถึงผู้แทนราษฎรเพื่อการต่างประเทศ กิจการทหารและกองทัพเรือ การค้าต่างประเทศ การสื่อสาร ไปรษณีย์และโทรเลข การตรวจสอบคนงานและชาวนา แรงงาน อาหาร การเงิน และประธาน ของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ผู้แทนของสาธารณรัฐสหภาพ รวมทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพ สามารถเข้าร่วมในฐานะที่ปรึกษาพร้อมกับตัวแทนของหน่วยงานอื่นๆ เขตอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตยังรวมถึง "การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐสหภาพในประเด็นที่อยู่ในความสามารถของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตเช่นเดียวกับ ความขัดแย้ง ทั้งระหว่างผู้แทนประชาชนของสหภาพโซเวียต และระหว่างหลังกับสภาผู้แทนประชาชนของสาธารณรัฐสหภาพ" คณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐสหภาพรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันก็มีสิทธิ์ส่งคำถามเพื่อการพิจารณาโดยสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

« ตำแหน่งทั่วไปเกี่ยวกับผู้บังคับการตำรวจของสหภาพโซเวียต” ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนซึ่งมีไว้สำหรับการสร้างผู้บังคับการตำรวจสองประเภท - สหภาพทั้งหมดนั่นคือเครื่องแบบสำหรับสหภาพโซเวียตทั้งหมดและรวมกันเป็นหนึ่ง คณะกรรมาธิการทั้งหมดรวมถึง: การต่างประเทศ กิจการทหารและกองทัพเรือ การค้าต่างประเทศ การสื่อสาร ไปรษณีย์ และโทรเลข; สู่สหพันธรัฐ: สภาสูงสุดแห่งเศรษฐกิจ อาหาร แรงงาน การเงิน การตรวจสอบแรงงานและชาวนา "บทบัญญัติทั่วไป" นี้จัดทำขึ้นสำหรับการรวบรวมบทบัญญัติพิเศษของตนเองสำหรับคณะกรรมาธิการแต่ละแห่งภายใต้การอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต มันจัดให้มีการระงับโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐสหภาพหรือรัฐสภาของคำสั่งเหล่านั้นของผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตกฎหมายของสหภาพหรือกฎหมายของสาธารณรัฐสหภาพ .

ผู้แทนของสหภาพทั้งหมดได้รับสิทธิที่จะมีผู้แทนของตนเองภายใต้สาธารณรัฐแห่งสหภาพซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงกับพวกเขา ตัวแทนเหล่านี้ได้รับการเสนอชื่อโดยคณะกรรมาธิการของสหภาพโซเวียตโดยตรงหรือตามคำแนะนำของคณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐยูเนี่ยนและต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต นอกจากนี้สำหรับผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด การเรียกคืนคณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐสหภาพซึ่งมีสิทธิที่จะท้าทายกรรมาธิการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้อบังคับ ผู้แทนของคณะกรรมการประชาชนของ All-Union People เหล่านี้จะต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐยูเนี่ยนด้วยคะแนนเสียงที่ให้คำปรึกษาหรือชี้ขาดตามการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐแห่งสหภาพหรือรัฐสภา คำสั่งของผู้แทนของสหภาพทั้งหมดมีผลผูกพันในการดำเนินการโดยตรงทั่วอาณาเขตทั้งหมดของสหภาพโซเวียต คณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพโซเวียตต้องดำเนินงานและคำสั่งทั้งหมดผ่านผู้แทนประชาชนที่มีชื่อเดียวกันในสาธารณรัฐสหภาพ หัวหน้าคณะผู้แทนของสาธารณรัฐสหภาพที่มีชื่อเดียวกันอาจถูกแต่งตั้งและเรียกคืนโดยคณะกรรมการบริหารกลางของสาธารณรัฐสหภาพ

2.2 กิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต

กิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรได้แสดงออกในการต่อสู้เพื่อเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพการสร้าง ระบบใหม่เครื่องมือของรัฐการออกกฤษฎีกาและมติ สภาผู้แทนราษฎรออกกฤษฎีกาและมติจำนวนมาก พวกเขารับเอาชีวิตทางการเมืองและรัฐทุกแขนง ก่อร่างการต่อสู้ทางชนชั้นและผลประโยชน์ เคลียร์พื้นที่สำหรับการสร้างสังคมนิยม

สภาผู้แทนราษฎรประชุมเกือบทุกวัน โดยอนุมัติพระราชกฤษฎีกาและมติหลายฉบับต่อวัน มีหลายวันที่มีการใช้พระราชกฤษฎีกาหลายสิบฉบับ ลองยกตัวอย่าง

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2481 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้จัดตั้งหนังสือทำงาน "เปลือก" นี้ - สมุดงาน (TK) - was องค์ประกอบสำคัญระบบบริหาร-บัญชาการของสหภาพโซเวียต สมุดงานเล่มแรกปรากฏขึ้นหนึ่งปีหลังการปฏิวัติ พวกบอลเชวิคยกเลิกหนังสือเดินทางของราชวงศ์และแนะนำบัตรประจำตัวของพวกเขาเอง พระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2461 ถูกเรียกอย่างฉะฉาน: "ในหนังสืองานสำหรับคนที่ไม่ทำงาน"

ทางเลือกหนึ่งสำหรับบริการแรงงานคือศาลปฏิวัติซึ่งได้รับคำแนะนำจาก "คำสั่งแห่งมโนธรรมปฏิวัติ" หรือการอดอาหารโดยไม่มีการปันส่วน

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2462 คณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian ได้แนะนำการนับจำนวน: สมุดงานรับโดยทุกคนที่มีอายุมากกว่า 16 ปี หน้าแรกมีข้อความเตือนว่า "อย่าให้คนงานกิน" แม้แต่เลนินก็ได้รับเอกสารดังกล่าว

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2469 สภาผู้แทนราษฎรได้แนะนำ " รายการแรงงาน". ตอนนี้เอกสารนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกพนักงานโซเวียต มีการบันทึกสัญชาติของคนงาน สถานภาพทางสังคม สมาชิกพรรคและแม้กระทั่งการขึ้นทะเบียนทหาร

พระราชกฤษฎีกาสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สิน รัฐวิสาหกิจ, ฟาร์มรวมและความร่วมมือและการเสริมสร้างทรัพย์สินสาธารณะ.

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการร้องเรียนจากคนงานและกลุ่มเกษตรกรเกี่ยวกับการขโมย (ขโมย) สินค้าบนรถไฟและการขนส่งทางน้ำ และการโจรกรรม (การขโมย) ทรัพย์สินของสหกรณ์และฟาร์มส่วนรวมโดยนักเลงหัวไม้และองค์ประกอบที่ต่อต้านสังคมโดยทั่วไปมีมากขึ้นเรื่อยๆ เท่าเทียมกันการร้องเรียนเกี่ยวกับความรุนแรงและการข่มขู่โดยองค์ประกอบ kulak ต่อเกษตรกรส่วนรวมที่ไม่ต้องการออกจากฟาร์มส่วนรวมและผู้ที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์และเสียสละเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มหลังได้กลายเป็นเรื่องบ่อยขึ้น

คณะกรรมการบริหารกลางและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตพิจารณาว่าทรัพย์สินสาธารณะ (รัฐ ฟาร์มส่วนรวม สหกรณ์) เป็นพื้นฐานของระบบโซเวียต เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขัดขืนไม่ได้ และบุคคลที่บุกรุกทรัพย์สินสาธารณะควรถือเป็น ศัตรูของประชาชนซึ่งเป็นเหตุให้การต่อสู้อย่างเด็ดขาดกับการปล้นทรัพย์สินสาธารณะเป็นหน้าที่แรกของอวัยวะที่มีอำนาจของสหภาพโซเวียต

จากการพิจารณาเหล่านี้และตอบสนองความต้องการของคนงานและเกษตรกรโดยรวม คณะกรรมการบริหารกลางและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้ตัดสินใจ:

เพื่อให้ความเท่าเทียมกันของสินค้าในการขนส่งทางรถไฟและทางน้ำเป็นทรัพย์สินของรัฐและเพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองสินค้าเหล่านี้ในทุกวิถีทาง

เพื่อใช้เป็นมาตรการในการปราบปรามการโจรกรรมสินค้าบนรถไฟและการขนส่งทางน้ำ มาตรการคุ้มครองทางสังคมสูงสุด - ประหารชีวิตด้วยการริบทรัพย์สินทั้งหมดและทดแทนภายใต้พฤติการณ์แห่งการลดหย่อนโทษ โดยจำคุกเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี โดยมีการริบ ของทรัพย์สิน

ห้ามมิให้นิรโทษกรรมแก่ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในการขนส่ง

เพื่อให้มูลค่าทรัพย์สินของฟาร์มรวมและสหกรณ์มีค่าเท่ากัน (การเก็บเกี่ยวในทุ่งนา สต็อกสาธารณะ ปศุสัตว์ โกดังและร้านค้าของสหกรณ์ ฯลฯ) กับทรัพย์สินของรัฐและเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ในการปกป้องทรัพย์สินนี้จากการปล้น

เพื่อใช้เป็นมาตรการในการปราบปรามการโจรกรรม (การโจรกรรม) ของฟาร์มส่วนรวมและทรัพย์สินของสหกรณ์ มาตรการสูงสุดของการคุ้มครองทางสังคม - การดำเนินการด้วยการริบทรัพย์สินทั้งหมดและทดแทนภายใต้พฤติการณ์ที่ลดหย่อนโทษจำคุกเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี ด้วยการริบทรัพย์สินทั้งหมด

อย่าใช้การนิรโทษกรรมกับอาชญากรที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดในคดีฉ้อฉลในฟาร์มส่วนรวมและทรัพย์สินของสหกรณ์

ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวกับกลุ่มทุนนิยมที่ต่อต้านสังคมคูลัก-ทุนนิยมที่ใช้ความรุนแรงและข่มขู่ หรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงและข่มขู่ต่อกลุ่มเกษตรกรเพื่อบังคับให้คนหลังออกจากฟาร์มส่วนรวมโดยมีจุดประสงค์เพื่อทำลายล้าง ฟาร์มรวม เทียบอาชญากรรมเหล่านี้กับอาชญากรรมของรัฐ

เพื่อเป็นมาตรการในการปราบปรามของศาลในกรณีที่ปกป้องฟาร์มส่วนรวมและกลุ่มเกษตรกรจากความรุนแรงและการคุกคามจาก kulak และองค์ประกอบต่อต้านสังคมอื่น ๆ จำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปีโดยจำคุกในค่ายกักกัน

อย่าใช้การนิรโทษกรรมกับอาชญากรที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดในคดีนี้

25 มิถุนายน พ.ศ. 2475 พระราชกฤษฎีกาของคณะกรรมการบริหารกลางและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเรื่องความชอบธรรมในการปฏิวัติ

เฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่สิบของการจัดตั้งสำนักงานอัยการและความสำเร็จที่ได้รับในช่วงเวลานี้ในสหภาพโซเวียตในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกฎหมายปฏิวัติซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญที่สุดในการเสริมสร้างระบอบเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพปกป้องผลประโยชน์ของคนงานและชาวนาที่ทำงานและต่อสู้ ศัตรูชั้นคนงาน (กุลลัก, นักเก็งกำไร, ผู้ทำลายล้างชนชั้นกลาง) และตัวแทนทางการเมืองต่อต้านการปฏิวัติของพวกเขา คณะกรรมการบริหารกลางและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตชี้ให้เห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีอยู่ของการละเมิดกฎหมายปฏิวัติจำนวนมากยังคงมีอยู่โดย เจ้าหน้าที่และการบิดเบือนในทางปฏิบัติโดยเฉพาะในชนบท

เพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยที่สุดสำหรับการปรับโครงสร้างการเกษตรของสังคมนิยมคณะกรรมการบริหารกลางและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตจึงตัดสินใจ:

ให้ยกเลิกการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตให้เช่าที่ดินและการใช้แรงงานจ้างเป็นรายบุคคล ฟาร์มชาวนา(หมวด VII และ VIII ของหลักการทั่วไปของการใช้ที่ดินและการจัดการที่ดิน)

ข้อยกเว้นของกฎข้อนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับฟาร์มชาวนากลางอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารเขตภายใต้การกำกับดูแลและการควบคุมของคณะกรรมการบริหารเขต

ให้สิทธิ์แก่คณะกรรมการบริหารไกร (ภูมิภาค) และรัฐบาลของสาธารณรัฐปกครองตนเองเพื่อใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดในการต่อสู้กับกูลักในพื้นที่เหล่านี้ จนถึงการริบทรัพย์สินของกุลลักและการขับไล่ออกจากบางเขตและไกร ( แคว้น)

ทรัพย์สินที่ริบของฟาร์มกูลัก ยกเว้นส่วนที่ใช้เพื่อชำระหนี้ (หนี้) ที่ถึงกำหนดจากกูลักไปยังรัฐและองค์กรสหกรณ์ จะต้องโอนไปยังกองทุนที่แบ่งแยกไม่ได้ของฟาร์มส่วนรวมเพื่อสมทบทุน ชาวนาและกรรมกรที่ยากจนเข้าร่วมฟาร์มส่วนรวม

เพื่อเสนอต่อรัฐบาลของสาธารณรัฐสหภาพในการพัฒนามตินี้เพื่อให้คำแนะนำที่จำเป็นแก่คณะกรรมการบริหารระดับภูมิภาค (ระดับภูมิภาค) และรัฐบาลของสาธารณรัฐปกครองตนเอง

ในปี "จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่" วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาของสภาผู้แทนราษฎรยกเลิกวันหยุดทั้งหมดยกเว้นวันที่ 7 พฤศจิกายนและ 1 พฤษภาคม

2.3 การเปลี่ยนแปลงสภาผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียต

ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2479 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดในการบริหารและบริหารของรัฐ<#"justify">บทสรุป

โดยสรุปของงานนี้ ควรสังเกตว่าในปี ค.ศ. 1920 การบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในสถานะของวิวัฒนาการแบบไดนามิก นี่หมายถึงการพัฒนาบนพื้นฐานของมันเอง เมื่อคุณลักษณะสำคัญของระบบที่กำลังพัฒนาคือ อยู่ในขั้นตอนของการก่อตัวถูกกำหนด แต่ไม่มีตัวละครที่เยือกแข็ง

ความครอบคลุมของประวัติศาสตร์การบริหารรัฐกิจหลังเดือนตุลาคมในรัสเซียนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของคุณภาพและคุณสมบัติของระบบรัฐโซเวียต โครงสร้าง เป้าหมาย และวิธีการจัดการในกระบวนการก่อตัวและวิวัฒนาการเป็นหลัก

โครงสร้างการบริหารรัฐของสหภาพโซเวียตเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาของสภาคองเกรสแห่งโซเวียต All-Russian II ซึ่งกำหนดระบบอวัยวะของอำนาจและการบริหารดังนี้: สภาคองเกรส All-Russian ของโซเวียตเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐ คณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian - คณะผู้บริหารของรัฐสภาและผู้ขนส่ง อำนาจสูงสุดระหว่างการประชุม; SNK - รัฐบาลคนงาน - ชาวนา ผู้บริหารและผู้บริหาร; ผู้แทนราษฎร (ค่าคอมมิชชัน) - หน่วยงานกลางของแต่ละสาขาของชีวิตของรัฐ สภาท้องถิ่นเป็นองค์กรท้องถิ่นที่มีอำนาจและการบริหารงานของรัฐ

ตามรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2467 สภาผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตเป็นผู้บริหารและผู้บริหารสูงสุด องค์ประกอบของมันไม่คงที่ ตัวแทนของสาธารณรัฐสหภาพ, สมาชิกของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต, ตัวแทนของคณะกรรมการและหน่วยงานบางแห่งภายใต้รัฐบาล (OGPU, การบริหารสถิติกลาง ฯลฯ ) หัวหน้ารัฐบาลของสาธารณรัฐสหภาพเข้าร่วมการประชุมของสภา ของผู้บังคับการตำรวจแห่งสหภาพโซเวียตด้วยสิทธิในการลงคะแนนเสียงที่ปรึกษา สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้ออกพระราชกฤษฎีกาและมติที่มีผลบังคับแห่งกฎหมายและตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1930 ต้องยื่นร่างกฎหมายทั้งหมดเพื่อพิจารณาล่วงหน้าแม้ว่าจะไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญก็ตาม

รัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบอำนาจสูงสุดและการบริหารใน ระบบการเลือกตั้ง. รัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2479 เป็นเอกสารที่มีการโต้เถียงกันมาก ด้านหนึ่ง เป็นการรวมการปฏิเสธการเลือกตั้งแบบหลายขั้นตอน การลงคะแนนเสียงแบบสากล การเลือกตั้งโดยตรงและเท่าเทียมกันโดยการลงคะแนนลับ ในทางกลับกัน ในขณะที่ยืนยันอย่างเป็นทางการถึงลักษณะของรัฐบาลกลางของรัฐ อันที่จริงแล้ว มันได้รวมเอาคุณลักษณะที่รวมกันเป็นหนึ่งโดยการให้อำนาจที่เกือบจะไม่จำกัดแก่ "ศูนย์กลาง" ของรัฐบาลกลาง ในแง่หนึ่ง มันเป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐธรรมนูญปี 1918 และในขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นการปกปิดปฏิกิริยาที่ไม่ประนีประนอมและระบอบการปกครองของอำนาจส่วนบุคคล

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2479 คณะกรรมการประชาชนของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศถูกแยกออกจากผู้บังคับการตำรวจแห่งอุตสาหกรรมหนัก ในปีพ.ศ. 2480 คณะกรรมการประชาชนด้านวิศวกรรมเครื่องกลได้ก่อตั้งขึ้น ในปี พ.ศ. 2482 ผู้แทนราษฎรเพื่อถ่านหินและ อุตสาหกรรมน้ำมัน, กรรมาธิการโรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมไฟฟ้า.

เพื่อปรับปรุงการจัดการเศรษฐกิจโดยคณะผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน พ.ศ. 2483 ภายใต้สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีการสร้างสภาเศรษฐกิจ 6 แห่ง: สำหรับโลหะวิทยาและเคมีสำหรับวิศวกรรมเครื่องกลสำหรับอุตสาหกรรมการป้องกันสำหรับเชื้อเพลิงอุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ

กุมภาพันธ์ 2484 คณะกรรมการกลางของ All-Union Communist Party of Bolsheviks และสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตซึ่งได้รับคำแนะนำจากการตัดสินใจของสภาคองเกรสที่ 18 ของ All-Union Communist Party of Bolsheviks ได้สั่งให้คณะกรรมการวางแผนแห่งรัฐของสหภาพโซเวียตเริ่มต้น จัดทำแผนเศรษฐกิจทั่วไปของสหภาพโซเวียตเป็นเวลา 15 ปี ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจหลัก - เพื่อให้ทันกับประเทศทุนนิยมหลักในผลผลิตต่อหัว

ในการเชื่อมต่อกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตในปี 2480 ได้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้นเพื่อช่วยเขาซึ่งทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการถาวรของสภาผู้แทนราษฎรสภาได้พิจารณาแผนเศรษฐกิจประจำปีและรายไตรมาส และเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรควบคุมการดำเนินการตามแผนและทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ในแต่ละภาคส่วนของเศรษฐกิจของประเทศ , ดำเนินมาตรการเพื่อพัฒนางานของตน ฯลฯ

เขามีสิทธิที่จะออกมติและคำสั่งที่มีผลผูกพันกับผู้แทนราษฎรทุกคนของสหภาพโซเวียต ดังนั้นในองค์กรของการจัดการเศรษฐกิจของประเทศจึงมองเห็นแนวทางในการเสริมสร้างหลักการของสหภาพทั้งหมด

ตามกฎหมายเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2489 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตได้เปลี่ยนเป็นคณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต

สภาผู้แทนราษฎรของรัฐ

รายชื่อวรรณกรรมที่ใช้แล้ว

1.Werth N. ประวัติศาสตร์ของรัฐโซเวียต พ.ศ. 2443-2534 ม., 2542. ส. 130-131.

2. Evgeny Guslyarov เลนินในชีวิต การรวบรวมบันทึกความทรงจำของผู้ร่วมสมัยอย่างเป็นระบบ เอกสารของยุค ฉบับของนักประวัติศาสตร์ , OLMA-PRESS, 2004, ISBN: 5948501914.

โอเล็ก พลาโตนอฟ ประวัติศาสตร์ชาวรัสเซียในศตวรรษที่ XX เล่มที่ 1 (ตอนที่ 39-81)

Gimpelson E.G. ผู้จัดการโซเวียต 20 วินาที (บุคลากรชั้นนำของเครื่องมือของรัฐของสหภาพโซเวียต) ม., 2544, น. 94.

Munchaev Sh.M. ประวัติศาสตร์ชาติ. 2551. //

หน่วยงานสูงสุดของอำนาจรัฐและรัฐบาลกลางของ RSFSR (2460-2510) คู่มือ (ตามวัสดุของจดหมายเหตุของรัฐ) ” (จัดทำโดย Central State Archive ของ RSFSR), ch. ส่วนที่ 1 "รัฐบาลของ RSFSR"

.“ รัฐธรรมนูญ (กฎหมายพื้นฐาน) ของ RSFSR” (รับรองโดย V All-Russian Congress of Soviets เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 1918)

Shamarov V. M. การก่อตัวและการพัฒนาฐานกฎหมายและองค์กร ม., 2550. ส. 218.

Zhukov V. , Eskov G. , Pavlov V. ประวัติศาสตร์รัสเซีย กวดวิชา. ม., 2551. 283.

Shipunov F. Truth รัสเซียผู้ยิ่งใหญ่. ม., 2550. ส. 420.

รัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตในปี 2479 "สอดคล้องกับมาตรฐานโลกที่ดีที่สุดในสมัยนั้นอย่างเป็นทางการ" ประวัติศาสตร์การเมืองรัสเซีย / Resp. เอ็ด วี.วี. จูราฟเลฟ ม., 2551. ส. 530.

Borisov S. ให้เกียรติในฐานะปรากฏการณ์ของจิตสำนึกทางการเมืองของรัสเซีย เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 2549 หน้า 183

ซึ่งใช้ก่อนการนำรัฐธรรมนูญของ RSFSR มาใช้ในปี พ.ศ. 2461

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2461 การก่อตั้งสภาผู้แทนราษฎรของ RSFSR เป็นอภิสิทธิ์ของคณะกรรมการบริหารกลางทั้งหมดของรัสเซียและตั้งแต่ปีพ. ศ. 2480 - สภาสูงสุดของ RSFSR สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ก่อตั้งขึ้นจากผู้บังคับการตำรวจ - ผู้นำของผู้แทนประชาชน (ผู้แทนประชาชน) ของสหภาพโซเวียตรัสเซีย - นำโดยประธานสภาผู้แทนประชาชนของ RSFSR สภาผู้แทนราษฎรที่คล้ายกันถูกสร้างขึ้นในสาธารณรัฐโซเวียตอื่น ๆ [ ]

หลังจากการก่อตั้งสหภาพโซเวียต ในช่วงเวลาระหว่างการลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการก่อตัวของสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2465 และการก่อตัวของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 สภาประชาชน ผู้บังคับการตำรวจของ RSFSR ปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลสหภาพโซเวียตชั่วคราว

"การสร้างทันที ... จากค่าคอมมิชชั่นของผู้บังคับการตำรวจ ... (min [inist] ry และ com[ovary] shchi m [inist] ra")

ทันทีก่อนการยึดอำนาจในวันปฏิวัติ คณะกรรมการกลางของบอลเชวิคได้สั่งให้ Kamenev และ Winter (Berzin) ติดต่อกับฝ่ายซ้าย และเริ่มการเจรจากับพวกเขาเกี่ยวกับองค์ประกอบของรัฐบาลในอนาคต ในระหว่างการทำงานของรัฐสภาครั้งที่สองของโซเวียต พวกบอลเชวิคเสนอให้ SRs ซ้ายเข้ารัฐบาล แต่พวกเขาปฏิเสธ ฝ่ายขวาสังคมนิยม-ปฏิวัติและ Mensheviks ออกจากรัฐสภาครั้งที่สองของโซเวียตในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน - ก่อนการจัดตั้งรัฐบาล พวกบอลเชวิคถูกบังคับให้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

สภาผู้แทนราษฎรก่อตั้งขึ้นตาม "" ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2460 พระราชกฤษฎีกาเริ่มต้นด้วยคำว่า:

ให้จัดตั้งเป็นการบริหารราชการแผ่นดิน จนถึงการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลแรงงานชั่วคราวและชาวนา ซึ่งจะเรียกว่าสภาผู้แทนราษฎร

สภาผู้แทนราษฎรสูญเสียคุณลักษณะของคณะกรรมการปกครองชั่วคราวหลังจากการยุบสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับการประดิษฐานอย่างถูกกฎหมายในรัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 1918 สิทธิในการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรได้รับมอบให้แก่คณะกรรมการบริหารกลางทั้งหมดของรัสเซีย SNK คือร่างกาย การจัดการทั่วไปกิจการของ RSFSR ซึ่งมีสิทธิ์ออกกฤษฎีกาในขณะที่คณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian มีสิทธิ์ยกเลิกหรือระงับการตัดสินใจหรือการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎร

ประเด็นที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตัดสินด้วยคะแนนเสียงข้างมาก การประชุมมีผู้เข้าร่วมโดยสมาชิกของรัฐบาลประธานคณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian ผู้จัดการฝ่ายกิจการและเลขานุการสภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ

คณะทำงานถาวรของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR คือการบริหารกิจการซึ่งเตรียมคำถามสำหรับการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการประจำและได้รับมอบหมาย เจ้าหน้าที่บริหารกิจการในปี 2464 ประกอบด้วย 135 คน (ตามข้อมูลของ TsGAOR ของสหภาพโซเวียต)

ตามกฎหมายของสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2489 และพระราชกฤษฎีกาของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่ง RSFSR เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2489 สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้เปลี่ยนเป็นคณะรัฐมนตรีของ RSFSR เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พระราชกฤษฎีกาสุดท้ายของรัฐบาล RSFSR ได้ออกโดยใช้ชื่อว่า "สภาผู้แทนราษฎร" เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตอย่างเหมาะสมและในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2491 รัฐธรรมนูญของ RSFSR

มติและการตัดสินใจที่นำมาใช้ทั้งหมดของสภาผู้แทนราษฎรถูกรายงานไปยังคณะกรรมการบริหารกลางทั้งหมดของรัสเซีย (มาตรา 39) ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะระงับและยกเลิกการตัดสินใจหรือการตัดสินใจของสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 40)

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้แทนราษฎรของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2461:

ภายใต้ผู้บังคับการตำรวจของแต่ละคนและภายใต้ตำแหน่งประธานของเขา วิทยาลัยได้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งสมาชิกได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 44)

ผู้แทนราษฎรมีสิทธิที่จะตัดสินใจเพียงลำพังในประเด็นทั้งหมดภายใต้เขตอำนาจของผู้แทนผู้แทนราษฎรที่นำโดยเขา นำพวกเขาไปสู่ความสนใจของวิทยาลัย (มาตรา 45)

ด้วยการก่อตั้งสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2465 และการสร้างรัฐบาลสหภาพทั้งหมดสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้กลายเป็นผู้บริหารและผู้บริหารของอำนาจรัฐของสหพันธรัฐรัสเซีย องค์กร องค์ประกอบ ความสามารถและขั้นตอนสำหรับกิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2467 และรัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 2468 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรก็เปลี่ยนไปเนื่องจากการโอนอำนาจจำนวนหนึ่งไปยังหน่วยงานพันธมิตร มีการจัดตั้งผู้แทนราษฎร 11 แห่ง:

ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้รวมสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงชี้ขาดหรือคำปรึกษาซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตภายใต้รัฐบาลของ RSFSR สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้จัดสรรผู้แทนถาวรของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต (ตามข้อมูลจาก SU [ ถอดรหัส], 2467, ฉบับที่ 70, ศิลป์. 691).)

ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR และสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีการบริหารกิจการเดียว (ตามวัสดุของ TsGAOR ของสหภาพโซเวียต)

สภาผู้แทนราษฎรยังรวมถึงประธาน Gosplan ของ RSFSR และหัวหน้าภาควิชาศิลปะภายใต้สภาผู้แทนราษฎรของ RSFSR

ตำแหน่งว่างของผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการรถไฟถูกยึดโดย M. T. Elizarov ในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นอกจากพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เอ. เอ็ม. โกลลอนทัย รัฐมนตรีหญิงคนแรกของโลก ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจเพื่อการกุศลแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน E. E. Essen ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจเพื่อการควบคุมของรัฐ

องค์ประกอบแรกในประวัติศาสตร์ของสภาผู้แทนราษฎรเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ยากลำบาก ในการเชื่อมต่อกับการเคลื่อนตัวของคณะกรรมการบริหารของสหภาพการค้าการรถไฟ Vikzhel ซึ่งไม่ยอมรับการปฏิวัติเดือนตุลาคม และเรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "รัฐบาลสังคมนิยมที่เป็นเนื้อเดียวกัน" จากตัวแทนของทุกพรรคสังคมนิยม ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติยังคงไม่ถูกแทนที่ ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1918 พวกบอลเชวิคสามารถแบ่งสหภาพการค้าทางรถไฟได้โดยการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารวิกเซลแบบขนาน วิกเซดอร์ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มบอลเชวิคและฝ่ายซ้ายปฏิวัติสังคมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2461 การต่อต้านของ Vikzhel ในที่สุดก็ถูกทำลายและอำนาจหลักของทั้ง Vikzhel และ Vikzhedor ถูกย้ายไปที่คณะกรรมการการรถไฟของประชาชน

คณะกรรมการประชาชนเพื่อการทหารและกิจการทหารเรือได้จัดตั้งเป็นคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย Antonov-Ovseenko, Krylenko, Dybenko ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 คณะกรรมการชุดนี้หยุดอยู่จริง

ตามบันทึกความทรงจำของผู้บังคับการตำรวจแห่งการศึกษาคนแรก Lunacharsky A.V. องค์ประกอบแรกของสภาผู้บังคับการตำรวจแห่งชาตินั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญเป็นส่วนใหญ่และการอภิปรายในรายการมาพร้อมกับความคิดเห็นของเลนิน: "ถ้าพวกเขากลายเป็นว่าไม่เหมาะสมเราจะ เปลี่ยนแปลงได้" ในฐานะผู้บังคับการตำรวจยุติธรรมคนแรก พรรคบอลเชวิคโลมอฟ (จี. ไอ. ออปโปคอฟ) เขียน ความรู้เรื่องความยุติธรรมของเขารวมถึงความรู้โดยละเอียดเกี่ยวกับเรือนจำซาร์ที่มีลักษณะเฉพาะของระบอบการปกครอง "เรารู้ว่าพวกเขาเอาชนะที่ไหน ที่ไหน และ พวกเขาขังพวกเขาไว้ในห้องขัง แต่เราไม่รู้ว่าจะปกครองรัฐอย่างไร”

กรรมการหลายคนในองค์ประกอบแรกของสภาผู้แทนราษฎร โซเวียต รัสเซียถูกกดขี่ในทศวรรษที่ 1930

การกุศลของรัฐ (จาก 26.4.1918 - ประกันสังคม; NKSO 4.11.1919 รวมกับ NK Labor, 26.4.1920 แบ่ง):

องค์ประกอบระดับชาติของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตรัสเซียยังคงเป็นหัวข้อของการเก็งกำไร

อีกวิธีหนึ่งในการฉ้อโกงคือการประดิษฐ์ผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งที่ไม่เคยมีอยู่จริง ดังนั้น Andrey Diky ในรายชื่อผู้แทนราษฎรที่กล่าวถึงไม่เคยมีผู้แทนราษฎรสำหรับลัทธิสำหรับการเลือกตั้งสำหรับผู้ลี้ภัยเพื่อสุขอนามัย โวโลดาร์สกีถูกกล่าวถึงในฐานะผู้บังคับการตำรวจเพื่อสื่อมวลชน อันที่จริงเขาเป็นนายหน้าสำหรับสื่อมวลชนการโฆษณาชวนเชื่อและความปั่นป่วน แต่ไม่ใช่ผู้บังคับการตำรวจซึ่งเป็นสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎร (นั่นคือในความเป็นจริงรัฐบาล) แต่เป็นผู้แทนของสหภาพคอมมิวนิสต์ภาคเหนือ ( สมาคมระดับภูมิภาคของโซเวียต) ผู้สนับสนุนอย่างแข็งขันของคำสั่งบอลเชวิคว่าด้วยสื่อมวลชน

และในทางตรงกันข้าม รายชื่อนี้ไม่รวมถึงผู้บังคับการรถไฟของประชาชนในชีวิตจริงและผู้แทนกรมไปรษณีย์และโทรเลข เป็นผลให้แม้แต่จำนวนผู้แทนราษฎรก็ไม่เห็นด้วยกับ Andrei Diky: เขากล่าวถึงหมายเลข 20 แม้ว่าจะมี 14 คนในองค์ประกอบแรก แต่ในปี 1918 จำนวนก็เพิ่มขึ้นเป็น 18

บางตำแหน่งแสดงไม่ถูกต้อง ดังนั้นประธาน Petrosoviet, G. E. Zinoviev จึงถูกกล่าวถึงในฐานะผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการภายใน แม้ว่าเขาจะไม่เคยดำรงตำแหน่งนี้ก็ตาม ผู้บังคับการตำรวจแห่งโพสต์และโทรเลข Proshyan (ที่นี่ - "Protian") ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำของ "การเกษตร"

ชาวยิวมีสาเหตุมาจากบุคคลจำนวนหนึ่งโดยพลการ เช่น ขุนนางรัสเซีย A.V. Lunacharsky ชาวเอสโตเนียที่ไม่เคยเข้ารับราชการ หรือ Lilina (Bernstein) Z. I. ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย แต่ทำงาน ในฐานะหัวหน้าแผนกการศึกษาสาธารณะภายใต้คณะกรรมการบริหารของ Petrosoviet) Kaufman (อาจหมายถึง Cadet A. A. Kaufman ตามแหล่งข่าวบางแห่งที่พวกบอลเชวิคดึงดูดให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา การปฏิรูปที่ดินแต่ไม่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)

รายการดังกล่าวยังกล่าวถึงนักปฏิวัติสังคมฝ่ายซ้ายอีกสองคน ซึ่งไม่ได้ระบุถึงลัทธิคอมมิวนิสต์แต่อย่างใด: ผู้บังคับการตำรวจแห่งความยุติธรรม Steinberg I. Z. (เรียกว่า "I. Steinberg") และผู้แทนของ Posts and Telegraphs Proshyan P. P. เรียกว่า " Protian-เกษตร" . นักการเมืองทั้งสองไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อนโยบายของบอลเชวิคหลังเดือนตุลาคม Gukovsky I. E. ก่อนการปฏิวัติเป็นของ Mensheviks - "ผู้ชำระบัญชี" และยอมรับตำแหน่งผู้บังคับการการเงินของประชาชนภายใต้แรงกดดันจากเลนินเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน - อาจไม่ใช่โดยไม่มี "การเลียนแบบ" ของ A. R. Gotz - Trotsky ซึ่งมีความสามารถในการมองการณ์ไกลยืนยันว่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ตำแหน่ง" นี้ของ Trotsky ผู้ชื่นชมที่กระตือรือร้นในปัจจุบันของเขา V. Z. Rogovin พยายามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อโน้มน้าวผู้อ่านว่า Lev Davidovich เป็นผู้ที่ปราศจากราคะในอำนาจ มีความตั้งใจแน่วแน่ แต่ข้อโต้แย้งเหล่านี้ออกแบบมาสำหรับคนใจง่าย เพราะท้ายที่สุด Trotsky ไม่เคยปฏิเสธการเป็นสมาชิกในคณะกรรมการกลางและ Politburo และสมาชิกของ Politburo อยู่ในลำดับชั้นของอำนาจอย่างเหนือชั้นกว่าผู้บังคับการตำรวจคนใด! และทรอตสกี้ก็ไม่ได้ปิดบังความขุ่นเคืองอย่างรุนแรงเมื่อในปี 2469 เขาถูก "ปล่อยตัวจากหน้าที่ของเขาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของ Politburo" ...

“จะต้องไม่มีชาวยิวแม้แต่คนเดียวในรัฐบาลปฏิวัติชุดแรก เพราะไม่เช่นนั้นการโฆษณาชวนเชื่อเชิงปฏิกิริยาจะแสดงภาพการปฏิวัติเดือนตุลาคมว่าเป็น “การปฏิวัติของชาวยิว”…”“หลังรัฐประหาร ให้อยู่นอกรัฐบาล และ ...ตกลงรับตำแหน่งรัฐบาลตามคำเรียกร้องของคณะกรรมการกลางเท่านั้น”

ในปี 2013 ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย V.V. Putin กล่าวถึงคอลเล็กชั่น Schneerson ที่พิพิธภัณฑ์ชาวยิวมอสโกและศูนย์ความอดทนว่า "

“ถ้าเราละทิ้งการคาดเดาของนักวิทยาศาสตร์หลอกที่รู้วิธีค้นหาต้นกำเนิดของชาวยิวในการปฏิวัติทุกครั้ง ปรากฎว่าในองค์ประกอบแรกของสภาผู้แทนราษฎร (SNK) มีชาวยิว 8% จากทั้งหมด 16 คน สมาชิกของลีออนรอทสกี้เท่านั้นที่เป็นชาวยิว ในรัฐบาลของ RSFSR 2460-2465 ชาวยิว 12% (หกคนจาก 50 คน) ถ้าเราไม่พูดถึงแค่รัฐบาล ในคณะกรรมการกลางของ RSDLP (b) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2460 มีชาวยิว 20% (6 คนจาก 30 คน) และในองค์ประกอบแรกของ Politburo ของ คณะกรรมการกลาง RCP (b) - 40% (3 จาก 7)

วางแผน
บทนำ
1 ข้อมูลทั่วไป
2 กรอบกฎหมาย SNK RSFSR
3 องค์ประกอบแรกของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตรัสเซีย
4 ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสกอ
5 ผู้แทนราษฎร
6 แหล่งข่าว
บรรณานุกรม บทนำ สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR (สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR, SNK RSFSR) - ชื่อของรัฐบาลของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซียตั้งแต่การปฏิวัติเดือนตุลาคม 2460 ถึง 2489 สภาประกอบด้วยผู้บังคับการตำรวจซึ่งเป็นผู้นำ ผู้แทนราษฎรของประชาชน (ผู้แทนประชาชน NK). หลังจากการก่อตัวของสหภาพโซเวียต องค์กรที่คล้ายกันได้ถูกสร้างขึ้นในระดับสหภาพ 1. ข้อมูลทั่วไป สภาผู้แทนราษฎร (SNK) ก่อตั้งขึ้นตาม "พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎร" ซึ่งรับรองโดยสภากรรมาธิการโซเวียต All-Russian II แห่งกองทัพทหารและชาวนาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม , 2460 ชื่อ "สภาผู้แทนราษฎร" เสนอโดย Trotsky: Power in St. Petersburg ได้รับรางวัล จำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาล - จะเรียกอย่างไรดี? เลนินให้เหตุผลดังๆ ไม่ใช่รัฐมนตรีเท่านั้น: นี่เป็นชื่อที่เลวทรามและโทรม - ฉันแนะนำว่าผู้บังคับการเรืออาจเป็นได้ แต่ตอนนี้มีผู้บังคับการตำรวจมากเกินไป บางทีผู้บัญชาการระดับสูง? ไม่ "สูงสุด" ฟังดูไม่ดี เป็นไปได้ "ของประชาชน"? - ผู้บังคับการประชาชน? นั่นน่าจะใช้ได้ แล้วรัฐบาลโดยรวมล่ะ - สภาผู้แทนราษฎร - สภาผู้แทนราษฎรเลนินหยิบขึ้นมานี่ยอดเยี่ยมมาก: มีกลิ่นอายของการปฏิวัติอย่างมาก ตามรัฐธรรมนูญ 2461 เรียกว่าสภาผู้แทนราษฎร ของ RSFSR SNK เป็นผู้บริหารสูงสุดของ RSFSR ที่มีอำนาจบริหารเต็มรูปแบบสิทธิในการออกกฤษฎีกาที่มีผลบังคับของกฎหมายในขณะที่รวมหน้าที่ด้านกฎหมายการบริหารและการบริหารเข้าด้วยกันสภาผู้แทนราษฎรแพ้ ลักษณะของคณะปกครองชั่วคราวหลังจากการยุบสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับการประดิษฐานอยู่อย่างถูกกฎหมายในรัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 1918 ประเด็นที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณานั้นได้รับการตัดสินด้วยคะแนนเสียงข้างมาก สมาชิกของรัฐบาลเข้าร่วมการประชุมประธานคณะกรรมการบริหารกลาง All-Russian ผู้จัดการฝ่ายกิจการและเลขานุการสภาผู้แทนราษฎรผู้แทนหน่วยงานต่างๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกิจการในปี พ.ศ. 2464 จำนวน 135 คน (ตามข้อมูลของ TsGAOR ของสหภาพโซเวียต, f. 130, op. 25, d. 2, ll. 19 - 20.) โดยคำสั่งของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่ง RSFSR เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2489 สภาผู้แทนราษฎรได้แปรสภาพเป็นคณะรัฐมนตรี 2. กรอบกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรของ RSFSR ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 กิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรคือ:

การจัดการกิจการทั่วไปของ RSFSR การจัดการของแต่ละสาขาของรัฐบาล (มาตรา 35, 37) การออกกฎหมายและการใช้มาตรการ "จำเป็นสำหรับวิถีชีวิตของรัฐที่ถูกต้องและรวดเร็ว" (ข้อ 38)

ผู้แทนราษฎรมีสิทธิในการตัดสินใจเพียงลำพังในประเด็นทั้งหมดภายในเขตอำนาจของผู้แทนราษฎรโดยนำพวกเขาไปสู่ความสนใจของวิทยาลัย (มาตรา 45) มาตรา 40) ผู้แทนราษฎรจำนวน 17 คนถูกสร้างขึ้น (ในรัฐธรรมนูญนี้ มีการระบุตัวเลขที่ผิดพลาดเนื่องจากมี 18 รายการในรายการที่นำเสนอในมาตรา 43) . ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้แทนราษฎรของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ตามรัฐธรรมนูญของ RSFSR 07/10/1918:

ด้านการต่างประเทศ เกี่ยวกับกิจการทหาร สำหรับกิจการทางทะเล สำหรับกิจการภายใน ความยุติธรรม; แรงงาน; ประกันสังคม การศึกษา; ไปรษณีย์และโทรเลข; เกี่ยวกับกิจการของสัญชาติ สำหรับเรื่องการเงิน วิธีการสื่อสาร; เกษตรกรรม; การค้าและอุตสาหกรรม อาหาร; การควบคุมของรัฐ; สภาสูงสุดของเศรษฐกิจแห่งชาติ; ดูแลสุขภาพ.

ภายใต้ผู้บังคับการตำรวจของแต่ละคนและภายใต้ตำแหน่งประธานของเขาจะมีการจัดตั้งวิทยาลัยซึ่งสมาชิกได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 44) ด้วยการก่อตั้งสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2465 และการสร้างรัฐบาลสหภาพทั้งหมดสภา ของผู้บังคับการตำรวจแห่ง RSFSR กลายเป็นผู้บริหารและผู้บริหารของอำนาจรัฐของสหพันธรัฐรัสเซีย องค์กร องค์ประกอบ ความสามารถและขั้นตอนสำหรับกิจกรรมของสภาผู้แทนราษฎรถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญของสหภาพโซเวียตปี 2467 และรัฐธรรมนูญของ RSFSR ปี 2468 นับตั้งแต่นั้นมาองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรก็ถูกกำหนด เปลี่ยนไปเกี่ยวกับการโอนอำนาจจำนวนหนึ่งไปยังหน่วยงานของสหภาพ จัดตั้งผู้แทนราษฎร 11 คน:

การค้าภายในประเทศ การเงินแรงงาน RCT กิจการภายใน ความยุติธรรม การศึกษา การดูแลสุขภาพ เกษตรกรรม ประกันสังคม สภาเศรษฐกิจสูงสุด

ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้รวมสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงชี้ขาดหรือคำปรึกษาซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้แทนราษฎรของสหภาพโซเวียตภายใต้รัฐบาลของ RSFSR สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR ได้จัดสรรผู้แทนถาวรของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียต (ตามข้อมูลของ SU, 1924, N 70, Art. 691.) ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2467 สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR และสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตมีการบริหารกิจการเดียว (ขึ้นอยู่กับวัสดุของ TsGAOR ของสหภาพโซเวียต, f. 130, op. 25, d. 5, l. 8.) ด้วยการแนะนำรัฐธรรมนูญของ RSFSR เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2480 สภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR รับผิดชอบเฉพาะกับ Supreme Soviet ของ RSFSR ในช่วงเวลาระหว่างการประชุม - ถึง Presidium of Supreme Soviet RSFSR ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2480 องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรแห่ง RSFSR มีผู้แทน 13 คน (ข้อมูลจาก Central State Administration ของ RSFSR, f. 259, op. 1, d. 27, l. 204.):

อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเบา อุตสาหกรรมไม้ เกษตรกรรม เมล็ดพืช รัฐ ฟาร์ม การเลี้ยงสัตว์ รัฐ ฟาร์ม การเงิน การค้าในประเทศ ความยุติธรรม สุขภาพ การศึกษา อุตสาหกรรมในท้องถิ่น สาธารณูปโภค ประกันสังคม

สภาผู้แทนราษฎรยังรวมถึงประธานคณะกรรมการวางแผนแห่งรัฐของ RSFSR และหัวหน้ากรมศิลปากรภายใต้สภาผู้แทนราษฎรของ RSFSR 3. องค์ประกอบแรกของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหภาพโซเวียตรัสเซีย

ประธานสภาผู้แทนราษฎร - Vladimir Ulyanov (เลนิน) ผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการภายใน - A. I. ผู้บังคับการตำรวจของประชาชน Rykov เพื่อการเกษตร - V. P. Milyutin ผู้บังคับการตำรวจเพื่อแรงงาน - A. G. Shlyapnikov ผู้บังคับการเรือประชาชนเพื่อการทหารและกองทัพเรือ - คณะกรรมการประกอบด้วย: V. A. Ovseenko (Antonov) (ในข้อความของพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการก่อตั้งสภาผู้แทนราษฎร - Avseenko), N. V. Krylenko และ P. E. Dybenko ผู้บังคับการตำรวจเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม - V. P. Nogin ผู้บังคับการตำรวจแห่งการศึกษาสาธารณะ - A. V. Lunacharsky ผู้บังคับการตำรวจ การเงิน - I. I. Skvortsov (Stepanov) ผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติเพื่อการต่างประเทศ - L. D. Bronstein (Trotsky) ผู้บังคับการตำรวจเพื่อความยุติธรรม - G. I. Oppokov (Lomov) ผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการอาหาร - I. A. ผู้บังคับการตำรวจของ Teodorovich People for Posts and Telegraphs - N P. Aviv)lov (Glebo) ผู้บังคับการตำรวจเพื่อสัญชาติ - I. V. Dzhugashvili (สตาลิน) Post ผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับกิจการรถไฟยังคงไม่เปลี่ยนชั่วคราว

ตำแหน่งว่างของผู้บังคับการตำรวจฝ่ายกิจการรถไฟในภายหลังถูกยึดครองโดย V. I. Nevsky (Krivobokov) 4. ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสกอ

Lenin, Vladimir Ilyich (27 ตุลาคม (9 พฤศจิกายน), 2460 - 21 มกราคม 2467) Rykov, Alexei Ivanovich (2 กุมภาพันธ์ 2467 - 18 พฤษภาคม 2472) Syrtsov, Sergei Ivanovich (18 พฤษภาคม 2472 - 3 พฤศจิกายน 2473) Sulimov , Daniil Egorovich (3 พฤศจิกายน 2473 - 22 กรกฎาคม 2480) Bulganin, Nikolai Alexandrovich (22 กรกฎาคม 2480 - 17 กันยายน 2481) Vakhrushev, Vasily Vasilyevich (29 กรกฎาคม 2482 - 2 มิถุนายน 2483) Khokhlov, Ivan Sergeevich (2 มิถุนายน) , 2483 - 23 มิถุนายน 2486) Kosygin, Alexei Nikolaevich ( 23 มิถุนายน 2486 - 23 มีนาคม 2489)

5. ผู้แทนราษฎร รองประธาน:

Rykov A. I. (ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 1921-?) Tsyurupa A. D. (5.12.1921-?) Kamenev L. B. (ม.ค. 1922-?)

การต่างประเทศ:

Trotsky L. D. (10/26/1917 - 04/08/1918) G. V. Chicherin (05/30/1918 - 07/21/1930)

สำหรับกิจการทหารและกองทัพเรือ:

Antonov-Ovseenko V. A. (26.10.1917-?) Krylenko N. V. (26.10.1917-?) Dybenko P. E. (26.10.1917-18.3.1918) Trotsky L. D. (8.4.1918 - 26.1.1925)

ภายใน:

Rykov A.I. (26.10. - 4.11.1917) Petrovsky G.I. (17.11.1917-25.3.1199) Dzerzhinsky F.E.

ความยุติธรรม:

Lomov-Oppokov G.I. (26.10 - 12.12.1917) Steinberg I.Z. (12.12.1917 - 18.3.1918) Stuchka P.I. (18.3. - 22.8.1918) Kursky D.I. (22.8.1918) - 1928)

แรงงาน:

Shlyapnikov A. G. (26.10.1917 - 8.10.1918) Schmidt V. V. (8.10.1918-4.11.1919 และ 26.4.1920-29.11.1920)

การกุศลของรัฐ (จาก 26.4.1918 - ประกันสังคม; NKSO 4.11.1919 รวมกับ NK Labor, 26.4.1920 แบ่ง):

Kollontai A.M. (30 ตุลาคม 2460 ถึงมีนาคม 2461) Vinokurov A.N. 1921)

ตรัสรู้:

Lunacharsky A.V. (26.10.1917-12.9.1929)

ไปรษณีย์และโทรเลข:

Glebov (Avilov) N. P. (10.26.1917-12.09.1917) Proshyan P.P. (24.3-26.5.1921) Dovgalevsky V. S. (26.5.1921-6.7.1923)

สำหรับสัญชาติ:

สตาลิน IV (26.10.1917-6.7.1923)

การเงิน:

Skvortsov-Stepanov I. I. (26.10.1917 - 20.1.1918) Brilliantov M. A. (19.1.-18.03.1918) Gukovsky I. E. (เมษายน-16.8.1918) Krestinsky N. N. (16.8.1918 - ตุลาคม 1922) Sokolnikov G. Ya. (11/ 23/1922-16/1/1923)

วิธีการสื่อสาร:

Elizarov M.T. (8.11.1917-7.1.1918) Rogov A.G. (24.2.-9.5.1918) Kobozev P.A. (9.5.-มิถุนายน 2461) Nevsky V.I. .1919) Krasin L.B. (30.3.19-20.3.1920) Trotsky L.D. .1921 -6.7.1923)

เกษตรกรรม:

Milyutin V.P. (26.10 - 4.11.1917) Kolegaev A.L. (24.11.1917 - 18.3.1918) Sereda S.P. 1921-18.1.1922) Yakovenko V.G. (18.1.1922-7.7.1923)

การค้าและอุตสาหกรรม:

Nogin V.P. (26.10. - 4.11.1917) Shlyapnikov A.G. (19.11.1917-Jan.1918) Smirnov V.M. 12.11.1918) Krasin L. B. (12.11.1918-6.7.1923)

อาหาร:

Teodorovich I.A. (26.10-18.12.1917) Shlikhter A.G. (18.12.1917 - 25.2.1918) Tsyurupa A.D. 6/7/1923)

การควบคุมสถานะของ RSFSR:

Lander K.I. (9.5.1918 - 25.3.11919) Stalin I.V. (30.3.1919-7.2.1920)

สุขภาพ:

Semashko N. A. (11.7.1918 - 25.1.1930)

กองตรวจแรงงานและชาวนา:

Stalin I.V. (24.2.1920-25.4.1922) Tsyurupa AD (25.4.1922-6.7.1923)

ทรัพย์สินของรัฐ:

Karelin V. A. (9.12.1917 - 18.03.1918) Malinovsky P.P. (18.3. - 11.7.1918)

สำหรับรัฐบาลท้องถิ่น:

Trutovsky V. E. (19.12.1917 - 18.3.1918)

สภาสูงสุดของเศรษฐกิจแห่งชาติ (ประธาน):

Osinsky N. (2.12.1917-22.3.1918) Milyutin V.P. (vrid) (23.3-28.5.1921) Rykov A.I. (3.4.1918-28.5.1921) Bogdanov P.A. (28.5.1921) -9.5.1923) Rykov A.I. ( 9.5.1923-2.2.1924)

6. แหล่งที่มา

ร่างของสหภาพโซเวียตและขบวนการปฏิวัติของรัสเซีย - ม.: สารานุกรมโซเวียต, 1989. - S. 826-827.

บรรณานุกรม:

Evgeny Guslyarov. เลนินในชีวิต คอลเลกชันบันทึกความทรงจำของผู้ร่วมสมัยอย่างเป็นระบบ, เอกสารของยุค, รุ่นของนักประวัติศาสตร์, OLMA-PRESS, 2004, ISBN: 5948501914 “หน่วยงานสูงสุดของอำนาจรัฐและรัฐบาลกลางของ RSFSR (2460-2510) คู่มือ (ตามวัสดุของจดหมายเหตุของรัฐ) ” (จัดทำโดย Central State Archive ของ RSFSR), ch. ส่วนที่ 1 "รัฐบาลของ RSFSR" "รัฐธรรมนูญ (กฎหมายพื้นฐาน) ของ RSFSR" (นำมาใช้โดย V All-Russian Congress of Soviets เมื่อวันที่ 07/10/1918)