วิธีตั้งค่าฟอนต์หลักใน Word เปลี่ยนแบบอักษรใน Microsoft Word

ตามค่าเริ่มต้น เมื่อสร้างเอกสารข้อความใหม่ใน MS Word Calibri สูง 11 จุดจะถูกใช้เป็นแบบอักษรหลัก ใครจะสนล่ะ แต่ฉันไม่ชอบ Calibri อย่างแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานเมื่อต้องจัดทำเอกสารอย่างจริงจัง Times New Roman แบบเก่าที่ดีอาจล้าสมัยตามหลักศีลธรรม อย่างไรก็ตาม มันเหมาะกว่ามากสำหรับจุดประสงค์นี้

The Times ชนะจริงๆ!

เปลี่ยนแบบอักษร Calibri เป็น Times New Roman เป็นค่าเริ่มต้น

ขั้นแรก มาสร้างเอกสารข้อความใหม่กัน มันอาจจะว่างเปล่าก็ได้ บน แท็บ "หน้าแรก"หา กลุ่มแบบอักษรและที่มุมล่างขวา - ปุ่มลูกศรขนาดเล็ก "แบบอักษร"(แต่กด Ctrl + D ที่คีย์บอร์ด เอฟเฟคก็เหมือนเดิม)

เราเรียกหน้าต่างการตั้งค่าแบบอักษรเริ่มต้นใน MS Word

ในหน้าต่าง "แบบอักษร" ที่ปรากฏขึ้น เราสนใจเฉพาะแท็บแรกเท่านั้น ตอนนี้คุณอาจตั้งค่า "+ Body Text" แบบไม่มีหน้าเป็นแบบอักษรเริ่มต้น และตัวเลข "11" จะถูกระบุเป็นขนาด ได้เวลาเปลี่ยนทุกอย่างตามที่คุณต้องการ แทนที่จะเป็น "ข้อความเนื้อหา" เราตั้งค่า Times New Roman ที่เราโปรดปราน (หรือแบบอักษรอื่น ๆ ) และเปลี่ยนขนาดเป็น "12" ที่คุ้นเคยมากขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจาก Times New Roman มีขนาดไม่ใหญ่เท่ากับ Calibri และมีความสูงเท่ากับ 11 คะแนนก็จะน้อย)

เปลี่ยนแบบอักษรของเนื้อหาและใช้การเปลี่ยนแปลง

ฉันไม่เห็นประเด็นในการเปลี่ยนการตั้งค่าอื่นๆ (ไม่น่าเป็นไปได้ที่ทุกคนจะสนใจความสามารถในการพิมพ์โดยค่าเริ่มต้นเฉพาะตัวพิมพ์ใหญ่และตัวหนังสือที่ขีดเส้นใต้เท่านั้น) ดังนั้นให้คลิกปุ่ม "ค่าเริ่มต้น" ที่ด้านล่างสุดของหน้าต่าง ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้นถัดไป ให้วางสวิตช์ไว้ที่ตำแหน่งด้านล่าง ( "เอกสารทั้งหมดที่ใช้เทมเพลต Normal.dotm") และคลิกตกลง

อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงถูกนำไปใช้กับเทมเพลตเอกสารทั้งหมด ไม่ใช่กับเอกสารปัจจุบัน

ทุกอย่างพร้อมแล้ว - ปิด MS Word (บันทึกหรือไม่บันทึกเอกสาร - ไม่มีความแตกต่าง) หลังจากนั้นหน้าต่างต่อไปนี้มักจะปรากฏบนหน้าจอ (หากไม่มีหน้าต่าง ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับ คุณโชคดี)

สิ่งสำคัญคือการจำที่อยู่ของโฟลเดอร์ที่มีเทมเพลตอยู่ในภาพหน้าจอที่ด้านบนสุด

เปลี่ยนชื่อเทมเพลตของคุณเป็น Normal1.dotm แล้วบันทึก จากนั้นไปที่โฟลเดอร์ที่จัดเก็บแม่แบบด้วยตนเอง (คุณจะเห็นเส้นทางไปยังโฟลเดอร์ในแถบที่อยู่) ลบ Normal.dotm เก่า และเปลี่ยนชื่อ Normal1.dotm ใหม่ที่คุณเพิ่งสร้างเป็น Normal.dotm

เราพยายาม เราเริ่ม เยี่ยมมาก แบบอักษรเริ่มต้นคือ Times New Roman อย่างแท้จริง โดยมีความสูง 12 คะแนน

นอกจากนี้คุณอาจสนใจ:

มีอยู่ในโปรแกรมเวอร์ชันใหม่ ไมโครซอฟ เวิร์ด 2007 และ Microsoft Word 2010คุณลักษณะหนึ่งที่ทำให้ฉันรำคาญอย่างมาก: ขนาดและรูปแบบตัวอักษรเริ่มต้น. และถ้าจะพิมพ์ คาลิบรีฉันเคยชินกับมันอย่างรวดเร็ว แต่ขนาด 11 จุดบนจอภาพขนาด 19 นิ้วดูเล็กเกินไป แต่ละครั้งก่อนที่ฉันจะนั่งลงเพื่อเขียนบทความหรือคำแนะนำอื่น ฉันต้องเพิ่มเป็น 14 ครั้ง ไม่ยาก แต่การคลิกที่ไม่มีความหมายพิเศษนั้นน่ารำคาญอย่างยิ่ง และใช้เวลาอันมีค่าไปกับการสร้างสรรค์สิ่งที่สร้างสรรค์มากขึ้น

ลึกลงไป ฉันสงสัยและหวังว่าที่ใดที่หนึ่งในการตั้งค่า Word ขนาดและรูปแบบตัวอักษรเริ่มต้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย แต่ความพยายามที่จะเจาะลึกการตั้งค่าด้วยตัวเองไม่ได้ทำให้เกิดอะไรเลย แล้วในที่สุดฉันก็ตัดสินใจใช้ Google และค้นหาวิธีเปลี่ยนแบบอักษรที่ 11 เป็นแบบอักษรที่ 14 - ขั้นตอนใช้เวลาประมาณหนึ่งนาที

วิธีเปลี่ยนแบบอักษรเริ่มต้นใน Word 2010: คำแนะนำทีละขั้นตอนพร้อมภาพประกอบ

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแท็บของคุณเปิดใช้งานอยู่ บ้าน. จากนั้นในกลุ่มคำสั่ง สไตล์ที่มุมล่างขวา ให้หาไอคอนเล็กๆ พร้อมลูกศรแล้วคลิก:

2. หน้าต่างสไตล์จะเปิดขึ้น ที่ด้านล่างสุดมี 3 ไอคอน: สร้างสไตล์, สารวัตรสไตล์และ การจัดการสไตล์. หากต้องการเปลี่ยนขนาดและรูปแบบตัวอักษรเริ่มต้น ให้คลิกที่ไอคอนสุดท้าย - การจัดการสไตล์:

3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดแท็บในกล่องโต้ตอบที่ปรากฏขึ้น เปลี่ยนและสไตล์ที่เลือก ตามปกติจากนั้นคลิกที่ปุ่ม เปลี่ยนเพื่อเปิดหน้าต่างเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร:

4. หากคุณต้องการเปลี่ยนแบบอักษรเริ่มต้นจาก คาลิบรีไปยังรายการแบบอักษรอื่น ๆ ให้ค้นหาและเลือก ประเภทที่เหมาะสมแบบอักษร (เช่น นีม นิว โรมันหรือ Arial). คุณยังสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าอื่นๆ สำหรับเอกสาร Word ใหม่ทั้งหมดได้ที่นี่: ขนาด สไตล์ สี การเยื้อง ช่วงเวลา ฯลฯ เปลี่ยนขนาดจาก 11 เป็น 14 ในรายการแบบเลื่อนลงและก่อนคลิก ตกลง, เปลี่ยนค่าของปุ่มตัวเลือกจาก ในเอกสารนี้เท่านั้นบน ในเอกสารใหม่ที่ใช้เทมเพลตนี้:

มิฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เราทำกับการตั้งค่าแบบอักษรเริ่มต้นจะไม่ปรากฏในเอกสารใหม่ ตอนนี้คุณสามารถกดปุ่ม ตกลงและใช้ฟอนต์ที่สะดวกสบายในการทำงาน Word 2007/Word 2010ซึ่งอธิบายไว้ในสั้นๆ นี้ แต่ฉันหวังว่า บทเรียนที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ

ป.ล.:แพ็คเกจ Microsoft Office ยังรวมแอปพลิเคชัน Outlook ออนไลน์ที่ดี ซึ่งสร้างจากบริการออนไลน์ของ Microsoft Exchange สำหรับงานระดับมืออาชีพกับส่วนบุคคลและองค์กร อีเมล. สำหรับผู้ที่ยังคงรวบรวมจดหมายผ่านเว็บอินเทอร์เฟซของบริการอีเมล ขอแนะนำให้คุณไปตามลิงก์และทำความคุ้นเคยกับความสามารถของ Mailer อันทรงพลังนี้ ติดต่อคำแนะนำทางกฎหมายที่ดีในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของข้อตกลงสิทธิ์การใช้งานของคุณสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของ Microsoft เหล่านี้ เนื่องจากได้รับการชำระเงินและการใช้งานแบบ "ฟรี" จะเต็มไปด้วยปัญหาภายใต้กฎหมายปัจจุบัน

1. ตัวบ่งชี้ที่แสดงถึงความเป็นไปได้ของการใช้ฟังก์ชัน และเมื่อใช้ร่วมกับปุ่มสำหรับเรียกแผง "สัญลักษณ์" ของ MS Word
2. แสดง/ซ่อนแผงคำอธิบายประกอบและความเข้มข้น
3. การแปลจำนวนอะตอมเป็นตัวห้อย และประจุไอออนและสถานะออกซิเดชันของอะตอมเป็นตัวยก
4. การตรวจสอบสมการเคมี
5. การพิมพ์องค์ประกอบทางเคมี
6. การเปิดแผงการตั้งค่า EquPixy 3.1
7. แก้ไขบันทึก

แผงการตั้งค่า EquPixy 3.1 จะเลือกปุ่มที่จะแสดงและจัดการการตั้งค่าฟังก์ชัน

1. เวลา (เป็นวินาที) ที่จะกดแป้นค้างไว้เพื่อพิมพ์อักษรละตินตัวพิมพ์เล็ก (เล็ก)
2. ช่วงเวลา (เป็นวินาที) สำหรับการพิมพ์จดหมายซ้ำในขณะที่กดปุ่มค้างไว้
3. เอฟเฟกต์เสียงสำหรับการพิมพ์อักษรละตินตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
4. การก่อตัวของประจุไอออนและสถานะออกซิเดชันของอะตอมในฟังก์ชัน "สูตรเคมี"
5. ค้นหาอักษรซีริลลิกและแทนที่ด้วย ตัวอักษรในฟังก์ชัน "ตรวจสอบสมการเคมี" ตัวอย่างเช่น หากพิมพ์สูตรน้ำเป็นซีริลลิก (H 2 O)
6. แทนที่เครื่องหมาย "=" ด้วยลูกศร (→ หรือ ↔)
7. การลดขนาดแบบอักษรเหนือลูกศรเมื่อสร้างลูกศรในฟังก์ชัน "การก่อตัวของลูกศรที่มีเงื่อนไขการเกิดปฏิกิริยา"
8. แบบอักษรตัวหนาสำหรับอักษรกรีก
9. การเพิ่มขนาดตัวอักษรสำหรับตัวอักษรกรีก
10. ถอนการติดตั้งโปรแกรมเสริม EquPixy

สูตรทางคณิตศาสตร์

สูตรผลลัพธ์สามารถจัดรูปแบบได้เหมือนข้อความปกติ (เปลี่ยนแบบอักษรเองหรือขนาด ทำให้เป็นตัวหนาหรือตัวเอียง ฯลฯ)

ข้อได้เปรียบหลักของวิธีนี้คือความเร็วในการสร้างสูตร และสูตรยังคงเป็นหนึ่งเดียวกับเอกสาร. สูตรผลลัพธ์จะแสดงในลักษณะเดียวกันบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกรม EquPixy

อย่างที่คุณเห็นในสูตร นอกเหนือจากการสร้างเศษส่วนแล้ว "d" กลับกลายเป็นดีกรีที่สอง เนื่องจากตัวเลขที่อยู่ติดกับตัวอักษรและวงเล็บจะถูกแปลโดยอัตโนมัติเป็นตัวยก (หรือตัวห้อย ดูด้านล่าง) ข้อความ สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยเว้นวรรคระหว่างตัวอักษรและตัวเลข คุณลักษณะที่มีประโยชน์อีกอย่างของโปรแกรมคือการแทนที่ "*" ด้วย "·" โดยอัตโนมัติ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ถ้าสูตรมี รากที่สองคุณต้องใช้เครื่องหมายรูท "√" ที่จุดเริ่มต้นขององค์ประกอบที่อยู่ภายใต้รูท ตัวอย่างเช่น:

c=√a2+b2

คุณสามารถระบุได้ว่าต้องแปลงสูตรใดโดยการเลือกสูตร หรือหากสูตรอยู่ในบรรทัดที่แยกจากกัน โดยการวางเคอร์เซอร์ไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของบรรทัดนี้ ซึ่งในกรณีนี้ ระบบจะเลือกทั้งบรรทัดโดยอัตโนมัติ

เมื่อเขียนสูตรต้นทาง แน่นอนว่า คุณเข้าใจดีว่าสูตร A + B / 2 และ (A + B) / 2 ไม่เหมือนกัน แต่เพื่อที่จะพิมพ์ตัวอักษรให้น้อยลง ตัวคั่นระหว่าง ส่วนต่างๆสูตรคือช่องว่าง ตัวอย่างเช่น:
- จากสูตรเดิม A+B/2
- จากสูตรเดิม A+ B/2

นอกจากการก่อตัวของเศษส่วนและรากแล้ว โปรแกรมยังสามารถก่อตัวได้อีก สูตรที่ซับซ้อนด้วยผลรวม ∑ ปริพันธ์ ∫ และผลิตภัณฑ์ ∏:

(n=0;∞)Σ(1/n2)=π2/6

∫(x*dx/s3)=- 1/วินาที

π/2=(n=1;∞)Π(4n2/4n2-1)

เมื่อสร้างปริญญา หากคุณต้องการสร้าง n หรือ a -1 คุณต้องใช้เครื่องหมาย "^":

a^-n=1/a^n

และหากมีเครื่องหมาย "^" ในสูตรดั้งเดิม ตัวเลขที่อยู่ติดกับตัวอักษรจะไม่กลายเป็นตัวยก แต่เป็นตัวห้อย:

M1/m1=M2/m2^

เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ (เปลี่ยนตัวอักษรหรือเปลี่ยนการจัดรูปแบบ องค์ประกอบส่วนบุคคล) ในสูตรที่สร้างไว้แล้ว คุณสามารถเปิดรหัสสูตรโดยคลิกปุ่ม "สูตรคณิตศาสตร์" อีกครั้ง:

หากต้องการกลับไปที่ ให้คลิกที่ปุ่ม "สูตรคณิตศาสตร์" อีกครั้ง

เป็นไปได้ที่จะอธิบายคุณลักษณะทั้งหมดของ EquPixy ในฐานะเครื่องมือแก้ไขสูตรทางคณิตศาสตร์เป็นเวลานาน แต่ควรดูตัวอย่างของสูตรต่างๆ ที่สร้างโดยโปรแกรมนี้: ตัวอย่างการแก้ไขสูตรทางคณิตศาสตร์

สูตรเคมีและสมการปฏิกิริยา

2NaNO3 + (NH4)2SO4 → Na2SO4 + 2N2O + 4H2O

นอกเหนือจากการเขียนตัวเลขที่ระบุจำนวนอะตอมแล้ว อาจจำเป็นต้องเขียนประจุของไอออนหรือสถานะออกซิเดชันของอะตอมในตำแหน่งตัวยก ซึ่งสามารถทำได้โดยการระบุในวงเล็บหรือวงเล็บเหลี่ยม (วงเล็บเหลี่ยมจะสะดวกกว่าเมื่อใช้กับรูปแบบแป้นพิมพ์ภาษาอังกฤษ) ซึ่งตัวเลขจะต้องเป็นตัวยก ตัวอย่างเช่น:

H2O = H[+ + OH[-

การแทนที่เครื่องหมาย "=" ด้วยลูกศร (→ หรือ ↔) สามารถกำหนดค่าได้

Cu2 + 11O2 = 2Fe[+3]2O[-2]3 + 8S[+4O[-2]2

วงเล็บปิดสามารถละเว้นได้เมื่อตามด้วยช่องว่างหรือองค์ประกอบทางเคมี. อย่าลืมว่าสถานะออกซิเดชันของอะตอมมีเครื่องหมายที่จุดเริ่มต้น (+2) และประจุของไอออนที่ส่วนท้าย (2+)

เครื่องหมายดอกจันถูกแทนที่ด้วยจุด: Na2CO3*10H2O

ในการระบุสูตรที่ต้องการการแปลง คุณต้องเลือกสูตรหรือวางเคอร์เซอร์บนบรรทัด จากนั้นสูตรทั้งหมดในบรรทัดจะถูกแปลง คุณยังสามารถเลือกหลายบรรทัดเพื่อแปลงเนื้อหาได้พร้อมกัน

การเขียนองค์ประกอบทางเคมีเกี่ยวข้องกับการพิมพ์ตัวอักษรละตินโดยมีการสลับตัวพิมพ์ใหญ่ของแป้นพิมพ์จากตัวพิมพ์ใหญ่ (ใหญ่) เป็นตัวพิมพ์เล็ก (เล็ก) เป็นประจำ (โดยใช้ปุ่ม Caps Lock หรือกด Shift ค้างไว้) ฟังก์ชัน "พิมพ์องค์ประกอบทางเคมี" ทำให้สามารถพิมพ์องค์ประกอบทางเคมีโดยไม่ต้องเปลี่ยนเคสคีย์บอร์ด เนื่องจากความแตกต่างในระยะเวลาของการกดปุ่ม การกดและปล่อยปุ่มทันทีจะเป็นการพิมพ์ตัวอักษรขนาดใหญ่ และการกดค้างไว้จะเป็นการพิมพ์ตัวอักษรตัวเล็ก เวลาในการกดพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0.1 วินาทีถึง 1 วินาที (แนะนำ 0.15 วินาที) เมื่อคุณเปิดใช้งานฟังก์ชัน "พิมพ์องค์ประกอบทางเคมี" คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนภาษาการพิมพ์เช่นกันเพราะ และเมื่อเปิดใช้งาน Cyrillic จะมีการพิมพ์ตัวอักษรละตินและวงเล็บเหลี่ยม ("[", "]") สำหรับการฝึกอบรม คุณสามารถพิมพ์ชุดกิจกรรมโลหะ: Li K Rb Cs Ba Sr Ca Na Mg เป็นต้น มีเสียงเวลาพิมพ์ (ปิดได้) ซึ่งต่างกันสำหรับตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์เล็กซึ่งช่วยให้คุณควบคุมการพิมพ์ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากแป้นพิมพ์

นอกจากลูกศรที่มีเงื่อนไขปฏิกิริยาแล้ว ยังมีฟังก์ชันที่สร้างลูกศรพร้อมข้อความอีกด้วย ลูกศรถูกสร้างขึ้นจากเส้นที่พิมพ์บน กฎง่ายๆ, ตัวอย่างเช่น:

2CO + O2 = [แมว MnO2/CuO]=>2CO2

2H2O 2H2 + O2

C2H5NH2 ==>[(C2H5)2NH2][+Br[- =[-NH4Br]=>(C2H5)2NH

พิมพ์ได้ในปฏิกิริยาเคมี ข้อมูลเพิ่มเติม, แผงแยกต่างหากมีวัตถุประสงค์ แทรกข้อความสามารถแก้ไขได้ให้เป็นตัวหนาและตัวห้อย

สมการเคมีสามารถตรวจสอบจำนวนอะตอมก่อนและหลังปฏิกิริยาได้ ในการตรวจสอบสมการเคมี ให้เลือกหรือวางเคอร์เซอร์บนเส้นของสมการนี้ จากนั้นทั้งบรรทัดจะเข้าร่วมในการตรวจสอบ ตัวคั่นสมการสามารถเป็น: →, ↔, =, >

ผลลัพธ์ของการใช้โปรแกรมแก้ไขสมการเคมีขึ้นอยู่กับฟอนต์ที่ใช้ ตัวอย่างเช่น:
ผลลัพธ์ที่ดีกับแบบอักษร: Times New Roman, Arial ฯลฯ
ผลลัพธ์ที่ไม่ดีกับแบบอักษร: Calibri เป็นต้น

คุณสามารถสร้างแบบอักษรที่เหมาะสมเป็นแบบอักษรเริ่มต้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ MS Word 2007 ในขั้นต้น แบบอักษรเริ่มต้นในนั้นคือ Calibri การตั้งค่าฟอนต์เริ่มต้น

ตัวอักษรกรีกและอักขระพิเศษ

แป้นพิมพ์ลัดสำหรับฟังก์ชัน

สำหรับ MS Word 2003 และเวอร์ชันก่อนหน้า:

เครื่องมือ > การตั้งค่า > แป้นพิมพ์ (ปุ่มด้านล่าง)
ถัดไป ในหมวดหมู่ เลือกมาโคร ในมาโคร เราจะมองหาบรรทัดต่อไปนี้:
EquPixy_ArrowWithText (การสร้างลูกศรด้วยเงื่อนไขปฏิกิริยา)
EquPixy_ChemicalElements (พิมพ์องค์ประกอบทางเคมี)
EquPixy_ChemicalEquation (ตรวจสอบสมการเคมี)
EquPixy_ChemicalFormulas (สูตรเคมี)
EquPixy_MathEquation(สูตรคณิตศาสตร์)
EquPixy_RemarkVisible (หมายเหตุ)

เลือกฟังก์ชันและคลิกที่ช่อง "แป้นพิมพ์ลัดใหม่" เพื่อให้เคอร์เซอร์ปรากฏในฟิลด์นี้ เช่น กด Alt + Z จากนั้นกดปุ่ม "กำหนด" จากนั้นกด "ปิด" ตอนนี้การกด Alt+Z พร้อมกันควรเรียกใช้ฟังก์ชันที่เลือก

สำหรับ MS Word 2007 แตกต่างออกไปเล็กน้อย:

ดาวน์โหลด

ความแตกต่างระหว่างเวอร์ชัน 3.1 และ 3.0:
ตอนนี้คุณสามารถสร้างข้อความตัวห้อยโดยใช้ "_" (N_i)
ขยายฟังก์ชันการสร้างข้อความตัวยก
เพิ่มการก่อตัวของวงเล็บขนาดใหญ่

การติดตั้ง

ข้อเสนอแนะ

หากคุณมีคำถาม ความปรารถนา ข้อคิดเห็น หรือสถานการณ์ผิดปกติใด ๆ โปรดใช้แบบฟอร์มเพื่อส่งข้อความ

MS Word มีชุดฟอนต์ในตัวที่ค่อนข้างใหญ่พร้อมใช้ ปัญหาคือไม่ใช่ผู้ใช้ทุกคนที่รู้วิธีเปลี่ยนไม่เพียงแต่แบบอักษรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขนาด ความหนา และพารามิเตอร์อื่นๆ จำนวนหนึ่งด้วย เป็นเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนแบบอักษรใน Word ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้

Word มีส่วนพิเศษสำหรับทำงานกับฟอนต์และเปลี่ยนฟอนต์ ในเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรม group "แบบอักษร"ตั้งอยู่ในแท็บ "บ้าน"ในเวอร์ชันก่อนหน้าของผลิตภัณฑ์นี้ เครื่องมือแบบอักษรจะอยู่บนแท็บ "เค้าโครงหน้า"หรือ "รูปแบบ".

1. ในกลุ่ม "แบบอักษร"(แท็บ "บ้าน") ขยายช่องด้วยฟอนต์ที่ใช้งานอยู่โดยคลิกที่สามเหลี่ยมเล็กๆ ข้างๆ แล้วเลือกอันที่คุณต้องการใช้จากรายการ

บันทึก:ในตัวอย่างของเรา แบบอักษรเริ่มต้นคือ − Arialอาจแตกต่างกันไปสำหรับคุณ เช่น เปิด Sans.

2. แบบอักษรที่ใช้งานจะเปลี่ยนไปและคุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

บันทึก:ชื่อของแบบอักษรทั้งหมดที่นำเสนอในชุด MS Word มาตรฐานจะแสดงในรูปแบบที่ตัวอักษรที่พิมพ์ด้วยแบบอักษรนี้บนแผ่นงานจะปรากฏขึ้น

จะเปลี่ยนขนาดตัวอักษรได้อย่างไร?

ก่อนเปลี่ยนขนาดแบบอักษร คุณต้องเรียนรู้ความแตกต่างเล็กน้อย: ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนขนาดของข้อความที่พิมพ์แล้ว คุณต้องเลือกก่อน (เช่นเดียวกันกับแบบอักษรเอง)

คลิก "Ctrl+A"หากนี่คือข้อความทั้งหมดในเอกสาร หรือใช้เมาส์เพื่อเลือกส่วน ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนขนาดของข้อความที่คุณวางแผนจะพิมพ์ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกอะไร

1. ขยายเมนูของหน้าต่างที่อยู่ถัดจากแบบอักษรที่ใช้งานอยู่ (มีตัวเลขระบุไว้)

บันทึก:ในตัวอย่างของเรา ขนาดตัวอักษรเริ่มต้นคือ − 12 ของคุณอาจแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น 11 .

2. เลือก ขนาดที่เหมาะสมแบบอักษร

คำแนะนำ: ขนาดมาตรฐานแบบอักษรใน Word จะแสดงด้วยขั้นตอนที่แน่นอนของหลายหน่วยหรือหลักสิบ หากคุณไม่พอใจกับค่าที่ระบุ คุณสามารถป้อนค่าเหล่านี้ด้วยตนเองในหน้าต่างขนาดฟอนต์ที่ใช้งานอยู่

3. ขนาดตัวอักษรจะเปลี่ยนไป

คำแนะนำ:ข้างตัวเลขที่แสดงค่าของฟอนต์ที่ใช้งานอยู่ จะมีปุ่มตัวอักษร 2 ปุ่มคือ "แต่"- อันหนึ่งใหญ่กว่าอีกอันหนึ่งเล็กกว่า โดยคลิกที่ปุ่มนี้ คุณสามารถเปลี่ยนขนาดแบบอักษรทีละขั้นตอน ตัวพิมพ์ใหญ่เพิ่มขนาดและขนาดเล็กลง

นอกจากนี้ ถัดจากสองปุ่มนี้มีอีกปุ่มหนึ่ง − "อา"- โดยการขยายเมนู คุณสามารถเลือกประเภทการเขียนข้อความที่เหมาะสมได้

จะเปลี่ยนน้ำหนักแบบอักษรและความเอียงได้อย่างไร?

นอกเหนือจาก มุมมองมาตรฐานตัวอักษรขนาดใหญ่และขนาดเล็กใน MS Word ซึ่งเขียนด้วยแบบอักษรใดแบบหนึ่ง อาจเป็นตัวหนา ตัวเอียง (ตัวเอียง - มีความลาดเอียง) และขีดเส้นใต้

หากต้องการเปลี่ยนประเภทฟอนต์ ให้เลือกส่วนข้อความที่ต้องการ (อย่าเลือกสิ่งใดหากคุณวางแผนที่จะเขียนบางอย่างในเอกสารด้วยฟอนต์ประเภทใหม่) แล้วคลิกปุ่มใดปุ่มหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม "แบบอักษร"บนแผงควบคุม (tab "บ้าน").

ปุ่มตัวอักษร "เอฟ"ทำให้แบบอักษรเป็นตัวหนา (แทนที่จะกดปุ่มบนแผงควบคุม คุณสามารถใช้ปุ่ม "Ctrl+B");

"ถึง"- ตัวเอียง ( "Ctrl+I");

"ชม"- ขีดเส้นใต้ ( "Ctrl+U").

บันทึก:แบบอักษรตัวหนาใน Word แม้ว่าจะระบุด้วยตัวอักษร "เอฟ", เป็นตัวหนาจริงๆ

ดังที่คุณเห็นแล้ว ข้อความสามารถเป็นตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ได้ในเวลาเดียวกัน

คำแนะนำ:หากคุณต้องการเลือกความหนาของเส้นใต้ ให้คลิกที่สามเหลี่ยมข้างตัวอักษร "ชม"ในกลุ่ม "แบบอักษร".

ข้างตัวอักษร "เอฟ", "ถึง"และ "ชม"มีปุ่มในกลุ่มแบบอักษร "เอบีซี"(ขีดฆ่าตัวอักษรละติน). หากคุณเลือกข้อความแล้วคลิกปุ่มนี้ ข้อความจะถูกขีดทับ

วิธีเปลี่ยนสีฟอนต์และพื้นหลัง

นอกจากรูปลักษณ์ของฟอนต์ใน MS Word แล้ว คุณยังสามารถเปลี่ยนสไตล์ (เอฟเฟกต์และการออกแบบข้อความ) สีและพื้นหลังที่จะใช้เป็นข้อความได้

การเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร

หากต้องการเปลี่ยนรูปแบบฟอนต์, การออกแบบ, ในกลุ่ม "แบบอักษร"ซึ่งอยู่ในแท็บ "บ้าน"(ก่อนหน้านี้ "รูปแบบ"หรือ "เค้าโครงหน้า") คลิกที่สามเหลี่ยมเล็กที่อยู่ทางด้านขวาของตัวอักษรโปร่งแสง "แต่"(“เอฟเฟกต์ข้อความและการออกแบบ”).

ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกสิ่งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง

สิ่งสำคัญ:จำไว้ว่าถ้าคุณต้องการเปลี่ยน รูปร่างข้อความที่มีอยู่ ขั้นแรกให้เลือก

อย่างที่คุณเห็น เครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียวทำให้คุณสามารถเปลี่ยนสีของฟอนต์ เพิ่มเงา โครงร่าง การสะท้อน ไฮไลท์ และเอฟเฟกต์อื่นๆ

เปลี่ยนพื้นหลังหลังข้อความ

ในกลุ่ม "แบบอักษร"ถัดจากปุ่มที่กล่าวถึงข้างต้นจะมีปุ่ม “สีไฮไลท์ข้อความ”ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนพื้นหลังของแบบอักษรได้

เพียงเลือกข้อความที่คุณต้องการเปลี่ยนพื้นหลัง จากนั้นคลิกที่สามเหลี่ยมถัดจากปุ่มนี้บนแผงควบคุม และเลือกพื้นหลังที่เหมาะสม

แทนที่จะเป็นพื้นหลังสีขาวเริ่มต้น ข้อความจะปรากฏบนพื้นหลังของสีที่คุณเลือก

เปลี่ยนสีข้อความ

ปุ่มถัดไปในกลุ่ม "แบบอักษร" — "สีตัวอักษร"- และตามชื่อของมัน มันทำให้คุณสามารถเปลี่ยนสีนี้ได้

เลือกส่วนของข้อความที่คุณต้องการเปลี่ยนสี จากนั้นคลิกที่สามเหลี่ยมถัดจากปุ่ม "สีตัวอักษร". เลือกสีที่เหมาะสม

สีของข้อความที่เลือกจะเปลี่ยน

จะตั้งค่าฟอนต์ที่คุณชอบให้เป็นฟอนต์เริ่มต้นได้อย่างไร?

หากคุณมักใช้แบบอักษรเดียวกันในการพิมพ์ ซึ่งแตกต่างจากแบบอักษรมาตรฐานที่ใช้ได้โดยตรงเมื่อคุณเริ่ม MS Word จะไม่ฟุ่มเฟือยที่จะตั้งเป็นแบบอักษรเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้

1. เปิดกล่องโต้ตอบ "แบบอักษร"โดยคลิกที่ลูกศรที่มุมล่างขวาของกลุ่มที่มีชื่อเดียวกัน

2. มาตรา "แบบอักษร"เลือกอันที่คุณต้องการตั้งเป็นอันมาตรฐานที่มีให้โดยค่าเริ่มต้นเมื่อคุณเริ่มโปรแกรม

ในหน้าต่างเดียวกัน คุณสามารถกำหนดขนาดฟอนต์ ลักษณะ (ปกติ ตัวหนาหรือตัวเอียง) สี และตัวเลือกอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม

3. เมื่อทำการตั้งค่าที่จำเป็นแล้วให้คลิกปุ่ม "ค่าเริ่มต้น"อยู่ที่ด้านล่างซ้ายของกล่องโต้ตอบ

5. กดปุ่ม "ตกลง"เพื่อปิดหน้าต่าง "แบบอักษร".

6. ฟอนต์เริ่มต้น เหมือนคนอื่นๆ การตั้งค่าเพิ่มเติมที่คุณอาจทำในกล่องโต้ตอบนี้จะเปลี่ยนไป หากคุณนำไปใช้กับเอกสารที่ตามมาทั้งหมด ทุกครั้งที่คุณสร้าง / เริ่มเอกสาร Word ใหม่ แบบอักษรของคุณจะถูกติดตั้งทันที

จะเปลี่ยนฟอนต์ในสูตรได้อย่างไร?

เราได้เขียนเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มสูตรใน Microsoft Word และวิธีการใช้งาน คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนี้ได้จากบทความของเรา ที่นี่เราจะพูดถึงวิธีเปลี่ยนแบบอักษรในสูตร

หากคุณเพียงแค่เลือกสูตรและพยายามเปลี่ยนแบบอักษรในลักษณะเดียวกับที่คุณทำกับข้อความอื่น จะไม่มีผลใดๆ ในกรณีนี้ คุณต้องทำตัวแตกต่างออกไปเล็กน้อย

1. ไปที่แท็บ "ผู้สร้าง"ซึ่งปรากฏขึ้นหลังจากคลิกที่พื้นที่สูตร

2. เน้นเนื้อหาของสูตรโดยคลิก "Ctrl+A"ภายในภูมิภาคที่มันตั้งอยู่ คุณยังสามารถใช้เมาส์สำหรับสิ่งนี้

3. เปิดกล่องโต้ตอบกลุ่ม "บริการ"โดยคลิกที่ลูกศรที่อยู่ด้านล่างขวาของกลุ่มนี้

4. กล่องโต้ตอบจะเปิดขึ้นต่อหน้าคุณซึ่งอยู่ในบรรทัด “แบบอักษรเริ่มต้นสำหรับพื้นที่สูตร”คุณสามารถเปลี่ยนแบบอักษรได้โดยเลือกแบบอักษรที่คุณชอบจากรายการที่มี

บันทึก:แม้ว่า Word จะมีชุดฟอนต์ในตัวที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกฟอนต์ที่ใช้กับสูตรได้ นอกจากนี้ คุณอาจไม่สามารถเลือกแบบอักษรอื่นสำหรับสูตรอื่นนอกเหนือจาก Cambria Math มาตรฐานได้

ตอนนี้คุณก็รู้วิธีเปลี่ยนแบบอักษรใน Word แล้ว และจากบทความนี้ คุณได้เรียนรู้วิธีตั้งค่าพารามิเตอร์แบบอักษรอื่นๆ รวมถึงขนาด สี ฯลฯ เราหวังว่าคุณจะมีประสิทธิผลสูงและประสบความสำเร็จในการควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดของ Microsoft Word

เริ่มต้นด้วยเวอร์ชันของ Microsoft Office 2010 แบบอักษรเริ่มต้นในตัวแก้ไขที่ยอดเยี่ยมนี้คือ คาลิบรี . ไม่ต้องบอกว่าฟอนต์นี้แย่ ไม่สิ มันค่อนข้างสวย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับฟอนต์โปรดของทุกคนมาก

ถ้ามันเป็นเพียงเรื่องของนิสัย เพราะคุณสามารถใช้แบบอักษรใหม่ได้ แต่เมื่อปรากฏว่า Times New Roman แบบเก่าที่ดีได้พิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างดีว่าเป็นแบบอักษรทางการสำหรับการกรอกเอกสาร รวบรวมรายงาน การสร้างแบบฟอร์มและอื่น ๆ เอกสารสำนักงาน. ทุกมหาวิทยาลัย โรงเรียน สถาบันสาธารณะแบบอักษรด้านบนเป็นแบบอักษรเริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโปรแกรมแก้ไขข้อความยังไม่หยุดนิ่ง Microsoftได้รับการแนะนำให้รู้จักกับผู้ใช้มานานแล้ว รุ่นสำนักงานปี 2013 เวอร์ชันถัดไปอยู่ใกล้แค่เอื้อม ดังนั้นเพื่อที่จะจัดการกับปัญหานี้ทุกครั้ง ด้านล่างนี้ฉันขอเสนอวิธีง่ายๆ ในการแก้ปัญหา

ดังนั้นการติดตั้งเป็นฟอนต์เริ่มต้น ก่อนอื่นคุณต้องเปิดเอกสารข้อความ สำหรับฉันมันจะเป็นแค่เอกสารเปล่า หลังจากสร้างเอกสารใหม่ คุณต้องคลิกขวาที่ฟิลด์สีขาวและเลือกรายการ:

คุณจะเห็นหน้าต่างที่มีลักษณะดังนี้:

คุณสามารถเลือกฟอนต์ปัจจุบัน ดูการแสดงผล เลือกสไตล์ ขนาด และตัวเลือกอื่นๆ ได้ที่นี่ ดังที่คุณเห็นในภาพหน้าจอด้านบน ช่วงเวลานี้เลือกแบบอักษร Times New Roman แล้ว เป็นไปได้มากว่าคุณจะมี Calibri ในการทำเช่นเดียวกับในภาพหน้าจอ คุณต้องค้นหาแบบอักษรที่ต้องการในรายการแบบอักษร จากนั้นคลิกที่ปุ่ม

หลังจากคลิกแล้ว หน้าต่างต่อไปนี้จะปรากฏขึ้น:


ที่ที่คุณได้รับพร้อมท์ให้ตั้งค่าฟอนต์เริ่มต้นเฉพาะสำหรับเอกสารปัจจุบันหรือสำหรับเอกสารทั้งหมด เลือกข้อที่สองจากนั้นคลิก "ตกลง"จนกว่าหน้าต่างทั้งหมดจะปิดลง

นั่นคือทั้งหมด การดำเนินการติดตั้งฟอนต์หลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว! ใน คราวหน้าเมื่อเปิดเอกสารใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนขนาดและประเภทฟอนต์ด้วยตนเอง แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ แต่ในระหว่างวันทำงานในสำนักงาน แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรียบง่ายก็สามารถกลายเป็นแมลงวันในครีมในโครงการที่สำคัญได้

คำแนะนำง่าย ๆ นี้จะใช้ได้ใน เวอร์ชันก่อนหน้าโปรแกรมแก้ไขข้อความ

หากคุณชอบบทความ บันทึกย่อ และเนื้อหาที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่นำเสนอบนเว็บไซต์ White Windows และคุณมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนโครงการเจียมเนื้อเจียมตัวนี้ ให้เลือกหนึ่งในสองประเภทของกลยุทธ์การสนับสนุนในหน้าพิเศษ -

ในขณะที่ทำงานในโปรแกรมแก้ไขข้อความ คุณสามารถเลือกแบบอักษรใดก็ได้จากแบบอักษรที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้จำเป็นต้องใช้แบบอักษรทั้งหมดตามต้องการ ใคร...