วิธีถ่ายโอนรูปภาพจากกระดาษไปยังไม้ วิธีง่ายๆ ในการถ่ายโอนรูปภาพไปยังต้นไม้
เทคโนโลยีการวาดภาพ
วิธีการนี้ขึ้นอยู่กับการถ่ายเทความร้อนของโทนเนอร์และมักใช้ในการผลิต แผงวงจรพิมพ์ที่บ้าน.
เราจะใช้วิธีนี้ในการวาดลวดลายบนไม้อัด มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นเราต้องเตรียมภาพวาดและกระดาษ
การวาดภาพ
คุณสามารถดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ของเราท่ามกลางงานฝีมือที่คุณชอบ หรืออ่านวิธีเตรียมภาพวาดด้วยตัวคุณเองในบทความถัดไป
กระดาษ
เราต้องการกระดาษมันซึ่งคุณภาพหลักคืออัตราการเก็บผงหมึกต่ำ ตัวอย่างเช่น อาจเป็นกระดาษจากนิตยสารแบบมัน แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันใช้แผ่นรองหลังกระดาษสำหรับติดฉลาก หากคุณไม่มีคำแนะนำข้างต้นใดๆ เลย คุณสามารถใช้กระดาษธรรมดาได้ เทคโนโลยีนี้จะได้ผลเช่นกัน
การพิมพ์ลวดลาย
เมื่อพิมพ์ คุณต้องจำไว้ว่าภาพจะถูกสะท้อน ดังนั้นคุณต้องเตรียมเค้าโครงของคุณล่วงหน้าโดย "สะท้อนภาพในแนวนอน" คุณสามารถดำเนินการนี้โดยทางโปรแกรมหรือเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมในการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ โดยที่เครื่องพิมพ์ของคุณรองรับฟังก์ชันนี้
นอกจากนี้ในการตั้งค่าควรเปิดการพิมพ์คุณภาพสูงซึ่งจะทำให้ ปริมาณมากผงหมึกบนแผ่นและทำให้การถ่ายโอนลวดลายไปยังไม้อัดเร็วขึ้น
กำลังถ่ายโอนรูปภาพ
ในการถ่ายโอนลวดลาย ให้วางเลย์เอาต์ที่พิมพ์โดยให้โทนเนอร์ลงบนไม้อัด แล้วค่อยๆ รีดด้านหลังให้เรียบด้วยเตารีด ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีในการถ่ายโอนรูปแบบขนาด A4
เหล็ก
เตารีดธรรมดาสามารถใช้เป็นเตาอบหมึกพิมพ์ได้ หากคุณตัดสินใจที่จะใช้เตารีดซึ่งใช้ในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน ให้ดูแลความปลอดภัย - ใช้กระดาษและผ้ารองเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อตัวของคาร์บอนสะสมบนพื้นผิว
สำหรับฉัน ฉันใช้เตารีดสำหรับตัดแต่งโมเดลเครื่องบิน มันสะดวกมากเพราะคุณสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการได้ - 190 องศา พื้นผิวของการรีดผ้าคุ้นเคยมานานแล้ว การทดลองต่างๆดังนั้นฉันจึงไม่ใช้สเปเซอร์
หรือคุณสามารถใช้ ไดร์เป่าผมและลูกกลิ้ง
การนำกระดาษออก
หลังจากปรับเค้าโครงให้เรียบอย่างสม่ำเสมอด้วยเตารีด ก่อนถอดชั้นกระดาษ คุณควรรอสักครู่เพื่อให้ผงหมึกที่ถ่ายโอนเย็นลง
เมื่อนำกระดาษออกแล้ว คุณควรตรวจสอบเส้นของภาพวาด การถ่ายโอนสำเร็จเพียงใด และหากจำเป็น ให้วาดองค์ประกอบที่ขาดหายไปด้วยดินสอ
ในขั้นตอนนี้ การโอนภาพวาดไปยังไม้อัดเสร็จสมบูรณ์
บทสรุป
เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อเสียอยู่หนึ่งข้อ ในการแสวงหาการประหยัดเวลา พลาดการพัฒนาคุณสมบัติที่สำคัญของมนุษย์หลายประการ เช่น:
สมาธิ, ความอดทน, ความเพียร, สมาธิ, ความถูกต้อง, ช้า, ทั่วถึง.
ตามนี้ สำหรับผู้เริ่มต้น เด็กวัยเรียน ฉันขอแนะนำให้ลองใช้วิธีการดั้งเดิมในการวาดภาพบนไม้อัด:
การแปลโดยการทำสำเนาหรือการทำแม่แบบ
หากคุณไม่ทราบวิธีการวาดแต่ต้องการเรียนรู้ คุณควรเริ่มด้วยการลอกแบบง่ายๆ ขั้นแรกสามารถทำได้โดยใช้กระดาษลอกลาย วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ตอนนี้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีถ่ายโอนภาพวาดจาก
คำแนะนำ
ในการถ่ายโอนภาพ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง:
- เราเลือกภาพแล้ววางกระดาษลอกลายลงไปแล้ววาดทุกเส้นด้วยแรงกดโดยใช้ปากกาอะครีลิคสีดำ
- ตอนนี้เราพลิกกระดาษลอกลายแล้ววางคว่ำหน้าลงบนแผ่นกระดาษที่คุณต้องการโอนภาพ
- กดให้แน่นแล้วรีดด้วยเตารีดร้อน
- ตอนนี้เราเอากระดาษลอกลายออกและวาดเส้นที่ชัดเจนไม่เพียงพอเพิ่มเติม
- รูปภาพพร้อมแล้ว
วิธีนี้ใช้สำหรับรูปภาพธรรมดาที่ไม่มี จำนวนมากรายละเอียดที่ซับซ้อน ตอนนี้คุณรู้วิธีถ่ายโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังกระดาษแล้ว ด้วยวิธีง่ายๆ. หลังจากลองแล้วคุณสามารถดำเนินการกับผู้อื่นได้
วิธีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
คุณสามารถใช้ตารางคัดลอกเพื่อถ่ายโอนรูปแบบที่ซับซ้อนได้ ด้วยความช่วยเหลือของมัน มันยังเป็นไปได้ที่จะซูมเข้าหรือออกที่ภาพด้วยตัวมันเอง
- ภาพวาดต้นฉบับ
- แผ่นใส
- กระดาษ;
- เทปพันสายไฟ;
- ไม้บรรทัด;
- ดินสอ.
คำแนะนำ
เมื่อต้องการควบคุมวิธีนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- เราใช้ฟิล์มใสกับภาพต้นฉบับ ซึ่งแสดงสี่เหลี่ยมที่มีขนาดเท่ากัน
- เราใส่เซลล์เดียวกันบนกระดาษเปล่าหากภาพถูกทำซ้ำในต้นฉบับ วิธีถ่ายโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังกระดาษเมื่อต้องปรับขนาดรูปภาพ เมื่อเพิ่มขนาดของสี่เหลี่ยมจัตุรัสจะใหญ่ขึ้นเมื่อเราลดขนาดลงตามลำดับ
- ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องทำคือย้ายรูปภาพไปไว้เหนือเซลล์
- เมื่อรูปภาพถูกถ่ายโอนด้วยดินสอจนหมด คุณสามารถเริ่มตกแต่งได้
ตอนนี้คุณรู้วิธีถ่ายโอนรูปภาพจากกระดาษไปยังกระดาษแล้ว พิจารณาพื้นผิวอื่นๆ
ร่างกายเป็นรากฐาน
รอยสักเป็นจุดเด่นของรูปลักษณ์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ตัดสินใจที่จะวาดภาพบนผิวหนังโดยตระหนักว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นมาเพื่อชีวิต สำหรับคนที่กลัวการกระทำดังกล่าว แต่ต้องการประดับร่างกายด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงาม ทางออกที่ดีในการเรียนรู้วิธีการถ่ายโอนการออกแบบจากกระดาษไปยังเครื่องหนัง คุณต้องศึกษาข้อมูลต่อไปนี้ ขั้นตอนหลักคือการวาดโครงร่างของภาพในอนาคตที่ชัดเจน
รูปภาพสามารถนำไปใช้กับร่างกายโดยใช้:
- กระดาษลอกลาย
วิธีแรก
คุณต้องทำสิ่งต่อไปนี้:
- การเลือกรูปแบบการกำหนดสถานที่ของการใช้งานการฆ่าเชื้อผิวหนัง
- การแปลภาพบนสำเนาคาร์บอน ในการทำเช่นนี้ ให้วางกระดาษบนต้นฉบับและร่างโครงร่างทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
- เช็ดกระดาษคาร์บอนด้วยแอลกอฮอล์แล้วทาลงบนร่างกาย
- เพื่อให้โครงร่างพิมพ์ออกมาได้ดี ให้วงกลมอีกครั้งผ่านกระดาษคาร์บอน พยายามปล่อยให้ไม่เสียหาย
วิธีที่สอง
มันขึ้นอยู่กับการใช้กระดาษลอกลาย คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- เราวาดรูปด้วยปากกาฮีเลียม
- เราฆ่าเชื้อผิวหนังและทาด้วยสบู่
- เราใช้กระดาษลอกลายและร่างเส้นขอบด้วยวัตถุมีคม
- ตอนนี้เราวาดทับภาพวาด
หากคุณยังคงตัดสินใจที่จะวาดภาพร่างกายแบบถาวร ให้เข้าใกล้สิ่งนี้อย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกร้านทำผมที่ดี ทดสอบอาการแพ้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือทั้งหมดได้รับการฆ่าเชื้อ
วิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังแก้ว
ในการทำงาน เราถ่ายภาพที่มีรูปทรงสวยงาม และม้วนเป็นม้วน ในการถ่ายโอน คุณต้องซื้อปากกาสักหลาด - มาร์กเกอร์แก้วซึ่งเข้ากันได้ดีและล้างออกได้ง่ายจากพื้นผิว
คำแนะนำ:
- เราติดฟิล์ม ขนาดควรใหญ่กว่าภาพวาดเล็กน้อย ฟิล์มยึดติดกับพื้นผิวซึ่งป้องกันไม่ให้ภาพผิดเพี้ยน
- ภาพถูกวางลงบนฟิล์มและร่างโครงร่างที่บางและระมัดระวังมาก
- ตอนนี้ฟิล์มถูกถ่ายโอนเบา ๆ โดยด้านหน้าไปยังพื้นผิวที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ การเตรียมประกอบด้วยการล้างไขมันด้านหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิล์มติดอยู่กับกระจกจนสนิท ขจัดริ้วรอยและฟองอากาศ
- เพื่อการถ่ายโอนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราวนภาพอีกครั้งตามเส้นขอบด้วยวัตถุมีคมใดๆ
- ได้เวลากำจัดโพลีเอทิลีนแล้ว เราทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เปื้อนภาพวาด หากมีความไม่ถูกต้องอยู่ที่ไหน ถึงเวลาต้องแก้ไขเสียที
- ตอนนี้เราวาดเส้นขอบ สามารถทำได้ด้วยสีอะครีลิคและแปรง
- หลังจากที่ทุกอย่างแห้งแล้ว ค่อยๆ เช็ดด้วยสำลีจุ่มลงในของเหลว เราจะกำจัดร่องรอยของมาร์กเกอร์ออก
- ภายในรูปจะเต็มไปในทางใดทางหนึ่ง หากเทคนิคเป็นกระจกสีทุกอย่างจะถูกเทตามแนวเส้น
- หลังจากการอบแห้ง ผลิตภัณฑ์สามารถอบหรือเคลือบเงาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าจะใช้รายการนี้ที่ไหน
วิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังไม้
หากต้องการดูภาพโปรดของคุณบนฐานไม้ คุณเพียงแค่ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
สำหรับงานคุณจะต้อง:
- ภาพวาดที่พิมพ์บนเครื่องพิมพ์เลเซอร์
- ไม้กระดาน;
- เจลอะคริลิคขนาดกลาง
- เครื่องมือแบนสำหรับปรับระดับลวดลาย
- สีและเศษผ้า;
- พาราฟินอ่อนหรือกาวด้าน
- 2 แปรง
คำแนะนำ:
- การเลือกรูปภาพ ควรเป็นภาพวาดที่จะดูดีบนฐานไม้ เพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับ สไตล์วินเทจสามารถประมวลผลในโปรแกรมพิเศษ
- รูปภาพถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์เท่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลัก
- เลือกฐานไม้เรียบ
- ตอนนี้ใช้ชั้นเจลปานกลาง เป็นผู้ที่จะช่วยให้ภาพถูกถ่ายโอนไปยังพื้นผิวที่เตรียมไว้
- เราวางลวดลายโดยด้านหน้าไปที่ฐาน ในช่วงเวลาของการเชื่อมต่อฟองอากาศจะปรากฏขึ้นซึ่งหากเป็นไปได้ควรทำให้เรียบ
- งานเสร็จวันนี้ ทิ้งทุกอย่างไว้ค้างคืน พรุ่งนี้ไปต่อ
- ได้เวลาแกะกระดาษออกแล้ว เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้เปียกและถูด้วยนิ้วของคุณ ตอนนี้คุณกำลังเห็นปาฏิหาริย์ - เมื่อคุณนำกระดาษออก คุณจะเห็นว่าภาพยังคงอยู่บนต้นไม้อย่างไร
- ตอนนี้คุณสามารถใช้สีไม้ จับตาดูปริมาณเพื่อไม่ให้ภาพมืดลง
- ตอนนี้ใช้พาราฟินเหลว หากจำเป็น สามารถทำซ้ำสองขั้นตอนสุดท้ายได้หลังจากที่ชั้นแรกแห้งแล้ว
พื้นฐานอื่นๆ สำหรับการถ่ายโอนภาพ
โลหะเป็นพื้นฐานและเหมาะสำหรับ "ลูกเล่น" เช่นกัน สำหรับงานที่แม่นยำและค่อนข้างแม่นยำจะมีการวาดเส้นกึ่งกลางสองเส้นหรือทำเครื่องหมายที่มุมของภาพ ตอนนี้เรามาดูวิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษเป็นโลหะกันดีกว่า
โดยทั่วไปจะใช้กระดาษคาร์บอนสำหรับสิ่งนี้ เนื่องจากโลหะเป็นวัสดุที่แข็งมาก จึงเคลือบด้วยสีขาวหรือสีอ่อน ขั้นตอนการถ่ายโอนเริ่มต้นหลังจากที่วานิชแห้งสนิทซึ่งทาก่อนเริ่มงานหลัก
คำแนะนำ
วิธีนี้ต้องใช้กฎต่อไปนี้:
- รูปแบบได้รับการแก้ไขอย่างแน่นหนาบนผลิตภัณฑ์ คุณสามารถใช้น้ำสบู่สำหรับสิ่งนี้
- ช่างฝีมือหลายคนใช้ chasing-kanfarnik สำหรับงานนี้ ด้วยเหตุนี้ รูปภาพจึงแม่นยำมาก ซึ่งเกือบจะเป็นงานของช่างอัญมณี ซึ่งใช้เวลานานมากและต้องได้รับการฝึกอบรมเบื้องต้น
- เครื่องมือนี้ใช้สามนิ้ววางบนนิ้วนางซึ่งทำหน้าที่เป็นสปริงชนิดหนึ่ง เหรียญอยู่ห่างจากภาพวาด 2-3 มม. ลายเส้นแสงเป็นเส้นประ - วาดเส้นขอบหลักของภาพ ยิ่งรายละเอียดของภาพเล็กเท่าใด ภาพก็จะยิ่งทะลุผ่านมากขึ้นเท่านั้น
- เมื่อย้ายเส้นทั้งหมดแล้ว คุณสามารถล้างสีออกได้
- ภาพสามารถเคลือบเงา
ตอนนี้ คุณรู้วิธีถ่ายโอนการออกแบบจากกระดาษหนึ่งไปยังอีกกระดาษหนึ่งไปยังอีกแผ่นหนึ่ง เป็นหนัง เป็นแก้ว เป็นไม้ และกลายเป็นโลหะแล้ว ไปข้างหน้า - สำหรับเครื่องมือและขอให้โชคดีในความพยายามของคุณ!
ด้วยจำนวนวัสดุและเวลาที่น้อยที่สุด คุณสามารถสร้างของขวัญหรือของตกแต่งในสไตล์ย้อนยุคที่น่าจดจำได้ด้วยมือของคุณเอง ต้นไม้จะให้แสงภายในเป็นพิเศษแก่ภาพ และคุณจะได้เฉดสีด้านที่สวยงามบนเฟรมที่ถ่ายโอน นี่คือคลาสมาสเตอร์ที่มีภาพประกอบทีละขั้นตอนในการสร้างผลงานศิลปะที่แท้จริงด้วยมือของคุณเอง
คุณ เรียนรู้:
- เลือกภาพสีเพื่อถ่ายโอนไปยังต้นไม้
- ทำงานกับเจลปานกลาง (เจลปานกลางถ่ายโอน - เจลถ่ายโอน, เจลสำหรับถ่ายโอนรูปภาพ; ขายฟรีใน Runet);
- ถ่ายโอนรูปภาพใด ๆ ไปยังพื้นผิว
- มีความสามารถในการถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิว
1. เลือกแหล่งวัตถุดิบที่เหมาะสม.
ฐานไม้สามารถมีรูปร่างใดก็ได้ แต่พื้นผิวต้องเรียบอย่างสมบูรณ์เพื่อให้ภาพมีความสม่ำเสมอและไม่แตกสลายในทุกแง่มุม นอกจากนี้ยังควรใช้ไม้เนื้ออ่อนเพราะเป็นไม้ที่ให้ "ความเร่าร้อนภายใน" อย่างมาก ฐานแสงมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับการถ่ายภาพบุคคลเพื่อให้โทนสีผิวไม่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง
สำหรับรูปถ่ายจะต้องเป็นงานพิมพ์บนเครื่องพิมพ์เลเซอร์และตั้งแต่เริ่มต้นขนาดเท่ากับขนาดของฐานไม้สำหรับการถ่ายโอน ดังนั้นหลังจากพิมพ์แล้ว จะเป็นการดีที่จะตัดกระดาษสีขาวส่วนเกินออกจากเฟรม เพื่อสะดวกในการใช้งานในภายหลัง รูปภาพควรมีคอนทราสต์สูงตามมาตรฐาน (คุณสามารถประมวลผลรูปภาพในโปรแกรมแก้ไขกราฟิกบนพีซีได้ หากไม่ใช่กรณีนี้) แต่มันให้เอฟเฟกต์ย้อนยุคที่ยอดเยี่ยมบนต้นไม้และรูปภาพก็เกือบจะหลุดโฟกัสและมีความ เฉดสีอ่อนสี ดูตัวอย่างภาพที่เหมาะสมด้านล่าง - จากล่างขึ้นบนและจากขวาไปซ้าย: ภาพตัดกันแต่ไม่อยู่ในโฟกัส ภาพไม่ชัดและมีเฉดสีอ่อน คอนทราสต์ที่ถ่ายในโฟกัสที่สมบูรณ์แบบ ต้นไม้จะปรับปรุงการแสดงสีในทุกกรณี
สามารถใช้สื่อถ่ายโอนใดก็ได้ แต่ได้ภาพที่ดีที่สุดโดยเจลที่มีเอฟเฟกต์แบบด้าน (ทำเครื่องหมายว่า "ด้าน" บนบรรจุภัณฑ์) และความสม่ำเสมอที่หนาแน่น / หนาที่สุด (ทำเครื่องหมายว่า "หนัก" บนบรรจุภัณฑ์)
ให้กับคุณด้วย มาสะดวก:
- ลูกกลิ้งพลาสติกที่ไม่จำเป็น
- (หรือ) แท่งไม้กว้าง (ซื้อที่ร้านขายยา)
- แปรงแบนขนาดกลางหนึ่งคู่สำหรับทาองค์ประกอบ (แปรงกาว)
- ฟองน้ำไม่แข็งหรือฟองน้ำสำหรับจาน (ใหม่)
- น้ำในชามใบเล็กหรือแก้วทรงเตี้ย
- กระดาษทิชชู่/ผ้าเช็ดปาก/ผ้าเช็ดหน้า/กระดาษชำระ หรือแบบบาง ผ้าเช็ดครัว,
- น้ำมันเล็กน้อย (ของเหลวใด ๆ จากครัว)
2. ก่อนที่คุณจะเริ่ม ให้เช็ดฐานไม้ของคุณหลายๆ ครั้งด้วยผ้าขนหนูแห้งสะอาดเพื่อขจัดเศษและฝุ่น
3. ทาเจลโอนลงบนพื้นผิวไม้ ชั้นดี: ไม่บางแน่นอน (เนื้อเจลไม่ควรมองเห็นมาก) แต่ไม่หนามากเช่นกัน (ชั้นเจลไม่ควรมีลักษณะเป็นไอซิ่งที่ซึมผ่านไม่ได้บนเค้กด้วย) เพียงบีบออกจากหลอดหรือช้อนเจลจากภาชนะลงบนต้นไม้ แล้วเกลี่ยให้ทั่วด้วยแปรง (หรือ แท่งไม้หรือบัตรพลาสติกแล้วแต่สะดวก) อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าชั้นบนขอบของฐานไม้ไม่บางกว่าตรงกลาง
4. ขณะที่เจลยังชื้นอยู่ ให้วางด้านพิมพ์ลงบนเจล สามารถครอบตัดรูปภาพให้มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย (หรือเล็กกว่าฐานไม้มาก) เล็กน้อย จากนั้นคุณจะลงเอยด้วยขนาดบางหรือกว้าง กรอบไม้รอบภาพ ใช้นิ้วของคุณอย่างเบามือ (เพื่อไม่ให้ภาพขยับแม้แต่มิลลิเมตร ให้จับด้วยมือข้างหนึ่ง เกลี่ยให้เรียบในทุกทิศทางด้วยอีกข้างหนึ่ง) ปรับภาพที่ซ้อนทับให้เรียบ กดลงบนพื้นผิวเล็กน้อย แล้วไล่อากาศระหว่าง ภาพถ่ายและเจลบนต้นไม้ มันเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าในกรณีใดที่จะกดแรงจนเจลเริ่มบีบที่ด้านข้าง!
5. ใช้นิ้วเกลี่ยให้เรียบ เอาบัตรพลาสติก (สะดวกกว่าไม้ เพราะขอบแรกจะให้แรงกดสม่ำเสมอมากกว่า) แล้วใช้มือข้างเดียวจับภาพอีกครั้ง ปรับพื้นผิวสีขาวของภาพถ่ายต่อไปด้วย อีกด้านหนึ่งของการ์ด
6. หลังจากนั้น วางชิ้นงานของคุณไว้จนกว่าเจลจะแห้งสนิทในชั่วข้ามคืน ต่อต้านการล่อใจที่จะหยิบรูปถ่ายและดูว่าเกิดอะไรขึ้น: คุณจะทำลายงานของคุณอย่างแน่นอน หากคุณทำงานในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถนำชิ้นงานไปตากแดดสักสองสามชั่วโมง (แต่ไม่ใช่บนแบตเตอรี่ !!) จากนั้นตรวจสอบระดับการอบแห้ง ซึ่งอาจ (!) เพียงพอ
7. หลังจากที่เจลแห้งสนิทแล้ว ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำให้ขอบเจลเล็กน้อย (อย่าทำให้เปียกน้ำ แค่ชุบให้หมาดๆ) แล้วเริ่มใช้น้ำโดยตรงกับพื้นผิวด้านหลังสีขาวของภาพถ่ายบนต้นไม้ ทำอย่างระมัดระวังในหลาย ๆ รอบ (ทำให้ฟองน้ำเปียกหลาย ๆ ครั้ง) ก่อนอื่นให้ซับรูปภาพด้วยฟองน้ำแล้วเมื่อมีน้ำมากบนกระดาษแล้วให้เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังต่อไป เป็นวงกลม. นั่นคือเหตุผล - เพื่อที่วัสดุจะไม่เริ่มถูกลบโดยเม็ดจากน้ำในทันที - จำเป็นต้องพิมพ์รูปภาพในขั้นต้นบนกระดาษพิเศษสำหรับภาพถ่ายและไม่ใช่บนกระดาษธรรมดา กระดาษสำนักงาน. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ส่วนที่อ่อนนุ่มของฟองน้ำไม่ใช่ส่วนที่แข็งของฟองน้ำ ในกระบวนการเมื่อบีบฟองน้ำ ของเหลวสีขาวจะไหลเข้าไปในแก้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ กระดาษควรเปียกทุกที่ตั้งแต่ตรงกลางจนถึงขอบโดยไม่มีช่องว่าง
8. นอกจากนี้ ยังคงหล่อเลี้ยงฟองน้ำเป็นครั้งคราว เริ่มเช็ดกระดาษเปียกจากภาพด้วยเม็ด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำงานเฉพาะในพื้นที่ส่วนกลางเพียงจุดเดียว แต่ทำงานที่ขอบเท่าๆ กัน เพื่อไม่ให้กระดาษขาดในที่เดียว เพราะคุณอาจเริ่มลบภาพที่ถ่ายโอนได้ อย่ากลัวสิ่งนี้เป็นพิเศษถูด้วยแรงกดเบา ๆ แล้วกระดาษจะหลุดออกมาอย่างรวดเร็วสิ่งสำคัญคืออย่าถูที่เดียวด้วยความพยายามราวกับว่าคุณกำลังถูคราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าถูในบริเวณที่ไม่มีกระดาษอีกต่อไป
กระดาษจึงควรหลุดออกมาให้หมด หากมีบริเวณที่ไม่ต้องการถูออก ให้ใช้นิ้วที่ชุบน้ำหมาดๆ เอง เนื่องจากนิ้วจะนุ่มนวลขึ้น และรู้สึกดีขึ้นเมื่อกดทับและเคลื่อนตัว
ใช้ฟองน้ำปัดโดยไม่กดทับรูปภาพเพื่อเอาเม็ดเล็กๆ ออกทั้งหมด จากนั้นไม่ต้องใช้นิ้วกดเปียกบนพื้นผิวเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกระดาษเหลือ แม้แต่ชั้นบางๆ
เช็ดภาพด้วยผ้าขนหนูบางสะอาดเพื่อขจัดฝุ่นและความชื้นของกระดาษ
ในตอนท้ายของขั้นตอนนี้ ให้ชุบนิ้วของคุณอีกครั้งและเดินหลาย ๆ ครั้งอีกครั้ง แต่เกือบจะสมบูรณ์โดยไม่ต้องกดทับรูปภาพเพราะเส้นขนกระดาษอาจยังคงอยู่: ในขณะที่กระดาษเปียกจะมองไม่เห็น แต่เมื่อมันแห้ง จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากหากปล่อยทิ้งไว้บนภาพ
9. เช็ดรูปภาพบนต้นไม้อีกครั้งด้วยผ้าขนหนูบาง ๆ วางต้นไม้ไว้กับภาพจนแห้งสนิทจากความชื้น
10. ดังที่คุณเห็นในภาพด้านล่าง แม้ว่าคุณจะถูอย่างระมัดระวัง หลังจากการทำให้แห้ง เส้นใยกระดาษบางส่วนยังคง "ปรากฏขึ้น" ในภาพ คุณสามารถใช้น้ำอีกครั้งแล้วเช็ดให้แห้งอีกครั้ง แต่นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มากกว่านั้น เทคนิคที่มีประสิทธิภาพเสร็จสิ้นการทำงาน
ใช้นิ้วเดียวหยิบน้ำมันสักสองสามหยดแล้วค่อย ๆ นำไปใช้กับรูปภาพในลักษณะเป็นวงกลม และในขณะที่คุณทำงาน คุณจะเห็นว่าวิลลี่เหล่านี้หายไปได้อย่างไร คุณได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว - ใช้ผ้าขนหนูบาง ๆ (กระดาษหรือผ้า) แล้วเริ่มเช็ดน้ำมันออกจากภาพด้วยปลาย
11. หากในระหว่างทำงาน มีเจลจำนวนเล็กน้อยเกินขอบภาพบนฐานไม้ เพียงหยิบก้อนเจลที่แช่แข็งเบาๆ ด้วยนิ้วของคุณ
12. งานเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้คุณสามารถตกแต่งเฟรมได้เช่นใช้เทปกาวตกแต่งพิเศษที่มีลวดลาย - เทป washi (ขายฟรีใน Runet) ที่นี่เฟรมถูกนำเสนอเป็นนามธรรม ทำซ้ำ และแรเงาสีของภาพ นอกจากนี้ยังสะดวกในการติดขอบด้านข้างของฐานไม้ด้วย คุณสามารถใช้สีอะครีลิคแทนริบบิ้นได้ ระบายสีคุ้มด้วย ด้านหลังไม้ในสีเดียว
ภาพทั้งหมดจากบทความ
จุดเด่นศตวรรษ เทคโนโลยีขั้นสูงคือความง่ายในการจำลองความงามและสร้างสรรค์สู่กระแส แต่ถ้าไม่ใช่ทุกคนสามารถเป็นศิลปินและวาดภาพบนผืนผ้าใบที่ยอดเยี่ยมได้ ให้สร้างภาพที่ไม่เหมือนใครด้วยความช่วยเหลือของ เทคโนโลยีง่าย ๆภายใต้อำนาจของใครหลายคน
ต้นไม้เป็นหนึ่งใน วัสดุที่เหมาะสมซึ่งรูปถ่ายหรือภาพวาดที่ชื่นชอบจะดูดี นอกจากความจริงที่ว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาหลายปี มันจะเป็นผลงานชิ้นเอกหรือสินค้าชิ้น ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณกำจัดมัน
สาระสำคัญของเทคโนโลยี
อย่าปล่อยให้คำศัพท์เช่นเทคโนโลยีการพิมพ์ระเหิดหรือ Graverton ทำให้คุณตกใจเพราะเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นจึงเข้าใจยากน้อยกว่า เทคโนโลยีนี้ใช้หลักการของการระเหิดเมื่อสารภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิสูง "กระโดด" จากสถานะก๊าซไปเป็นของแข็งทันทีโดยผ่านขั้นตอนเปียก
เทคโนโลยี Graverton ช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนรูปแบบไปยังไม้ โลหะ แก้ว ผ้า และกระบวนการนี้เกิดขึ้นในลำดับที่แน่นอน:
- ภาพพิมพ์บนกระดาษระเหิด;
- ด้านหน้าถูกนำไปใช้กับวัตถุที่กำลังประมวลผล
- มันถูกวางไว้ในเครื่องกดความร้อนในช่วงเวลาหนึ่ง
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องผ่านกระบวนการทางศิลปะ ตั้งแต่รองเท้า จาน ผ้า ไปจนถึงสัญลักษณ์องค์กร ปริศนา และสิ่งอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง
ข้อเสียเปรียบหลักของเทคโนโลยี Graverton คือความต้องการอุปกรณ์พิเศษและราคาสูง:
- เครื่องพิมพ์ระเหิด(เริ่มต้นจาก 500,000 rubles กับ kopecks);
- เครื่องถ่ายเทความร้อน(จาก 9 ถึง 30,000 rubles)
และเนื่องจากคุณต้องการโอนภาพวาดไปที่ต้นไม้ที่บ้านเป็นครั้งคราวจึงซื้อ อุปกรณ์ราคาแพงสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อคุณวางสิ่งต่าง ๆ ในระดับที่ยิ่งใหญ่
เราสร้างสรรค์เพื่อตัวเราเอง
ด้วยเครื่องมือขั้นต่ำ คุณยังสามารถหาวิธีแปลรูปภาพบนต้นไม้ได้ไม่เลวไปกว่าการใช้อุปกรณ์ไฮเทค บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจในหัวข้อเพราะการลบ "เรื่องไร้สาระ" จะยากแค่ไหน
มีกฎหลายข้อที่จะสอนวิธีถ่ายโอนภาพวาดไปยังต้นไม้เพื่อให้ดูถูกต้อง:
- พื้นผิวการทำงานควรสว่างและสะอาด
- ทิศทางของเส้นใยไม้ไม่ควรทำให้ภาพวาดเสียหายเช่นเส้นเฉียงสามารถเพิ่มรูปถ่ายของริ้วรอยเพิ่มเติมได้
- เรื่องที่มีคำ/ตัวเลขพิมพ์ใน ภาพสะท้อนในกระจก(โปรแกรมแก้ไขรูปภาพจะช่วยหมุนภาพ)
- ควรมีรูปถ่ายดิจิทัลสำหรับสแกนด้วย คุณภาพสูงรูปภาพ;
- ในภาพไม้ ภาพถ่ายมักจะอยู่ด้านหน้าของต้นไม้ ดังนั้นเราจะไม่เตือนคุณถึงสิ่งนี้ตลอดเวลา
ขั้นตอนแรกของการทำงานคือการคิดถึงคำถามสองข้อ - เพื่อจุดประสงค์และสิ่งที่คุณจะ "ร่าง" ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถนำเสนอได้ ใช้สำหรับตกแต่ง แขวนบนผนังในรูปแบบของคติพจน์ตลกที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในทางปฏิบัติ
ด้วยขอบมืด องค์ประกอบ หรือรูปถ่ายที่สง่างาม คุณสามารถตกแต่งได้ไม่เพียงแค่พวงกุญแจ แผ่นไม้อัด / แผ่นไม้เล็กๆ ป้าย แต่ยังรวมถึงประตู หัวเตียง ขอบหน้าต่าง เก้าอี้ - ทุกสิ่งที่เหมาะสมในการตกแต่ง นี่คือบางส่วนที่เรียบง่ายแต่ วิธีที่มีประสิทธิภาพวิธีถ่ายโอนรูปภาพไปยังต้นไม้
วิธีแรกฟรี
ฟรีเพราะคุณสามารถค้นหาได้บนคอมพิวเตอร์และพิมพ์งานบนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในที่ทำงานหรือกับเพื่อน ๆ คุณยังสามารถเตรียมกระดานโดยการบดด้วยกระดาษเนื้อละเอียด (P 220) หรือ (มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ - ช่างทำกุญแจและช่างไม้)
เริ่มทำงานกันเลย:
- ค้นหารูปแบบและซูมไปที่ ขนาดที่ต้องการ, พิมพ์;
- วางแผ่นบนกระดาน
- รีดด้วยเตารีดร้อน
คุณสามารถชุบแผ่นอะซิโตนก่อนที่จะถ่ายโอนภาพไปยังต้นไม้เพื่อให้เม็ดสีหลุดออกมาได้ดีขึ้นอย่างไรก็ตามเพื่อความเสียหาย บรรยากาศบ้านๆ. ควรใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าพันคอปิดจมูกและปาก โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการเผาลวดลายด้วยเครื่องมือพิเศษในภายหลัง
บันทึก! วางกระดาษคาร์บอนไว้บนกระดานโดยให้ด้านที่มีสีคว่ำลง ด้านบนของภาพวาดที่จำเป็น แล้ววงกลมด้วยดินสอ สิ่งสำคัญคืออย่าขยับกระดาษและไม่ถือมันด้วยมือของคุณ มิฉะนั้น กระดานจะสกปรก มันสมเหตุสมผลถ้ารูปวาดมีขนาดเล็ก
วิธีที่สอง - กาว
นอกจากเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง ซอร์สโค้ด และผ้าใบทำด้วยไม้ คุณจะต้อง:
- กาว PVA ธรรมดา
- ตัวทำละลาย;
- กากกะรุนละเอียด
- วานิชเช่น Dulux;
- ลูกกลิ้ง;
- ฟองน้ำ/มีดยาว;
- ความอดทนมาก
บันทึก! ช่างมากประสบการณ์ขอแนะนำให้ทำให้ภาพสว่างขึ้นเล็กน้อยก่อนถ่ายโอนภาพถ่ายไปยังต้นไม้ เพราะใน สำเร็จรูปสีจะอิ่มตัวมากขึ้น
- ลดไขมันและ / ไม้อัด;
- ครอบคลุมพื้นผิวของภาพถ่ายด้วยชั้นกาวต่อเนื่อง
- วางด้านที่สกปรกไว้บนต้นไม้
- ม้วนแผ่นด้วยลูกกลิ้งในลักษณะของการทำให้วอลล์เปเปอร์เรียบหรือโดยการปัดด้วยมีดด้านแบน
- ปล่อยให้แห้งเป็นเวลาหนึ่งวัน
- ชุบแผ่นด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ
- เริ่มการลบกระดาษอย่างช้าๆและระมัดระวังด้วยมือของคุณเองหรือด้วยมือของคุณ
- ปล่อยให้งานแห้ง
- วานิช
วิธีที่สาม - เจล
จากนั้นคุณจะได้เรียนรู้วิธีการถ่ายโอนภาพวาดไปยังต้นไม้โดยใช้สื่ออะคริลิกเจล การวางแบบจำลองนี้ซึ่งใช้ในการสร้างพื้นผิวนูนมีราคามากกว่า 500 รูเบิล แต่ก็ไม่คุ้มค่าที่จะบันทึกเช่นเดียวกับการใช้อันที่หมดอายุ ตามคำบอกเล่าของอาจารย์ สินค้าดีผลิตโดยราฟาเอล
ของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่คุณต้องการ:
- รูปถ่ายและต้นไม้ที่มีขนาดเท่ากัน
- เจลขนาดกลางและแปรงให้;
- ลูกกลิ้ง / มีด / ไม้บรรทัด;
- กาวพาราฟิน / เคลือบด้านที่ใช้สำหรับเดคูพาจ
- แปรงอีกอันสำหรับพาราฟิน
คำแนะนำในการทำงานมีหลายวิธีคล้ายกับคำสั่งก่อนหน้านี้:
- ทาเจลลงบนกระดานด้วยแปรง ชั้นไม่ควรหนา แต่ไม่มีจุดหัวล้าน
- ภาพถ่ายถูกวางบนพื้นที่ที่ทำการรักษาและปรับให้เรียบเพื่อไล่ฟองอากาศ
- ทิ้งไว้ค้างคืนในที่เปลี่ยว
- ม้วนกระดาษ ปล่อยให้แห้ง
- คลุมด้วยพาราฟิน
เราหลงระเริงในการแปล
ฉันสงสัยว่าจะถ่ายโอนภาพถ่ายไปยังต้นไม้โดยไม่ใช้เจลและกาวได้อย่างไร? อีกทางเลือกหนึ่งคือฟิล์มเดคูพาจที่สะอาดซึ่งจะพิมพ์ภาพถ่าย
หลังจากเปียกน้ำ ซับสเตรตจะถูกดึงออกมาจากใต้ฟิล์มด้านบน โดยปล่อยให้มีลวดลายที่ชุ่มฉ่ำเข้าที่
ทำงานก็ต้องมีผิวขาว ภาพวาดสีอะคิลิก, จานใส่น้ำ, สำลีแผ่น, กระดาษเช็ดปาก, แปรง, มาร์กเกอร์, น้ำยาเคลือบเงา
- ทรายพื้นผิว;
- เจือจางสีด้วยน้ำเล็กน้อยแล้วทาชั้นแรกแล้วแปรงตาม
- ชั้นที่สองตามลำดับจังหวะตามขวาง ปล่อยให้แห้ง
- ก่อนถ่ายโอนรูปภาพไปยังต้นไม้ คุณต้องลดรูปภาพลงในน้ำครึ่งนาทีที่อุณหภูมิห้อง
- นำออกแนบกับพื้นผิวแล้วดึงฐานออก
- ขจัดความชื้นส่วนเกินออกจากฟิล์มด้วยการซับ
- ปล่อยให้แห้งและปิดบังจุดบกพร่องด้วยปากกามาร์คเกอร์
- เปิดด้วยวานิช
บันทึก! คุณสามารถซื้อผ้าเช็ดปากพิเศษสำหรับเดคูพาจ กับพวกเขาคำถามเกี่ยวกับวิธีการโอนภาพวาดไปยังต้นไม้จะไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ
สรุปแล้ว
โอกาสใหม่ พื้นผิวไม้ที่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการวาดภาพหรือภาพถ่ายนั้นผิดปกติและทำให้เกิดอารมณ์มากมาย ภาพที่คุ้นเคยจะดูแตกต่างไปจากบนกระดาษเล็กน้อย - นุ่มนวลขึ้น ลึกลับกว่า ตราสินค้า วัสดุสิ้นเปลืองช่วยยืดอายุงานของคุณ ซึ่งอาจมีอายุยืนกว่าฉบับกระดาษ
วิดีโอในบทความนี้แสดงตัวอย่างการถ่ายโอนรูปภาพไปยังแผนผัง
หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการแปลภาพเป็นต้นไม้ คุณสามารถถามในความคิดเห็นของบทความนี้
ในบทช่วยสอนนี้ ฉันจะแสดงให้คุณเห็น 5 วิธีต่างๆลายไม้ นี่เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่จะช่วยให้คุณสร้างการออกแบบที่กำหนดเองได้ เช่น ป้าย โล่ ของขวัญ หรือเพียงแค่สร้างแบรนด์ให้กับงานสร้างสรรค์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมวัสดุ
วัสดุ:
- ไม้สน
- Liquitex เจลมีเดียม
ขั้นตอนที่ 2: การตั้งค่า
ฉันทดสอบ 4 วิธีในการถ่ายโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังไม้และอีกวิธีหนึ่งโดยใช้เทคนิค ในแต่ละกระดาน ฉันใช้ภาพเดียวกันซึ่งมีโลโก้ของฉันด้วย บล็อกใหญ่ข้อความ รูปภาพ และข้อความขนาดปกติ ดังนั้นสำหรับแอปพลิเคชันแต่ละประเภท คุณจะเห็นว่าต้นไม้ตอบสนองได้ดีเพียงใด ตัวเลือกต่างๆแอปพลิเคชัน.
รูปภาพทั้งหมดถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ของฉัน (ไม่ใช่อิงค์เจ็ต) ฉันยังสะท้อนภาพเพื่อให้แสดงบนต้นไม้ได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 3: วิธีที่ 1 - อะซิโตน
วิธีแรกคือการใช้อะซิโตนเพื่อถ่ายโทนเนอร์ไปที่เนื้อไม้ สิ่งที่คุณต้องมีคืออะซิโตน กระดาษเช็ดปาก,ถุงมือไนไตรป้องกันมือคุณยังใช้แบบเก่าได้ บัตรพลาสติก. เมื่อทำงานกับอะซิโตน โปรดใช้ความระมัดระวังและอ่านคำแนะนำด้านความปลอดภัย
ฉันวางภาพสะท้อนบนไม้อัดแล้วพันไว้เพื่อให้กระชับยิ่งขึ้น จากนั้นฉันก็จุ่มกระดาษทิชชู่ลงในอะซิโตนแล้วนำไปใช้กับรูปภาพโดยกดให้แน่นที่ด้านบน
หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง ผงหมึกก็ถูกย้ายไปที่ไม้ และกระดาษก็ล้าหลังไม้
ข้อดี: เร็วมาก คุณภาพของภาพที่ดี กระบวนการที่สะอาด
จุดด้อย: คุณภาพของภาพอยู่ในระดับปานกลาง อะซิโตนเป็นสารเคมีที่แรง
ขั้นตอนที่ 4: วิธีที่ 2 - การรีดผ้า
วิธีต่อไปคือการใช้เตารีดธรรมดา สิ่งที่คุณต้องทำคือรีดกระดาษ เช่นเดียวกับในขั้นตอนที่แล้ว ฉันห่อกระดาษรอบๆ ชิ้นไม้ แล้วรีด ระวังอย่าขยับแผ่นที่สัมพันธ์กับไม้ ฉันพยายามกดเตารีดแรงๆ และตัวเตารีดเองก็ถูกตั้งไว้ที่อุณหภูมิสูง แต่สำหรับฉันดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะไม่สูงพอ
ภาพออกมาพอดูได้และสำหรับฉันดูเหมือนว่าเป็นเพราะเตารีดไม่ให้ความร้อนกับกระดาษจนถึงอุณหภูมิที่เพียงพอ ฉันได้ยินมาว่าการใช้กระดาษแว็กซ์สามารถปรับปรุงสถานการณ์ได้ และช่างฝีมือบางคนก็โอนภาพโดยใช้หัวแร้งที่มีปลายพิเศษสำหรับสร้างแบรนด์
ข้อดี: วิธีที่ถูกที่สุด ทำค่อนข้างเร็ว
ข้อเสีย: ชั้นเลวรูปภาพ ความสามารถในการเผาตัวเอง ถ่านไม้หรือกระดาษ
ขั้นตอนที่ 5: วิธีที่ 3 - โพลียูรีเทนแล็กเกอร์
วิธีที่สามขึ้นอยู่กับการใช้ยูรีเทนบน น้ำที่ใช้. ฉันใช้ Polycrylic (นี่เป็นเพียงชื่อของบริษัทผู้ผลิต คุณจึงสามารถซื้อแอนะล็อกใดก็ได้) คุณต้องใช้น้ำยาเคลือบเงา แปรงกรด แปรงสีฟันแข็ง และน้ำ
ฉันใช้พอลิไครลิคด้วยแปรงเล็กๆ พยายามสร้าง ฟิล์มบางให้เปียกแต่ไม่เป็นแอ่งน้ำ จากนั้นฉันก็กดกระดาษลงบนโพลิคริลที่เปียกโดยตรงแล้วกดกระดาษจากตรงกลางออกด้านนอก ไล่อากาศที่ติดอยู่ใต้กระดาษออก จากนั้นจึงขยับชิ้นไม้ไปด้านข้าง ซึ่งทำให้กระดาษแห้งประมาณหนึ่งชั่วโมง
หลังจากที่กระดาษเปล่าแห้ง ฉันก็ชุบน้ำ จากนั้นจึงปอกกระดาษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยมือ ต่อไปฉันเอา แปรงสีฟันและค่อย ๆ หมุนมันเบา ๆ บนพื้นผิวจนกว่ากระดาษที่เหลือทั้งหมดจะถูกลอกออก
คุณภาพกลายเป็นเลิศ! ทุกอย่างยกเว้นข้อบกพร่องเล็กน้อยบนตัวอักษร "F" ดูดีมาก ฉันรู้สึกประหลาดใจมากกับวิธีการพิมพ์บนไม้นี้
ข้อดี: คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม การเคลือบแบบน้ำที่ปลอดภัย
ข้อเสีย: กระดาษเลอะเทอะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงให้แห้ง
ขั้นตอนที่ 6: วิธีที่ 4 - Liquitex Gel Thinner
วิธีที่สี่คือตัวทำละลายเจล ฉันใช้ลิควิเท็กซ์กลอส แปรงโฟม บัตรพลาสติกเก่า แปรงสีฟัน และน้ำ
กระบวนการนี้คล้ายกับขั้นตอนที่ใช้เคลือบเงา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเรามีเจลอยู่ในมือ ไม่ใช่ของเหลว ควรใช้เจลกับโฟมจะดีกว่าเพราะแปรงทิ้งตุ่มและลายทางไว้มากมาย
ฉันกดรูปภาพลงในเจลและไล่อากาศที่อยู่ใต้กระดาษออก ขั้นแรกด้วยนิ้วของฉัน และจากนั้นด้วยบัตรพลาสติก จากนั้นฉันก็ทิ้งช่องว่างไว้ให้แห้งเป็นเวลา 90 นาที จากนั้นจึงขูดกระดาษออกด้วยแปรงสีฟัน
ตัวเลือกนี้ยังดูดี แต่มีกระดาษเหลืออยู่สองสามแผ่นบนต้นไม้ที่ไม่สามารถขูดออกด้วยแปรงได้
ข้อดี: คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม เจลสูตรน้ำที่ปลอดภัย
ข้อเสีย: ลอกออกยากกว่าพอลิไครล พื้นผิวจะหยาบ ใช้เวลาในการแห้งนาน
ขั้นตอนที่ 7: วิธีที่ 5 - CNC Laser
ทีนี้มาลองใช้วิธีการทางเทคโนโลยีกัน ฉันมีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ Full Spectrum Laser Hobby 20x12 และใช้เพื่อแสดงภาพเดียวกัน การตั้งค่าอุปกรณ์นั้นง่ายมาก
คุณภาพของภาพตามที่คาดไว้นั้นดี ปัญหาเดียวคือภาพถ่าย ซึ่งพิสูจน์ได้ยากสำหรับเลเซอร์ที่จะคัดลอก แต่ข้อความและโลโก้ในรูปเป็นสีดำล้วนดูดี
ข้อดี: รายละเอียดข้อความและโลโก้ที่ยอดเยี่ยม ตั้งค่าแล้วเครื่องจะทำทุกอย่างให้คุณ
ข้อเสีย: ซื้อแพง หาเช่ายาก ถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง
ขั้นตอนที่ 8: การใช้ Finish Coat และ Final Opinion
เลยตัดสินใจใส่ ทำงานเสร็จ เคลือบแล็คเกอร์เพื่อดูวิธีการเปลี่ยน รูปร่างผลิตภัณฑ์และขั้นตอนนี้เปลี่ยนความคิดเห็นของฉันเล็กน้อยเกี่ยวกับแต่ละวิธีที่ฉันทดสอบ
อะซิโตนมีสีเข้มมากหลังจากการขัด และฉันชอบรูปลักษณ์สุดท้ายมากกว่ามาก ดังนั้นฉันจึงให้ผลลัพธ์นี้สูงกว่าตัวอย่างเจล
ตัวเลือกที่มีเหล็ก ... ยังคงคุณภาพต่ำ
Polycrilic มืดมนยิ่งขึ้นและเริ่มดูดีขึ้นกว่าเดิม นี่เป็นรายการโปรดที่แน่นอนในการจัดอันดับของฉัน
เจลก็เข้มขึ้นเช่นกัน แต่พื้นผิวของไม้ไม่เสมอกัน และแผ่นกระดาษที่ฉันไม่สามารถเอาออกก็ยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับ polycrylic ฉันต้องใช้เวลามากขึ้น
เวอร์ชันบนเครื่อง CNC เลเซอร์แทบไม่มืดลง แต่กลายเป็นเหมือนต้นไม้ที่ไหม้เกรียมเล็กน้อย รายละเอียดยังคงยอดเยี่ยม