ภาพวาดที่จะคัดลอกบนไม้ วิธีง่ายๆ ในการถ่ายโอนรูปภาพไปยังต้นไม้

หากคุณไม่ทราบวิธีการวาด แต่ต้องการเรียนรู้ คุณควรเริ่มด้วยการคัดลอกภาพวาดง่ายๆ ขั้นแรกสามารถทำได้โดยใช้กระดาษลอกลาย วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดำเนินการ ตอนนี้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีถ่ายโอนภาพวาดจาก

คำแนะนำ

ในการถ่ายโอนภาพ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง:

1. เราเลือกภาพแล้ววางกระดาษลอกลายลงบนนั้นวาดทุกเส้นด้วยแรงกดโดยใช้ปากกาอะครีลิคสีดำ
2. ตอนนี้เราพลิกกระดาษลอกลายแล้ววางคว่ำหน้าลงบนแผ่นกระดาษที่คุณต้องการโอนภาพ
3. กดให้แน่นแล้วรีดด้วยเตารีดร้อน
4. ตอนนี้เราเอากระดาษลอกลายออกและวาดเส้นที่ชัดเจนไม่เพียงพอเพิ่มเติม
5. รูปภาพพร้อมแล้ว

วิธีนี้ใช้สำหรับรูปภาพธรรมดาที่ไม่มี จำนวนมากรายละเอียดที่ซับซ้อน ตอนนี้คุณรู้วิธีถ่ายโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังกระดาษแล้ว ด้วยวิธีง่ายๆ. หลังจากลองแล้วคุณสามารถดำเนินการกับผู้อื่นได้

วิธีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

คุณสามารถใช้ตารางคัดลอกเพื่อถ่ายโอนรูปแบบที่ซับซ้อนได้ ด้วยความช่วยเหลือของมัน มันยังเป็นไปได้ที่จะซูมเข้าหรือออกที่ภาพด้วยตัวมันเอง

• ภาพวาดต้นฉบับ
• แผ่นใส
• กระดาษ;
• เทปพันสายไฟ;
• ไม้บรรทัด;
• ดินสอ.

คำแนะนำ

เมื่อต้องการควบคุมวิธีนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. เราใช้ฟิล์มใสกับภาพต้นฉบับ ซึ่งแสดงสี่เหลี่ยมที่มีขนาดเท่ากัน
2. เราใส่เซลล์เดียวกันบนกระดาษเปล่าหากภาพถูกทำซ้ำในต้นฉบับ วิธีถ่ายโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังกระดาษเมื่อต้องปรับขนาดรูปภาพ เมื่อเพิ่มขนาดของสี่เหลี่ยมจัตุรัสจะใหญ่ขึ้นเมื่อเราลดขนาดลงตามลำดับ
3. ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องทำคือย้ายรูปภาพไปไว้เหนือเซลล์
4. เมื่อรูปภาพถูกถ่ายโอนด้วยดินสอจนหมด คุณสามารถเริ่มตกแต่งได้

ตอนนี้คุณรู้วิธีถ่ายโอนรูปภาพจากกระดาษไปยังกระดาษแล้ว พิจารณาพื้นผิวอื่นๆ

ร่างกายเป็นรากฐาน

รอยสักเป็นจุดเด่นของรูปลักษณ์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ตัดสินใจที่จะวาดภาพบนผิวหนังโดยตระหนักว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นมาตลอดชีวิต สำหรับคนที่กลัวการกระทำดังกล่าว แต่ต้องการประดับร่างกายด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงาม ทางออกที่ดีในการเรียนรู้วิธีการถ่ายโอนการออกแบบจากกระดาษไปยังเครื่องหนัง คุณต้องศึกษาข้อมูลต่อไปนี้ ขั้นตอนหลักคือการวาดโครงร่างของภาพในอนาคตที่ชัดเจน

รูปภาพสามารถนำไปใช้กับร่างกายโดยใช้:

• กระดาษลอกลาย

วิธีแรก

คุณต้องทำสิ่งต่อไปนี้:

1. การเลือกรูปแบบการกำหนดสถานที่ของการใช้งานการฆ่าเชื้อผิวหนัง
2. การแปลภาพบนสำเนาคาร์บอน ในการทำเช่นนี้ ให้วางกระดาษบนต้นฉบับและร่างโครงร่างทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
3. เช็ดกระดาษคาร์บอนด้วยแอลกอฮอล์แล้วทาลงบนร่างกาย
4. เพื่อให้โครงร่างพิมพ์ออกมาได้ดี ให้วงกลมอีกครั้งผ่านกระดาษคาร์บอน พยายามปล่อยให้ไม่เสียหาย

วิธีที่สอง

มันขึ้นอยู่กับการใช้กระดาษลอกลาย คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. เราวาดรูปด้วยปากกาฮีเลียม
2. เราฆ่าเชื้อผิวหนังและทาด้วยสบู่
3. เราใช้กระดาษลอกลายและร่างเส้นขอบด้วยวัตถุมีคม
4. ตอนนี้เราวาดทับภาพวาด

หากคุณยังคงตัดสินใจที่จะวาดภาพถาวรบนร่างกายของคุณ ให้เข้าใกล้สิ่งนี้อย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือการเลือกร้านทำผมที่ดี ทดสอบการแพ้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือทั้งหมดได้รับการฆ่าเชื้อ

วิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังแก้ว

ในการทำงาน เราถ่ายภาพที่มีรูปทรงสวยงาม และม้วนเป็นม้วน ในการถ่ายโอน คุณต้องซื้อปากกาสักหลาด - มาร์กเกอร์แก้วซึ่งเข้ากันได้ดีและล้างออกได้ง่ายจากพื้นผิว

คำแนะนำ:

1. เราติดฟิล์ม ขนาดควรใหญ่กว่ารูปวาดเล็กน้อย ฟิล์มยึดติดกับพื้นผิวซึ่งป้องกันไม่ให้ภาพผิดเพี้ยน
2. ภาพถูกวางลงบนแผ่นฟิล์มและร่างโครงร่างที่บางและรอบคอบมาก
3. ตอนนี้ฟิล์มถูกถ่ายโอนเบา ๆ โดยด้านหน้าไปยังพื้นผิวที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ การเตรียมประกอบด้วยการล้างไขมันด้านหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิล์มติดอยู่กับกระจกจนสนิท ขจัดริ้วรอยและฟองอากาศ
4. เพื่อการถ่ายโอนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราวนภาพอีกครั้งตามเส้นขอบด้วยวัตถุมีคมใดๆ
5. ได้เวลากำจัดโพลีเอทิลีนแล้ว เราทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เปื้อนภาพวาด หากมีความไม่ถูกต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องแก้ไข
6. ตอนนี้เราวาดเส้นขอบ สามารถทำได้โดยใช้ สีอะครีลิคและแปรง
7. หลังจากที่ทุกอย่างแห้งแล้ว ค่อยๆ เช็ดด้วยสำลีจุ่มลงในของเหลว เราจะกำจัดร่องรอยของมาร์กเกอร์ออก
8. ภายในภาพจะเต็มไปในทางใดทางหนึ่ง หากเทคนิคเป็นกระจกสีทุกอย่างจะถูกเทตามเส้นชั้นความสูง
9. หลังจากการอบแห้ง ผลิตภัณฑ์สามารถอบหรือเคลือบเงาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าจะใช้รายการนี้ที่ไหน

วิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษไปยังไม้

หากต้องการดูภาพโปรดของคุณบนฐานไม้ คุณเพียงแค่ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

สำหรับงานคุณจะต้อง:

• ภาพวาดที่พิมพ์บนเครื่องพิมพ์เลเซอร์
• ไม้กระดาน;
• เจลอะคริลิคขนาดกลาง
• เครื่องมือแบนสำหรับปรับระดับลวดลาย
• สีและเศษผ้า;
• พาราฟินอ่อนหรือกาวด้าน
• 2 แปรง

คำแนะนำ:

1. การเลือกรูปภาพ ควรเป็นภาพวาดที่จะดูดีบนฐานไม้ เพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับ สไตล์วินเทจสามารถประมวลผลในโปรแกรมพิเศษ
2. รูปภาพถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์เท่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลัก
3. เลือกฐานไม้เรียบ
4. ตอนนี้ใช้ชั้นเจลปานกลาง เป็นผู้ที่จะช่วยให้ภาพถูกถ่ายโอนไปยังพื้นผิวที่เตรียมไว้
5. เราวางลวดลายโดยด้านหน้าไปที่ฐาน ในช่วงเวลาของการเชื่อมต่อฟองอากาศจะปรากฏขึ้นซึ่งหากเป็นไปได้ควรทำให้เรียบ
6. งานเสร็จวันนี้ ทิ้งทุกอย่างไว้ค้างคืน พรุ่งนี้ไปต่อ
7. ได้เวลาแกะกระดาษออกแล้ว เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้เปียกและถูด้วยนิ้วของคุณ ตอนนี้คุณกำลังเห็นปาฏิหาริย์ - เมื่อคุณเอากระดาษออก คุณจะเห็นว่าภาพยังคงอยู่บนต้นไม้อย่างไร
8. ตอนนี้คุณสามารถใช้สีไม้ จับตาดูปริมาณเพื่อไม่ให้ภาพมืดลง
9. ตอนนี้ใช้พาราฟินเหลว หากจำเป็น สามารถทำซ้ำสองขั้นตอนสุดท้ายได้หลังจากที่ชั้นแรกแห้งแล้ว

พื้นฐานอื่นๆ สำหรับการถ่ายโอนภาพ

โลหะเป็นพื้นฐานและเหมาะสำหรับ "ลูกเล่น" เช่นกัน สำหรับงานที่แม่นยำและค่อนข้างแม่นยำจะมีการวาดเส้นกึ่งกลางสองเส้นหรือทำเครื่องหมายที่มุมของภาพ ตอนนี้เรามาดูวิธีการโอนภาพวาดจากกระดาษเป็นโลหะกันดีกว่า

ที่พบมากที่สุดคือการใช้กระดาษคาร์บอนสำหรับสิ่งนี้ เนื่องจากโลหะเป็นวัสดุที่แข็งมาก จึงเคลือบด้วยสีขาวหรือสีอ่อน ขั้นตอนการถ่ายโอนเริ่มต้นหลังจากที่วานิชแห้งสนิทซึ่งทาก่อนเริ่มงานหลัก

คำแนะนำ

วิธีนี้ต้องใช้กฎต่อไปนี้:

1. รูปแบบได้รับการแก้ไขอย่างแน่นหนาบนผลิตภัณฑ์ คุณสามารถใช้น้ำสบู่สำหรับสิ่งนี้
2. ช่างฝีมือหลายคนใช้ chasing-kanfarnik สำหรับงานนี้ ด้วยภาพนี้ ภาพจึงแม่นยำมาก ซึ่งเกือบจะเป็นงานของช่างอัญมณี ซึ่งต้องใช้เวลามากและต้องได้รับการฝึกอบรมเบื้องต้น
3. เครื่องมือนี้ใช้สามนิ้ววางบนนิ้วนางซึ่งทำหน้าที่เป็นสปริงชนิดหนึ่ง เหรียญอยู่ห่างจากภาพวาด 2-3 มม. ลายเส้นแสงเป็นเส้นประ - โครงร่างหลักของภาพถูกวาด ยิ่งรายละเอียดของภาพเล็กเท่าใด ภาพก็จะยิ่งทะลุผ่านมากขึ้นเท่านั้น
4. เมื่อย้ายเส้นทั้งหมดแล้ว คุณสามารถล้างสีออกได้
5. ภาพสามารถเคลือบเงา

ตอนนี้คุณรู้วิธีถ่ายโอนงานออกแบบจากกระดาษหนึ่งไปยังอีกกระดาษหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เป็นหนัง เป็นแก้ว เป็นไม้ และกลายเป็นโลหะแล้ว ไปข้างหน้า - สำหรับเครื่องมือและขอให้โชคดีในความพยายามของคุณ!

ภาพทั้งหมดจากบทความ

จุดเด่นศตวรรษ เทคโนโลยีขั้นสูงคือความง่ายในการจำลองความงามและสร้างสรรค์สู่กระแส แต่ถ้าไม่ใช่ทุกคนสามารถเป็นศิลปินและวาดภาพบนผืนผ้าใบที่ยอดเยี่ยมได้ ให้สร้างภาพที่ไม่เหมือนใครด้วยความช่วยเหลือของ เทคโนโลยีง่าย ๆภายใต้อำนาจของใครหลายคน

ต้นไม้เป็นหนึ่งใน วัสดุที่เหมาะสมซึ่งรูปถ่ายหรือภาพวาดที่ชื่นชอบจะดูดี นอกจากความจริงที่ว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาหลายปี มันจะเป็นผลงานชิ้นเอกหรือสินค้าชิ้น ขึ้นอยู่กับวิธีการกำจัด

สาระสำคัญของเทคโนโลยี

อย่าปล่อยให้คำศัพท์เช่นเทคโนโลยีการพิมพ์ระเหิดหรือ graverton ทำให้คุณตกใจเพราะเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นจึงเข้าใจยากน้อยกว่า เทคโนโลยีนี้ใช้หลักการของการระเหิดเมื่อสารภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิสูง "กระโดด" จากสถานะก๊าซไปเป็นของแข็งทันทีโดยผ่านขั้นตอนเปียก

เทคโนโลยี Graverton ช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนลวดลายไปยังไม้ โลหะ แก้ว ผ้า และกระบวนการนี้เกิดขึ้นในลำดับที่แน่นอน:

1. ภาพพิมพ์บนกระดาษระเหิด;
2. ด้านหน้าถูกนำไปใช้กับวัตถุที่กำลังประมวลผล
3. มันถูกวางไว้ในเครื่องกดความร้อนในช่วงเวลาหนึ่ง

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องผ่านกระบวนการทางศิลปะ ตั้งแต่รองเท้า จาน ผ้า ไปจนถึงสัญลักษณ์องค์กร ปริศนา และสิ่งอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง

ข้อเสียเปรียบหลักของเทคโนโลยี Graverton คือความต้องการอุปกรณ์พิเศษและราคาสูง:

• เครื่องพิมพ์ระเหิด(เริ่มต้นจาก 500,000 rubles กับ kopecks);
• เครื่องกดถ่ายเทความร้อน(จาก 9 ถึง 30,000 rubles)

และเนื่องจากคุณต้องการโอนภาพวาดไปที่ต้นไม้ที่บ้านเป็นครั้งคราวจึงซื้อ อุปกรณ์ราคาแพงสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อคุณวางสิ่งต่าง ๆ ในระดับใหญ่

เราสร้างสรรค์เพื่อตัวเราเอง

ด้วยเครื่องมือขั้นต่ำ คุณยังสามารถหาวิธีแปลรูปภาพบนต้นไม้ได้ไม่เลวไปกว่าการใช้อุปกรณ์ไฮเทค บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจในหัวข้อเพราะการลบ "เรื่องไร้สาระ" จะยากแค่ไหน

มีกฎหลายข้อที่จะสอนวิธีถ่ายโอนภาพวาดไปยังต้นไม้เพื่อให้ดูถูกต้อง:

1. พื้นผิวการทำงานควรสว่างและสะอาด
2. ทิศทางของเส้นใยไม้ไม่ควรทำให้ภาพวาดเสียหาย ตัวอย่างเช่น เส้นเฉียงสามารถเพิ่มภาพถ่ายของริ้วรอยเพิ่มเติมได้
3. เรื่องที่มีคำ/ตัวเลขพิมพ์ใน ภาพสะท้อนในกระจก(โปรแกรมแก้ไขรูปภาพจะช่วยหมุนภาพ)

งานที่แสดงในตัวอย่างนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการบิน ดังนั้นจึงเลือกรูปภาพสำหรับการประมวลผลให้สอดคล้องกับหัวข้อโปรดของเขา คุณควรเลือกภาพถ่ายที่เหมาะสมกับเนื้อหาและอารมณ์ของผู้ที่กำลังเตรียมงานนี้ ด้านบนเป็นภาพก่อนและหลังการประมวลผล

ขั้นตอนที่ 1 วัสดุที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

ด้านล่างนี้คือรายชื่อทั้งหมด วัสดุที่จำเป็นที่ถูกนำมาใช้ ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องใช้รายการทั้งหมดนี้ในงานเฉพาะของคุณ คุณสามารถฝันถึงและแทนที่วัสดุบางอย่างด้วยวัสดุอื่น
นี่คือสิ่งที่ต้องใช้เพื่อสร้างงานนี้:

• พิมพ์ภาพถ่าย;
• แผ่นไม้ขนาดเดียวกับรูปถ่าย
• เจลมีเดียม (เจลขึ้นอยู่กับสีอะครีลิค);
• แปรงสำหรับทาเจลบนกระดานไม้
• ไม้พายหรือมีดเพื่อกระจายภาพอย่างสม่ำเสมอ
• สีไม้และผ้า (ไม่จำเป็น);
• รงควัตถุ;
• กระดาษทราย;
• แว็กซ์สำหรับการทำให้ภาพถ่ายเรียบและกระชับ;
• แปรงแว็กซ์;
• ขาแขวน;
• วงเล็บสำหรับยึด (เนื่องจากใช้สองแผ่น)

ขั้นตอนที่ 2 ค้นหาและประมวลผลรูปภาพ

ในขั้นตอนแรกของการสร้างรูปภาพ คุณต้องค้นหา ประมวลผลในโปรแกรมแก้ไขกราฟิก และพิมพ์ภาพถ่าย โปรดทราบว่าตัวอย่างที่ใช้ การถ่ายภาพสีที่มีคุณภาพดีและผลที่ได้คือภาพขาวดำที่ทำขึ้นแบบโบราณ เพื่อไม่ให้ภาพถ่ายของคุณออกมาดังเกินไปในฉบับพิมพ์ รูปภาพต้นฉบับต้องมีความละเอียดสูง เราทำขาวดำและเอฟเฟกต์ของภาพถ่ายเก่าโดยใช้โปรแกรมแก้ไขกราฟิก เช่น Photoshop ในขั้นตอนนี้ คุณจะสร้างภาพในอนาคตของคุณอย่างสมบูรณ์ วิธีทำขึ้นอยู่กับว่าเสร็จแล้วจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร

ขั้นตอนที่ 3 พิมพ์ภาพถ่ายและค้นหาแผ่นไม้

เมื่อเตรียมและประมวลผลภาพแล้ว คุณต้องพิมพ์ออกมา ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาด ตัวอย่างแสดงผลงาน 20x30 ซม. นั่นคือรูปแบบ A4 และบางทีนี่อาจเป็นที่สุด ตัวเลือกที่ดีที่สุดและในแง่ของราคาและขนาด ที่จะทำมากขึ้น - มันจะแพงขึ้นและนานขึ้น ถ้าทำน้อยลง - งานจะออกมาเล็กเกินไป
การค้นหาแผ่นไม้ที่เหมาะสมนั้นยากกว่าการพิมพ์ภาพถ่ายเล็กน้อย มีโอกาสมากกว่าที่คุณจะต้องเลี่ยงร้านฮาร์ดแวร์หลายแห่ง มีตัวเลือกที่แพงกว่า แต่สะดวก - คุณสามารถสร้างจานขนาดและรูปแบบที่ต้องการสั่งได้ แต่แล้วอีกครั้ง ตัวเลือกนี้อาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น และคุณยังสามารถนำเพลตสองแผ่นมารวมกัน ดังที่แสดงในตัวอย่าง

ขั้นตอนที่ 4. ทาเจลลงบนแผ่นไม้

ไปทำงานกันเถอะ การใช้เจลกับไม้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการสร้างภาพ ผลสุดท้ายขึ้นอยู่กับว่าคุณทำได้ดีเพียงใด
ค่อยๆ ทาเจลเล็กๆ ให้ทั่วพื้นผิวของแผ่นกระดาน ถ้าคุณใส่มากเกินไป ชั้นหนา, รูปภาพจะดูน่าเกลียด บางเกินไป - มันจะไม่ได้รับการแก้ไข และในบางแห่งก็จะล้าหลัง พยายามทำให้เลเยอร์นั้นสม่ำเสมอที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั่วทั้งพื้นผิว เมื่อทาเจลลงบนบอร์ดแล้ว ก็ถึงเวลาถ่ายโอนภาพ ต้องบอกว่านี่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและพิถีพิถันเหมือนกับการสมัคร ฟิล์มป้องกันบนหน้าจอโทรศัพท์ มันต้องใช้สมาธิและประสาทมากจากคุณ ฟองอากาศระหว่างการใช้งานจะปรากฏขึ้นในทุกกรณี ดังนั้นพยายามทำให้ภาพเรียบขึ้นให้มากที่สุดและกำจัดฟองอากาศออก คุณสามารถใช้ไม้พายเกลี่ยให้เรียบได้ แต่ระวังอย่าให้เป็นรอย นอกจากนี้ เพื่อจุดประสงค์นี้ คุณสามารถใช้ไม้บรรทัดหรือผ้า ตัวเลือกนี้ "บาดแผล" น้อยกว่าสำหรับรูปภาพ
หลังจากที่คุณย้ายภาพไปยังจานและกำจัดฟองอากาศแล้ว ให้ทิ้งภาพวาดไว้ทั้งคืนและตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครแตะต้องมันจนกว่าจะถึงวันถัดไป

ขั้นตอนที่ 5 นำกระดาษออกจากไม้

ตอนนี้คุณต้องกำจัดกระดาษในภาพเพื่อให้มีเพียงหมึกพิมพ์เท่านั้นที่ยังคงอยู่บนกระดาน ในการทำเช่นนี้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาจากนั้นเช็ดให้ทั่วพื้นผิวของภาพด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ นี่เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างยุ่ง ดังนั้นในกรณีนี้ ทางที่ดีควรทำใน เสื้อผ้าเก่า. ที่ ที่ต่างๆ, กระดาษสามารถลบออกได้หลายวิธี, ง่ายกว่า, ที่ไหนสักแห่งที่ยากกว่า, ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่คุณจะเหนื่อยเมื่อสิ้นสุดการทำงาน นอกจากนี้ ให้เตรียมพร้อมสำหรับข้อเท็จจริงที่ว่าในครั้งเดียว คุณจะไม่สามารถนำกระดาษออกทั้งหมดได้ และกระบวนการจะต้องทำซ้ำอีกหลายๆ ครั้งด้วยช่วงเวลา 20-30 นาที และคำแนะนำเล็ก ๆ อีกข้อ - เก็บเครื่องดูดฝุ่นไว้ใกล้มือเพราะจะมีสิ่งสกปรกค่อนข้างมาก

ขั้นตอนที่ 6: เสร็จสิ้นการถ่ายโอนภาพ

และตอนนี้ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดของกระบวนการทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น มันอยู่ในมือของคุณแล้วที่จะสร้างภาพในแบบที่คุณต้องการ สำหรับสิ่งนี้ ให้เปิดจินตนาการของคุณและเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน ในตัวอย่างของเรา เป้าหมายคือทำให้รูปภาพมีอายุมากขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนของหายาก หากคุณต้องการเอฟเฟกต์แบบเดียวกัน ให้ดูชุดภาพถ่ายเก่า ภาพตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 วิเคราะห์ภาพเหล่านั้น และเริ่มตกแต่ง
ขั้นแรก ใช้จุดสีบนไม้และเช็ดด้วยเศษผ้าเพื่อขจัดส่วนเกินออก ระวังอย่าหักโหมจนเกินไป เมื่อสีแห้ง ให้ถูด้วยเศษผ้าเหมือนเดิมเล็กน้อย มีผลมากขึ้นสมัยโบราณ

ตอนนี้เราขัดขอบแล้วกำจัดเจลส่วนเกินและทำให้ภาพมีเอฟเฟกต์ของสมัยโบราณต่อไป ตอนนี้เราใช้เม็ดสีตามขอบด้วยความช่วยเหลือของเม็ดสีที่ใช้คุณสามารถสร้างบางอย่างเช่นเอฟเฟกต์ขอบมืดหรือคุณสามารถเพิ่มเม็ดสีเฉพาะบนขอบตรงข้ามเพื่อให้ได้กรอบ ในการใช้เม็ดสี คุณสามารถใช้ฟองน้ำธรรมดาหรือผ้าที่มีรูพรุน เม็ดสีหนึ่งซองมีขนาดเล็กกว่าชุดสี ดังนั้นให้ใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เม็ดสีหมดเมื่อคุณต้องการมากที่สุด

เมื่อมีการใช้เอฟเฟกต์เพิ่มเติมกับสีและเม็ดสี เราจะไปยังขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานในส่วนนี้ เราใช้แว็กซ์กับภาพที่เสร็จแล้วเพื่อให้มีความมันวาว ใช้แปรงขนาดกลางทาบางๆ แม้กระทั่งขนที่พิมพ์ เช่นเดียวกับการทาสี ขี้ผึ้งต้องแห้งดี เมื่อแว็กซ์แห้ง ให้คลุมด้วยผ้าเพื่อให้พื้นผิวเรียบและขจัดส่วนเกินออก ในตัวอย่าง มีการใช้แว็กซ์แบบนิ่มเพื่อให้พื้นผิวไม่มันวาวเกินไป แต่พื้นผิวดูเรียบและสวยงาม

ขั้นตอนที่ 7: แขวนรูปภาพ

เสร็จงานก็บริจาคภาพช่วยเจ้าของแขวนผลงานชิ้นเอกของคุณมากที่สุด สถานที่ที่เหมาะสม. ในตัวอย่าง หากคุณใช้บอร์ดสองแผ่นที่วางซ้อนกันแทนที่จะใช้บอร์ดเดียว ขั้นแรกคุณควรเชื่อมต่อเข้ากับโครงยึดขนาดเล็กสองตัวที่สามารถซื้อได้ที่ร้านฮาร์ดแวร์ใดๆ

จากนั้นบน มุมบนติดขายึดสองตัวเพื่อให้สามารถแขวนภาพวาดบนผนังได้ เมื่อติดขายึดเข้ากับภาพวาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสกรูสั้นกว่าความหนา แผ่นไม้. ฉันไม่อยากเสียงานทั้งหมดที่ทำไปเพราะไม่ได้คำนึงถึงสิ่งเล็กน้อย
สำหรับรูปภาพเพิ่มเติม ขนาดเล็กคุณสามารถติดกระดานขนาดเล็กไว้ด้านหลังได้เช่นเดียวกับที่ทำบนเฟรม คุณไม่สามารถแขวนรูปภาพดังกล่าวบนผนังได้ แต่เพียงแค่วางบนหิ้ง

เทคโนโลยีการวาดภาพ

วิธีการนี้ขึ้นอยู่กับการถ่ายเทความร้อนของโทนเนอร์และมักใช้ในการผลิต แผงวงจรพิมพ์ที่บ้าน.
เราจะใช้วิธีนี้ในการวาดลวดลายบนไม้อัด มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นเราต้องเตรียมภาพวาดและกระดาษ

การวาดภาพ

คุณสามารถดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ของเราท่ามกลางงานฝีมือที่คุณชอบ หรืออ่านวิธีเตรียมภาพวาดด้วยตัวคุณเองในบทความถัดไป

กระดาษ

เราต้องการกระดาษมันซึ่งคุณภาพหลักคืออัตราการเก็บผงหมึกต่ำ ตัวอย่างเช่น อาจเป็นกระดาษจากนิตยสารแบบมัน แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันใช้แผ่นรองหลังกระดาษสำหรับฉลาก หากคุณไม่มีคำแนะนำข้างต้นใดๆ เลย คุณสามารถใช้กระดาษธรรมดาได้ เทคโนโลยีนี้จะได้ผลเช่นกัน

การพิมพ์ลวดลาย

เมื่อพิมพ์ คุณต้องจำไว้ว่ารูปภาพจะถูกแปลเป็นภาพสะท้อน ดังนั้นคุณต้องเตรียมเค้าโครงล่วงหน้าโดย "การสะท้อนในแนวนอน" คุณสามารถดำเนินการนี้โดยทางโปรแกรมหรือเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมในการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ โดยที่เครื่องพิมพ์ของคุณรองรับฟังก์ชันนี้

นอกจากนี้ในการตั้งค่าควรเปิดการพิมพ์คุณภาพสูงซึ่งจะทำให้ ปริมาณมากผงหมึกบนแผ่นและทำให้การถ่ายโอนลวดลายไปยังไม้อัดเร็วขึ้น

กำลังถ่ายโอนรูปภาพ

ในการถ่ายโอนลวดลาย ให้วางเลย์เอาต์ที่พิมพ์โดยให้โทนเนอร์วางลงบนไม้อัด แล้วค่อยๆ รีดด้านหลังให้เรียบด้วยเตารีด ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีในการถ่ายโอนรูปแบบขนาด A4

เหล็ก

เตารีดธรรมดาสามารถใช้เป็นเตาอบหมึกพิมพ์ได้ หากคุณตัดสินใจที่จะใช้เตารีดซึ่งใช้ในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน ให้ดูแลความปลอดภัย - ใช้กระดาษและผ้ารองเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อตัวของคาร์บอนสะสมบนพื้นผิว

สำหรับฉัน ฉันใช้เตารีดสำหรับตัดแต่งโมเดลเครื่องบิน มันสะดวกมากเพราะคุณสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการได้ - 190 องศา พื้นผิวของการรีดผ้ามีความคุ้นเคยมานานแล้ว การทดลองต่างๆดังนั้นฉันจึงไม่ใช้สเปเซอร์

หรือคุณสามารถใช้ ไดร์เป่าผมและลูกกลิ้ง

การนำกระดาษออก

หลังจากรีดเลย์เอาต์ให้เรียบสม่ำเสมอแล้ว ก่อนถอดชั้นกระดาษออก คุณควรรอสักครู่เพื่อให้ผงหมึกที่ถ่ายโอนเย็นลง

เมื่อนำกระดาษออกแล้ว คุณควรตรวจสอบเส้นของภาพวาด การถ่ายโอนสำเร็จเพียงใด และหากจำเป็น ให้วาดองค์ประกอบที่ขาดหายไปด้วยดินสอ
ในขั้นตอนนี้ การถ่ายโอนภาพวาดไปยังไม้อัดเสร็จสมบูรณ์

บทสรุป

เทคโนโลยีนี้ยังมีหนึ่งลบ ในการแสวงหาการประหยัดเวลา พลาดการพัฒนาคุณสมบัติที่สำคัญของมนุษย์หลายประการ เช่น:
สมาธิ, ความอดทน, ความเพียร, สมาธิ, ความถูกต้อง, ช้า, ทั่วถึง.
ตามนี้ สำหรับผู้เริ่มต้น เด็กวัยเรียน ฉันขอแนะนำให้ลองใช้วิธีดั้งเดิมในการวาดภาพบนไม้อัดก่อน:
การแปลโดยการทำสำเนาหรือการทำแม่แบบ

มีเศษไม้หลายชิ้นวางอยู่ที่บ้านและคุณต้องการไปที่ไหนสักแห่งพร้อมของขวัญหรือไม่? นี่คือตัวเลือกที่ประหยัด ของขวัญต้นฉบับ- ภาพถ่ายบนต้นไม้

• ภาพถ่ายจริง
• เบา แผ่นไม้แบนหรือไม้อัด
• โปรแกรมแก้ไขภาพง่าย ๆ
• ความสามารถในการพิมพ์บนเครื่องพิมพ์เลเซอร์
• กรรไกร
• มีดกระดูกสำหรับซองจดหมาย (ชิ้นส่วนของ
  กระดาษแข็ง)
• แมตต์เจลขัดเงา (ดูได้ในหมวด
  สีอะครีลิคในร้านศิลปะ)
• กาวด้านสำหรับผสม Mod Podge (คุณทำได้
  และมันวาว - ทางเลือกของคุณ)
• 2 แปรงที่แตกต่างกัน (ขนแปรงหรือโฟม)
• ผ้าขนหนูและเศษผ้า
• หนังสือพิมพ์สนับสนุนการทำงาน

ขั้นตอนที่ 1- สร้างภาพสะท้อนในกระจก

เปิดรูปภาพที่คุณต้องการใช้ในโปรแกรมแก้ไข (โปรแกรมดูภาพ/เบราว์เซอร์เกือบทั้งหมดจะทำ) และใช้ตัวกรอง "กระจกแนวนอน" นี่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ภาพสุดท้ายเหมือนกับต้นฉบับ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาพถ่ายของคุณมี 300 DPI เพื่อให้สามารถพิมพ์ได้ อย่างดี. ให้ความสนใจกับขนาดของภาพถ่าย มันควรจะใหญ่พอที่จะพอดีกับพื้นผิวของกองไม้ของคุณ

ขั้นตอนที่ 2— การพิมพ์ด้วยเลเซอร์

พิมพ์ภาพสะท้อนที่วัดได้อย่างแม่นยำที่ 300 DPI บนเครื่องพิมพ์เลเซอร์บนกระดาษที่ค่อนข้างบาง (เช่น กระดาษ 24 ปอนด์ หรือ 90 g/m2)

รูปภาพจะพิมพ์บนกระดาษบางได้ดีที่สุดเพราะจะง่ายกว่าในขั้นตอนที่ 8 เมื่อคุณลบ ฐานกระดาษ.

สำหรับการประกันในกรณีที่มือสั่นขณะตัดตามเส้นขอบ คุณสามารถสร้างสำเนารูปถ่ายได้สองชุด

ขั้นตอนที่ #3- ใช้กรรไกร

ง่ายมาก - ตัดภาพให้เข้ากับรูปร่างของชิ้นไม้อย่างระมัดระวัง

ขั้นตอนที่ #4-ทากาว

คลุมโต๊ะด้วยหนังสือพิมพ์เพื่อรักษาความสะอาด

เกลี่ยกาวด้านให้ทั่วพื้นผิวของภาพที่ตัดออกโดยใช้แปรงอันใดอันหนึ่ง

ตอนนี้วางรูปภาพคว่ำหน้าลงบน .อย่างระมัดระวัง ส่วนบนชิ้นไม้

หลังจากนั้น ใช้มีดตัดกระดูกหรือกระดาษแข็งที่มีขอบเรียบเพื่อทำให้ภาพเรียบและไล่ฟองอากาศออกจากใต้ภาพถ่ายของคุณ

นำกาวส่วนเกินที่บีบออกมาจากใต้ขอบของรูปภาพออกเมื่อคุณทำให้เรียบ

ขั้นตอนที่ #6- ปล่อยให้แห้ง

ตอนนี้ควรใช้เวลาในการทำให้รูปภาพของคุณแห้งอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

ดังนั้นจึงสะดวกที่จะเริ่มทำของขวัญชิ้นนี้ในตอนเย็นเพื่อไปทำต่อในตอนเช้า หรือในทางกลับกัน ให้ตื่นแต่เช้าเพื่อจบในตอนเย็น

ขั้นตอนที่ #7- เปียกอย่างถูกวิธี

หลังจากที่ภาพแห้งประมาณ 8 ชั่วโมง ก็ได้เวลาทำให้เปียกอย่างเหมาะสม

วางผ้าเช็ดตัวก่อน

แล้วเอาผ้าชุบน้ำให้เปียก

บีบน้ำส่วนเกินออกจากผ้า - คุณไม่ต้องการให้เปียก - แล้ววางไว้บนภาพ

กดผ้าเปียกบนภาพและตรวจดูให้แน่ใจว่าเปียกจนหมด หรือเพียงแค่ปล่อยให้เศษผ้าเปียกนั่งบนภาพสักสองสามนาทีหากต้องการ

ขั้นตอนที่ #8- ลบส่วนเกิน

ขั้นแรกจะใช้เวลาสักครู่

ตอนนี้รูปภาพเปียกแล้ว ให้ใช้ผ้าขี้ริ้วและ/หรือนิ้วเช็ดกระดาษสำรองออกแล้ว "ปล่อย" รูปสวยๆ ของคุณ

• หากต้องการอายุรูปถ่าย ให้ใช้ผ้าเปียกเช็ดเส้นใยกระดาษออก เส้นใยของผ้าขี้ริ้วจะลบรูปภาพบางส่วนที่ปรากฏขึ้นด้วย
• เพื่อให้ดูสะอาดตายิ่งขึ้น ให้ใช้นิ้วถูเส้นใยกระดาษออก

พักจากการลบกระดาษให้แห้งเพื่อดูเส้นใยกระดาษที่จำเป็นต้องลบออก

จากประสบการณ์ของผม สภาพที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเห็นและลบเส้นใยทั้งหมดได้คือเมื่อภาพเกือบจะแห้ง

ข้อมูลอ้างอิง: ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาสักครู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพถ่ายของคุณ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการนำกระดาษออกจากกระดานรูปวงรีขนาดเล็กของเรา อย่างไรก็ตาม อย่ารีบร้อนเพื่อที่คุณจะได้ไม่ยุ่งกับงานทั้งหมดของคุณ