จะเข้าใจได้อย่างไรว่าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น หากต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น

เนื้อหา

แพทย์ต่อมไร้ท่อระบุโรคหลายชนิดที่มีต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่ออวัยวะทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนเท่านั้น ในกรณีหลังนี้อาการของโรคจะแตกต่างออกไปมาก พยาธิวิทยาของต่อมไทรอยด์ (TG) เกิดขึ้นกับพื้นหลังของการรบกวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน - มันโจมตีร่างกายของตัวเองทำให้เกิดการหยุดชะงักในกระบวนการเผาผลาญและความไม่สมดุลของฮอร์โมน

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่คืออะไร?

แพทย์กล่าวว่าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น (รหัส ICD-10) เป็นพยาธิสภาพที่พบบ่อยที่สุดหลังโรคเบาหวาน ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกวัย เป็นอันตรายเพราะในระยะแรกจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในอวัยวะ แต่สิ่งนี้มักบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาของโรคร้ายแรง การขยายตัวของต่อมไร้ท่อใด ๆ เรียกว่าคอพอกในทางการแพทย์เนื่องจากอาการดังกล่าวจะปรากฏที่คอซึ่งคล้ายกับหลอดอาหารขยายใหญ่ในนก

ความสำคัญของต่อมไทรอยด์ไม่สามารถประเมินสูงเกินไปได้ มันเป็นตัวควบคุมที่สำคัญที่สุดของกระบวนการเผาผลาญทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ ต่อมไทรอยด์มีหน้าที่:

• การพัฒนาและการเติบโตของโครงสร้างทั้งหมด
• ปฏิกิริยาเมแทบอลิซึม
• รักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่
• ความต้านทานต่อความเครียด
• การป้องกันโรคกระดูกพรุน
• สถานะของหน่วยความจำความสามารถในการมีสมาธิ

พยาธิสภาพในอวัยวะต่อมไร้ท่ออาจเป็นสาเหตุและผลของการละเมิดหน้าที่เหล่านี้ โรคไทรอยด์ที่พบบ่อยที่สุดที่ส่งผลต่อผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก:

• ภูมิต้านทานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ (คอพอกของ Hashimoto);
• แพร่กระจายคอพอกเป็นพิษ (โรคเกรฟส์);
• ต่อมไทรอยด์อักเสบเฉียบพลัน
• ต่อมไทรอยด์อักเสบกึ่งเฉียบพลัน;
• คอพอกเฉพาะถิ่น;
• ต่อมไทรอยด์ adenoma ที่มีต่อมน้ำเหลือง;
• มะเร็งต่อมไทรอยด์.

สาเหตุ

การก่อตัวของคอพอกได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นมักเกิดจากการขาดสารไอโอดีน ปริมาณที่จำกัดในร่างกายอธิบายได้จากการที่มันไม่อยู่ในเขตภูมิอากาศของการอยู่อาศัยของมนุษย์โดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ระบบนิเวศที่ไม่ดียังส่งผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์อีกด้วย ดังนั้นสารที่มีแหล่งกำเนิดสารพิษที่พบในสิ่งแวดล้อมไม่ช้าก็เร็วจะสะสมในร่างกายมนุษย์ระงับการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้ระดับของกิจกรรมช้าลง

โรคคอพอกเฉพาะถิ่นเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนในปริมาณน้อย (ปลา นม ผลไม้) เมื่อวินิจฉัยโรคเกรฟส์ ต่อมไร้ท่อมักจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของแอนติบอดีจำเพาะที่ร่างกายสร้างขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันภูมิคุ้มกันต่อเนื้อเยื่อของตัวเอง ด้วย adenoma และเนื้องอกวิทยาของอวัยวะจะเกิดการหยุดชะงักในกระบวนการแบ่งเซลล์และการแยกเซลล์ สาเหตุของการเจ็บป่วยอาจเกิดจากการแผ่รังสีพื้นหลัง การมีสารพิษอันตรายอยู่ตลอดเวลา หรืออาจเป็นทางพันธุกรรม

ในหมู่ผู้หญิง

ครึ่งหนึ่งของมนุษยชาติที่สวยงามมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ โรคคอพอกมักเกิดในสตรีวัยกลางคน นี่เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้:

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์และวัยหมดประจำเดือน
• นิเวศวิทยาที่ไม่ดี
• ความเครียดอย่างต่อเนื่อง, ความเครียดทางจิตและอารมณ์;
• ขาดการออกกำลังกาย
• โรคบริเวณอวัยวะเพศ
• ภาวะ hypovitaminosis ทั่วไป

ในผู้ชาย

ความผิดปกติของอวัยวะต่อมไร้ท่อเกิดขึ้นในครึ่งหนึ่งของมนุษยชาติที่แข็งแกร่งน้อยกว่าผู้หญิง โดยประมาณ 15% ของกรณีทั้งหมด สาเหตุหลักที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ในผู้ชาย:

• การปรากฏตัวของสารยับยั้งการสังเคราะห์ฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด
• โภชนาการที่ไม่ดี
• รังสีพื้นหลังสูง
• นิสัยที่ไม่ดี;
• โรคเรื้อรัง;
• การขาดสารไอโอดีน
• สภาพการทำงานที่ยากลำบาก

เด็กก็มี

จากการวิจัยทางการแพทย์ อุบัติการณ์ของโรคคอพอกในวัยเด็กเพิ่มขึ้น 6% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราที่สูงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยและโภชนาการที่ไม่ดี ในเด็กส่วนใหญ่ ต่อมไทรอยด์จะขยายใหญ่ขึ้นแบบกระจาย เหตุผลที่มีอิทธิพลต่อการเกิดพยาธิสภาพในวัยเด็ก:

• วัยแรกรุ่น;
• ความบกพร่องทางพันธุกรรม
• ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
• การปรากฏตัวของการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย
• พยาธิสภาพของมลรัฐและต่อมใต้สมอง

อาการ

ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มีสองรูปแบบ เมื่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ลดลง จะเกิดภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนซึ่งอาจเกิดขึ้นในระดับปฐมภูมิหรือทุติยภูมิได้ กิจกรรมที่มากเกินไปของต่อมไทรอยด์ (hyperfunction) ซึ่งแสดงออกในการผลิตฮอร์โมนมากเกินไปเรียกว่าภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของโรคนั้นจะแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ อาการของภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ:

• น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการชะลอตัวของกระบวนการเผาผลาญ
• ปวดศีรษะ;
• ผิวแห้ง;
• กลืนลำบาก
• หายใจลำบาก;
• ภาวะซึมเศร้า;
• โรคโลหิตจาง;
• ความจำเสื่อม;
• ความรู้สึกกดดันที่ด้านหน้าศีรษะ
• ไอ;
• ผมร่วง;
• ความผิดปกติของรอบประจำเดือนในสตรี
• ปัญหาเกี่ยวกับความแรงในผู้ชาย
• ความดันโลหิตลดลง
• อาการง่วงนอน;
• การละเมิดการควบคุมอุณหภูมิ
• รู้สึกเสียวซ่าในมือ

อาการของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน:

• ความเหนื่อยล้า;
• ความกังวลใจ;
• นอนไม่หลับ;
• ลดน้ำหนักด้วยความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
• กล้ามเนื้อหัวใจ;
• ความดันโลหิตสูง;
• ผมบาง, ผมหงอกก่อนวัย, เล็บเปราะ;
• เหงื่อออกเพิ่มขึ้น;
• ความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีผิว
• การหยุดชะงักของระบบย่อยอาหาร (ท้องผูก, ท้องร่วง)

สัญญาณในผู้หญิง

โรคต่อมไทรอยด์ในสตรีมักมาพร้อมกับการบีบตัวของหลอดลม ด้วยเหตุนี้ ร่วมกับอาการอื่นๆ จึงทำให้หายใจลำบากและรู้สึกมีก้อนในลำคอ สัญญาณของต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นในผู้หญิงสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเนื่องจากมองเห็นคอพอกที่ยื่นออกมาในบริเวณลำคอได้ชัดเจน สัญญาณใดที่ตัวแทนของเพศที่ยุติธรรมควรให้ความสนใจโดยเฉพาะหลังจาก 50 ปี:

• การเพิ่มน้ำหนักอย่างไม่สมเหตุสมผล
• กล้ามเนื้ออ่อนแรง, ตะคริว;
• หนาวสั่น;
• รู้สึกเสียวซ่าและลิ้นแห้ง
• สายตาสั้น;
• ความอยากมากเกินไปสำหรับรสเค็มเผ็ดเปรี้ยวบิดเบือนรสชาติ
• อาการคันและการเผาไหม้ของช่องคลอด;
• การปรากฏตัวของ keratosis บนข้อศอก, ต้นขา, ปลายแขน, น่อง;
• อาการบวมและบวมที่ใบหน้า
• ท้องผูกเรื้อรัง
• ความใคร่ลดลง;
• การเปลี่ยนแปลงอารมณ์อย่างกะทันหัน
• การเปลี่ยนเสียง (เสียงแหบ, เสียงต่ำ);
• สูญเสียการได้ยิน

องศา

เมื่อต่อมไทรอยด์เป็นปกติจะมองไม่เห็นและแทบจะไม่สามารถรู้สึกได้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้พัฒนาการจำแนกขนาดคอพอกอย่างง่าย ๆ ซึ่งรวมถึงสามระดับ:

1. ศูนย์. ต่อมเห็นได้ชัดไม่มีคอพอกขนาดของกลีบเท่ากับความยาวของปลายเล็บบนนิ้วหัวแม่มือ
2. อันดับแรก. คอพอกไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนการขยายตัวของต่อมจะเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในตำแหน่งปกติของศีรษะ
3. ที่สอง. มองเห็นต่อมไร้ท่อได้ด้วยตา คอพอกคลำได้ง่าย

ในรัสเซีย การจำแนกประเภทที่สร้างโดยศาสตราจารย์ O.V. Nikolaev นั้นเป็นเรื่องธรรมดามากกว่า ตามระบบนี้แพทย์จะวินิจฉัยพัฒนาการทางพยาธิวิทยา 5 องศาซึ่งแต่ละระดับจะถูกระบุด้วยอาการทางคลินิกของตัวเอง:

1. อันดับแรก. ต่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสายตาไม่ชัดเจน แต่มองเห็นคอคอดที่เชื่อมต่อกลีบของอวัยวะเมื่อกลืนกิน
2. ที่สอง. กลีบของต่อมไทรอยด์คลำได้ดีและมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อกลืนกิน การขยายตัวของต่อมไทรอยด์ในระดับที่ 2 นั้นไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากโครงร่างของคอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
3. ที่สาม. คอคอดของต่อมและคอพอกมองเห็นได้คอหนาขึ้น แต่ยังไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายร่างกาย
4. ที่สี่. คอพอกเติบโตขึ้นโครงร่างของคอเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรูปร่างของกลีบของอวัยวะสามารถมองเห็นได้ซึ่งโดดเด่นแม้ในขณะพัก
5. ประการที่ห้า คอพอกที่ได้รับขนาดใหญ่บีบอัดอวัยวะใกล้เคียง: หลอดอาหาร, หลอดลม, สายเสียง, หลอดเลือดแดง สิ่งนี้จะมาพร้อมกับการกลืนลำบาก เคี้ยวอาหารลำบาก แน่นหน้าอก หายใจลำบาก และเสียงเปลี่ยน

แบบฟอร์ม

การจำแนกประเภทของโรคทำให้เกิดความแตกต่างในรูปแบบ มีหลายทางเลือกสำหรับการพัฒนากระบวนการทางพยาธิวิทยา:

• การแพร่กระจายเพิ่มขึ้น โดดเด่นด้วยการผลิตฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นหรือการโจมตีของระบบภูมิคุ้มกัน สาเหตุหลักของโรคคือการถ่ายทอดทางพันธุกรรมซึ่งส่งผลเสียต่อการผลิตโปรตีนที่จับกับตัวรับในเซลล์ต่อม
• การขยายที่สำคัญ ต่อมไทรอยด์เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของโรคที่แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อพบ เมื่อคลำจะรู้สึกได้ถึงบริเวณที่มีการบดอัดอย่างน้อยหนึ่งบริเวณ พวกเขาสามารถเป็นพิษเป็นภัย (95%) และร้าย (5%)
• เพิ่มส่วนแบ่ง รูปแบบของโรคนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาในระบบต่อมไร้ท่อทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักปกติของอวัยวะคือ 20-30 กรัม กลีบทั้งสองข้างจะนุ่มเนียนไม่เจ็บปวด หากกลีบด้านขวาของต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น แสดงว่าเกิดกระบวนการอักเสบหรือการก่อตัวของซีสต์ ด้วยกลีบซ้ายขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดมะเร็งหรือคอพอกแบบกระจาย
• การขยายตัวของคอคอด มันหายากมาก คอคอดเชื่อมต่อกลีบทั้งสองซึ่งอยู่บนกระดูกอ่อนชิ้นที่ 2 หรือ 3 ของหลอดลม อาจประสบเนื่องจากการโฟกัสของเนื้องอกหรือการแพร่กระจายของกลีบต่อมไทรอยด์และอวัยวะอื่น ๆ

เหตุใดต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่จึงเป็นอันตราย

กระบวนการทางพยาธิวิทยาของต่อมไร้ท่อทำให้เกิดการรบกวนในการเผาผลาญทุกประเภท: ไขมันคาร์โบไฮเดรตโปรตีน นอกจากนี้หลังจากต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้นโรคของระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบประสาทอาจเกิดขึ้นได้ การขาดการรักษาที่เพียงพอมักนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่คุกคามถึงชีวิตของผู้ป่วย:

• ความกดดันต่ออวัยวะใกล้เคียงจะมาพร้อมกับการไหลเวียนของเลือดการกลืนและกระบวนการหายใจที่ผิดปกติ
• ในส่วนของระบบประสาทมีแนวโน้มที่จะซึมเศร้า, ความผิดปกติของระบบประสาท, ไม่สามารถควบคุมอารมณ์, ความไม่สมดุล;
• ในส่วนของระบบหัวใจและหลอดเลือด, ความผิดปกติของจังหวะการเต้นของหัวใจ (จังหวะ, หัวใจเต้นช้า, หัวใจเต้นเร็ว), ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น;
• ด้วยภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอาจเกิดวิกฤตต่อมไทรอยด์ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันทีเนื่องจากภาวะดังกล่าวอาจทำให้เสียชีวิตได้
• คอพอกขนาดใหญ่ถือเป็นข้อบกพร่องด้านความงามในตัวเอง

การวินิจฉัย

หากคุณพบอาการใดๆ ของต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น คุณจำเป็นต้องติดต่อแพทย์ต่อมไร้ท่อ การวินิจฉัยเริ่มต้นด้วยการตรวจ แพทย์รับฟังข้อร้องเรียนและคลำคอพอก ด้วยการคลำผิวเผิน คุณสามารถค้นหาขนาดของต่อมและลักษณะของการขยายตัวได้ (เป็นก้อนกลม, กระจาย) ด้วยการคลำที่ลึกยิ่งขึ้น จะพิจารณาความสอดคล้องของอวัยวะ การมีอยู่ของการเต้นเป็นจังหวะ ความเจ็บปวด และการเคลื่อนไหว

ต่อมไทรอยด์ที่มีสุขภาพดีนั้นเคลื่อนที่ได้ อ่อนนุ่ม มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอสม่ำเสมอ และไม่มีการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อข้างเคียง จากนั้นแพทย์ต่อมไร้ท่อจะสั่งการตรวจวินิจฉัย:

• การวิเคราะห์เลือด TSH สำหรับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ T4 สำหรับไทรอกซีนฟรี T3 สำหรับไตรไอโอดีน ผลการตรวจเลือดจะแสดงพยาธิสภาพประเภทใด: ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินหรือภาวะพร่องไทรอยด์
• การสแกนนิวเคลียร์ ผู้ป่วยรับประทานไอโอดีนกัมมันตภาพรังสีจำนวนเล็กน้อยเพื่อการวินิจฉัย สารนี้สามารถฉีดเข้าไปในเลือดได้ แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อจะถ่ายรูปต่อมแล้วตรวจดู ปริมาณธาตุกัมมันตรังสีที่มีปริมาณสูงบ่งชี้ถึงภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน และปริมาณที่ต่ำบ่งชี้ถึงภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน วิธีนี้ไม่ได้ใช้กับสตรีมีครรภ์
• อัลตราซาวด์ การใช้อัลตราซาวนด์จะคำนวณขนาดของกลีบต่อมไทรอยด์ประเภทและจำนวนโหนด อัลตราซาวนด์ช่วยตรวจหาว่ามีต่อมน้ำเหลืองขยายใหญ่อยู่ใกล้อวัยวะหรือไม่
• การตรวจชิ้นเนื้อความทะเยอทะยานแบบเข็มละเอียด เทคนิคนี้ใช้ในการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากโหนด การตรวจชิ้นเนื้อจะดำเนินการโดยไม่ต้องเตรียมการเบื้องต้นในสำนักงานของแพทย์ต่อมไร้ท่อ วัสดุที่เก็บรวบรวมจะถูกตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์ วัตถุประสงค์ของการตัดชิ้นเนื้อคือการระบุเซลล์มะเร็ง
• เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ตามแนวแกน อีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อกำหนดขนาด โครงสร้าง และตำแหน่งของต่อมไทรอยด์ได้ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ตามแนวแกนเผยให้เห็นการตีบตันหรือการเคลื่อนตัวของหลอดลมเนื่องจากคอพอกขยายใหญ่ขึ้น

จะทำอย่างไรถ้าต่อมไทรอยด์ของคุณขยายใหญ่ขึ้น

หากมีการวินิจฉัยทันเวลาและเริ่มการรักษาอย่างเพียงพอก็มีโอกาสสูงที่จะลดอวัยวะต่อมไร้ท่อให้มีขนาดปกติและฟื้นฟูการทำงานตามธรรมชาติ เป้าหมายหลักในระหว่างการรักษาคือการควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ สำหรับการบำบัดทดแทนสำหรับภาวะพร่องไทรอยด์จะมีการกำหนดยาฮอร์โมน Eutirox, Triiodothyronine, Liothyronine ยาเหล่านี้ใช้สำหรับเนื้องอกในต่อมไร้ท่อและหลังการกำจัดเพื่อป้องกันการกำเริบของโรค

สำหรับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน มีวิธีการรักษา 3 วิธี ได้แก่ การใช้ยา การผ่าตัด และการบำบัดด้วยไอโอดีนกัมมันตภาพรังสี เทคนิคหลังใช้กับผู้ป่วยอายุ 40 ปีขึ้นไป ไอโอดีนทำลายเนื้อเยื่อส่วนเกินและต่อมน้ำที่มีอยู่ ความยากของการรักษาอยู่ที่ความเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายปฏิกิริยาของต่อม บ่อยครั้งหลังจากการฟื้นฟูการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้เป็นปกติแล้วภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำจะพัฒนาขึ้น การรักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินด้วยยาเกี่ยวข้องกับการใช้ยา thyreostatic ที่ระงับการทำงานของต่อมไทรอยด์ เหล่านี้รวมถึง Propylthiouracil, Propicil, Mercazolil, Tyrosol

ด้วยพยาธิสภาพนี้ โภชนาการที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ สำหรับภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ แนะนำให้ลดปริมาณแคลอรี่ โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวที่มีคอเลสเตอรอลและคาร์โบไฮเดรตสูง การบริโภคอาหารที่มีโปรตีนควรเทียบเคียงกับบรรทัดฐานทางสรีรวิทยา สำหรับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงซึ่งมีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตอย่างสมดุล จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับโปรตีนที่ย่อยง่ายที่พบในผลิตภัณฑ์นม

ภาพรวมโดยย่อของยาบางชนิดที่มักกำหนดไว้สำหรับต่อมไร้ท่อที่ขยายใหญ่ขึ้น:

• ไทอามาโซล. บ่งชี้ถึงโรคไทรอยด์เป็นพิษ ฮอร์โมนมีผลในการปิดกั้นเปอร์ออกซิเดสซึ่งยับยั้งกระบวนการไอโอไดซ์ของไทโรนีน ระบบการปกครองของขนาดยาถูกตั้งค่าเป็นรายบุคคล ขนาดยาเฉลี่ยสำหรับผู้ใหญ่คือ 20-40 มก./วัน แบ่งเป็น 2-3 โดส ระยะเวลาการรักษาสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี ในระหว่างการรักษา บางครั้งผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นในรูปแบบของอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ผื่นที่ผิวหนัง การรับรสผิดปกติ อาการบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้น ห้ามใช้ยานี้ในกรณีของเม็ดเลือดขาวที่รุนแรงและภูมิไวเกินต่อ thiamazole
• ไทรโคมบ์ ยาฮอร์โมนที่กำหนดไว้สำหรับโรคคอพอกอีทรอยด์แบบกระจายและภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ รับประทานยาก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เริ่มการรักษาด้วยยา 1/2 เม็ด/วัน โดยเพิ่มขนาดยาทุกๆ 2 สัปดาห์ ระยะเวลาการรักษาจะถูกกำหนดโดยแพทย์ต่อมไร้ท่อ การใช้ยาอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ น้ำหนักลด อาการแพ้ ท้องเสีย และแน่นหน้าอก ยานี้ไม่ได้กำหนดไว้สำหรับอาการหัวใจวายเฉียบพลัน, โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือความผิดปกติของต่อมหมวกไต

การป้องกัน

วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงโรคของระบบต่อมไร้ท่อคือการกำจัดสาเหตุที่เป็นไปได้ของการพัฒนา การเดินทุกวันและสูดอากาศบริสุทธิ์จะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณ ไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคของต่อมไทรอยด์: งานที่น่าสนใจในทีมที่มีบรรยากาศทางจิตใจที่เอื้ออำนวยการออกกำลังกายเป็นประจำ อาหารประจำวันควรรวมถึง:

• ผลิตภัณฑ์นม
• สาหร่ายทะเล (กะหล่ำปลี);
• ถั่ว;
• ผลไม้แห้ง
• เมล็ด;
• เลมอน;
• ผลิตภัณฑ์ผึ้ง
• ขนมปังโฮลวีท
• ผัก.

เพื่อให้ต่อมไทรอยด์ของคุณแข็งแรง คุณต้องดื่มชาเขียวและยาต้มสมุนไพร การใช้สูตรอาหารพื้นบ้านบางอย่างจะหยุดการขยายโหนด (หลังจากปรึกษาแพทย์เท่านั้น):

• การแช่สมุนไพรนกกระจอก ใส่พืชแห้งสองช้อนโต๊ะในน้ำเดือด 1 ลิตรเป็นเวลา 10 นาที การแช่แบบเครียดจะรับประทาน 1 แก้ววันละ 3 ครั้งหลังอาหารเป็นเวลาหนึ่งเดือน
• ยาต้มสมุนไพร คุณต้องผสมผลเบอร์รี่ฮอว์ธอร์น กล้าย และใบสตรอเบอร์รี่ (อย่างละ 2 ส่วน) กับมิสเซิลโท เลมอนบาล์ม และสมุนไพรเสจ (อย่างละ 1 ส่วน) เทส่วนผสมครึ่งช้อนโต๊ะลงในน้ำเดือด 500 มล. แล้วทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นน้ำซุปจะถูกกรองและดื่มเป็นชา คุณสามารถเพิ่มมะนาวน้ำผึ้ง

พยากรณ์

การพยากรณ์โรคทางพยาธิวิทยาในเชิงบวกหรือเชิงลบจะขึ้นอยู่กับระยะของการพัฒนาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เลือกอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาอย่างทันท่วงทีจะควบคุมสภาวะสุขภาพของตนเองและดำเนินชีวิตตามปกติ หากโรคยังคงดำเนินไป เข้าสู่อาการโคม่าจากภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือเกิดวิกฤตต่อมไทรอยด์ การพยากรณ์โรคจะไม่เป็นผลดีอย่างยิ่ง อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยดังกล่าวคือประมาณ 50%

ความสำเร็จของการรักษาต่อมไทรอยด์ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และลักษณะร่างกายของผู้ป่วย ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมไร้ท่ออัตราการเสียชีวิตเพียง 5% กล่าวคือ การพยากรณ์โรคของมะเร็งชนิดนี้ถือว่าดี อันตรายหลักของพยาธิวิทยาคืออาการที่ไม่ชัดเจนซึ่งเป็นลักษณะของโรคต่างๆ ในระยะเริ่มแรก โรคต่อมไทรอยด์จะไม่ปรากฏชัดแต่อย่างใด ดังนั้นจึงมักตรวจพบได้ในระยะที่ 2 หรือ 3 ของการพัฒนา แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อจะให้การพยากรณ์โรคที่แม่นยำยิ่งขึ้นหลังการวินิจฉัยและเสร็จสิ้นการบำบัด

การขยายตัวของต่อมไทรอยด์เป็นหนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดของอวัยวะในทางการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงอายุ การเปลี่ยนแปลงของต่อมไทรอยด์ดังกล่าวเป็นอันตรายเนื่องจากไม่สามารถรับรู้ได้ในตอนแรกเสมอไป แต่นี่อาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยร้ายแรง ต่อมไทรอยด์โตมีอาการอะไรร่วมด้วย หมายความว่าอย่างไร และจะแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างไร?

สัญญาณและอาการของพยาธิวิทยา

การขยายอวัยวะเกิดขึ้นในห้าขั้นตอน - จากง่ายที่สุดไปจนถึงซับซ้อนมากขึ้นตามลำดับ ในแต่ละขั้นตอนของพยาธิวิทยาอาจมีอาการบางอย่างปรากฏขึ้น:

ขั้นแรก

ในระยะแรกของการขยายอวัยวะ การมองเห็นจะดูปกติอย่างยิ่ง นอกจากนี้การคลำต่อมไทรอยด์ยังตรวจพบการเปลี่ยนแปลงได้ยากอีกด้วย การขยายตัวระดับแรกสามารถรับรู้ได้เมื่อผู้ป่วยกลืนเท่านั้น - คอคอดจะมองเห็นได้ในระหว่างการเคลื่อนไหวของการกลืน

ขั้นตอนที่สอง

ในขั้นตอนของการขยายอวัยวะนี้กลีบของต่อมไทรอยด์จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อกลืนกินและยังรู้สึกได้ในระหว่างการคลำอีกด้วย แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ถึงพยาธิสภาพด้วยสายตา - รูปร่างของคอไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเพิ่มขึ้น

ขั้นตอนที่สาม

แต่อาการของการขยายขั้นที่สามนั้นชัดเจน - คอของผู้ป่วยบวมและมองเห็นต่อมไทรอยด์ได้ชัดเจน

ขั้นตอนที่สี่

ด้วยการขยายอวัยวะระดับที่ 4 รูปทรงของคอจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มองเห็นกลีบของต่อมไทรอยด์ได้บนพื้นผิวของคอ

ขั้นตอนที่ห้า

ในขั้นตอนสุดท้ายของการขยาย อวัยวะจะมีขนาดใหญ่และอาจเริ่มบีบตัวหลอดลมและหลอดอาหาร ทำให้ผู้ป่วยหายใจและกลืนลำบาก

ในระยะที่ 5 เสียงของผู้ป่วยอาจเปลี่ยนไปหรืออาจหยุดพูดเลย

นอกจากอาการที่มองเห็นได้ของต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นแล้ว ผู้ป่วยยังอาจแสดงอาการต่างๆ เช่น:

• เหงื่อออกมาก
• การเต้นของหัวใจแข่ง;
• รู้สึกไม่สบายบริเวณหัวใจ
• ความใคร่ลดลง

เป็นเรื่องยากมากที่จะระบุได้อย่างอิสระว่าอวัยวะนั้นขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากพยาธิสภาพดังกล่าวมาพร้อมกับอาการทั่วไปที่ค่อนข้างธรรมดาซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับโรคอื่น ๆ ดังนั้นเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ ควรได้รับการตรวจจากแพทย์จะดีที่สุด บ่อยครั้งที่ผู้เชี่ยวชาญจะกำหนดให้ตรวจอัลตราซาวนด์ของต่อมไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่หมายถึงอะไร?

หากการขยายตัวของอวัยวะถึงระยะที่สาม, สี่หรือห้าแล้วพยาธิวิทยานี้เรียกว่าคอพอกแล้ว ในเวลาเดียวกันไม่มีอาการพิเศษที่จะบ่งบอกถึงพยาธิสภาพเฉพาะนี้ดังนั้นผู้ป่วยจึงขอความช่วยเหลือเฉพาะเมื่อเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับต่อมไทรอยด์

นอกจากนี้ ต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นอาจเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ เช่น:

• ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน;
• ไทรอยด์เป็นพิษ;
• การก่อตัวต่าง ๆ ในเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์

ด้วยภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (ซึ่งหมายถึงการทำงานของต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น) เนื่องจากฮอร์โมนในเลือดจำนวนมาก ในตอนแรกคน ๆ หนึ่งดูเหมือนจะ "เบ่งบาน": เขาลดน้ำหนักมีหน้าแดงปรากฏบนผิวหนังและมีความกระตือรือร้นและเป็นบวกมากขึ้น แต่อาการนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากต่อมไทรอยด์ทำงานหนักและสามารถ "เติบโต" ในขนาดต่อไปได้ซึ่งไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นบรรทัดฐาน

เมื่อมีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในทางตรงกันข้าม เนื่องจากมีฮอร์โมนไม่เพียงพอ น้ำหนักเพิ่มขึ้น เนื้อเยื่อจะบวม และความดันเพิ่มขึ้น

นอกเหนือจากการพัฒนาของโรคเหล่านี้แล้ว ต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นยังเต็มไปด้วยการก่อตัวของต่อมน้ำที่สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งได้

การแพร่กระจายของต่อมไทรอยด์

การแพร่กระจายของต่อมไทรอยด์หมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเนื้อเยื่อทั้งหมดของอวัยวะ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความสม่ำเสมอ มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ ได้แก่:

• โภชนาการที่ไม่ดี
• สภาพแวดล้อมที่ไม่ดี
• ความอ่อนแอของระบบภูมิคุ้มกัน

ด้วยการขยายแบบกระจาย เนื้อเยื่ออวัยวะไม่เพียงแต่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังหนาแน่นขึ้นอีกด้วย ในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดงของโรคนี้

เหตุใดพยาธิวิทยานี้จึงเป็นอันตราย? ความจริงก็คือหากคุณเพิกเฉยต่อการขยายตัวของต่อมไทรอยด์แบบกระจายการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นไม่เพียง แต่ในการทำงานของอวัยวะนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอวัยวะและระบบอื่น ๆ ของร่างกายด้วย ในกรณีนี้ระบบประสาทถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากนั้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดหยุดชะงักการเผาผลาญแคลเซียมหยุดชะงักและสิ่งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาของโรคฟันผุและโรคกระดูกพรุน

การขยายตัวแบบกระจายซึ่งถึงระยะคอพอกแล้ว (นั่นคือระดับสามถึงห้า) จะมาพร้อมกับอาการเช่น:

• ขาดพลังงานและความเกียจคร้าน
• การพัฒนาภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
• ลดความสนใจ;
• ความรู้สึกเย็นอย่างต่อเนื่อง
• เป็นหวัดบ่อย
• ปัญหาระบบทางเดินอาหาร (ท้องผูกหรือท้องเสีย);
• ในเด็ก - สมาธิสั้นอย่างรุนแรง

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นในผู้หญิง - สาเหตุ

ดังที่คุณทราบการทำงานของร่างกายผู้หญิงนั้นแตกต่างจากผู้ชายและผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะพบกับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นต่อมไทรอยด์ของผู้หญิงจึงทำงานแตกต่างออกไปเล็กน้อยเนื่องจากมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องฮอร์โมน

การขยายตัวของต่อมไทรอยด์ในผู้หญิงสามารถเกิดขึ้นได้กับพื้นหลังของการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตลอดจนขณะรับประทานอาหารหรือรับประทานอาหาร ในสถานการณ์เช่นนี้ หากต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยก็ถือเป็นเรื่องปกติ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ตามกฎแล้วต่อมไทรอยด์จะกลับสู่ภาวะปกติในไม่ช้า แต่ถ้าการเจริญเติบโตของอวัยวะยังคงดำเนินต่อไปและยิ่งไปกว่านั้นหากมีอาการไม่สบายบางอย่างก็จำเป็นต้องมีการวินิจฉัยโดยแพทย์ต่อมไร้ท่อ

นั่นคือในสตรี คุณสามารถเพิ่มการตั้งครรภ์ การให้นมบุตร และโรคของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงได้จากสาเหตุทั่วไปของต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้น

สุขภาพสตรีและต่อมไทรอยด์: วิดีโอ

แพทย์ต่อมไร้ท่อและสูตินรีแพทย์นรีแพทย์พูดคุยเกี่ยวกับว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงในการตรวจสอบสภาพของต่อมไทรอยด์รวมถึงโรคที่พบบ่อยที่สุดของอวัยวะนี้อาการและการป้องกันความผิดปกติเหล่านี้:

โรคไทรอยด์หลายชนิดในเด็กเกิดขึ้นพร้อมกับต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น อาจเกิดจากกระบวนการทางพยาธิวิทยาที่เกิดขึ้นในร่างกายเด็ก:

• การสะสมของของเหลวเปาะ;
• ภาวะเจริญเกิน;
• การเจริญเติบโตมากเกินไปของโทรโฟไซต์

ในทางกลับกันกระบวนการทางพยาธิวิทยาเหล่านี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุรวมถึงการขาดสารไอโอดีน ความบกพร่องทางพันธุกรรม การฉายรังสี โรคไวรัส ความเครียด และปัญหาพัฒนาการในระดับจิตใจ

โรคที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ต่อมไทรอยด์โตในวัยเด็ก ได้แก่:

• ภูมิต้านทานผิดปกติของต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง
• คอพอกกระจาย
• พร่อง แต่กำเนิด;
• คอพอกเป็นก้อนกลม

จะทำอย่างไรถ้าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น?

การรักษาต่อมไทรอยด์จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยเป็นอย่างมาก หากตรวจพบโรคทันเวลาและเริ่มการรักษาก็ค่อนข้างเป็นไปได้ที่จะทำให้อวัยวะกลับคืนสู่ขนาดและการทำงานตามปกติ งานแรกของการรักษาต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นคือการปรับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ให้เป็นปกติ

หากต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากภาวะพร่องไทรอยด์ให้ใช้ยาฮอร์โมนไทรอยด์:

• ยูไทร็อกซ์
• ไลโอไทโรนีน
• เลโวไทร็อกซีน

ในกรณีนี้จะมีการหารือเกี่ยวกับปริมาณยาและขั้นตอนการรักษากับแพทย์เป็นรายบุคคล ขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดที่ระบุในระหว่างการตรวจ

ยาข้างต้นสามารถกำหนดให้กับคอพอกแบบกระจายหรือเพื่อป้องกันการกำเริบของโรคหลังจากการกำจัดส่วนหนึ่งของอวัยวะ

สำหรับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน จะใช้วิธีการรักษาแบบใดแบบหนึ่งจากสามวิธี (หรือหลายวิธี):

• การบำบัดด้วยยา
• การกำจัดส่วนหนึ่งของอวัยวะหรือต่อมทั้งหมด
• การบำบัดด้วยกัมมันตภาพรังสีไอโอดีนซึ่งทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะและต่อมน้ำส่วนเกิน

ต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะสำคัญของระบบต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนที่มีไอโอดีน เมื่อเป็นไปตามระเบียบไม่มีอะไรรบกวนบุคคล แต่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในการทำงานจะส่งผลต่อการทำงานของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทันที เหตุใดต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่จึงเป็นอันตราย แล้วของที่ลดล่ะ? คุณสามารถใช้สัญญาณอะไรในการวินิจฉัยปัญหาด้วยตนเอง และคุณควรติดต่อใครหากต่อมไทรอยด์ของคุณขยายใหญ่ขึ้น

ต่อมไทรอยด์ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของลำคอ ใกล้กับหลอดลม ประกอบด้วยกลีบสองอันเท่ากัน กลีบซ้ายเชื่อมต่อกับด้านขวาด้วยคอคอดขนาดเล็ก โดยปกติต่อมไทรอยด์จะมีปริมาตรปานกลาง ไม่ยื่นออกมาที่คอ และไม่จม สำหรับผู้ชายปริมาณคือ 25 มล. สำหรับผู้หญิงน้อยกว่า - 18 มล. ในเด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนัก 2-3 กรัม แต่จะเติบโตเมื่อร่างกายโตขึ้น และเมื่ออายุ 20 ปี น้ำหนักจะสูงถึง 25-30 กรัม

เซลล์ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนที่มีไอโอดีน - ไทรโอโดไทโรนีน (T3) และไทรอกซีน (T4) ซึ่งมีส่วนร่วมในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร, ระบบประสาท, ระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบทางเดินปัสสาวะ

การเปลี่ยนแปลงปริมาตรของต่อมไทรอยด์เป็นสัญญาณแรกของความผิดปกติในการทำงาน สามารถเพิ่มได้ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากกว่า) หรือลดลงก็ได้ ควรสังเกตว่าการขยายต่อมไทรอยด์พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยเฉพาะในวัยรุ่นและผู้รับบำนาญ

ความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงคืออะไร?

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นเป็นอาการทางกายภาพของการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ขนาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยพบได้ใน 40% ของประชากร และมีเพียง 5% เท่านั้นที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่อาจเป็นสัญญาณของโรคต่อไปนี้:

• ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน - การผลิตฮอร์โมน T3 และ T4 มากเกินไป สิ่งนี้นำไปสู่การเร่งการเผาผลาญที่เห็นได้ชัดเจน สาเหตุอาจเป็นเนื้องอกของต่อมไทรอยด์ ต่อมใต้สมอง หรือไฮโปทาลามัส การอักเสบของต่อม หรือโรคเกรฟส์
• พร่อง - การผลิตฮอร์โมนที่มีไอโอดีนไม่เพียงพอ อาจเกิดจากการขาดไอโอดีนในอาหาร การทำงานผิดปกติของทั้งต่อมและต่อมใต้สมองหรือไฮโปทาลามัส กรณีที่พบบ่อยที่สุด
• euthyroidism - มีปริมาณของต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น แต่ระดับของฮอร์โมนที่ผลิตในร่างกายยังคงเป็นปกติเนื่องจากการผลิตฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้นโดยต่อมใต้สมอง บ่อยครั้งที่นี่ไม่ใช่กรณีทางคลินิกและเกิดขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่น การขยายตัวของต่อมไทรอยด์ในสตรีก็เป็นไปได้เช่นกันในระหว่างตั้งครรภ์และวัยหมดประจำเดือน

ต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะต่อมไร้ท่อที่สำคัญที่ควบคุมกระบวนการเผาผลาญของอวัยวะเกือบทั้งหมดของร่างกาย

มีโครงสร้างทางกายวิภาคแบบห้อยซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตฮอร์โมนที่มีไอโอดีนในองค์ประกอบโครงสร้างพิเศษ - รูขุมขน

โดยปกติปริมาตรของต่อมไทรอยด์ทั้งสองกลีบซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยคอคอดจะมีปริมาตรน้อย ดังนั้นจึงตรวจไม่พบต่อมไทรอยด์ดังกล่าว อวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้น (คอพอก) เกิดขึ้นภายใต้สภาวะทางพยาธิวิทยาบางประการรวมถึงเมื่อมีการขาดไอโอดีนเข้าสู่ร่างกาย

การรักษาผู้ป่วยโดยเร็วในกรณีเช่นนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้สำเร็จ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้วิธีเข้าใจว่าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นใช่ไหม

ต่อมไทรอยด์กระจายออกไปตามพื้นผิวปากมดลูกด้านหน้า มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ อย่างไรก็ตาม ได้ชื่อมาจากกระดูกอ่อนไฮยาลินที่มีชื่อเดียวกัน ซึ่งใหญ่ที่สุดในโครงกระดูกของกล่องเสียง

มวลทางสรีรวิทยาของต่อมไทรอยด์แตกต่างกันไปตั้งแต่ 25 ถึง 40 กรัมและปริมาตรจะถูกกำหนดตามเพศ: ในผู้หญิงมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย (มากถึง 18 ลูกบาศก์เซนติเมตร) มากกว่าในผู้ชาย (ภายใน 25 ซม. ลูกบาศก์)

ต่อมไทรอยด์มีลักษณะอย่างไร?

“ปีก” ทั้งสองของต่อมไทรอยด์ - กลีบด้านขวาและด้านซ้าย - เชื่อมต่อกันด้วยคอคอดบาง ๆ อวัยวะหลั่งจะถูกยึดอย่างแน่นหนาที่ด้านข้างของหลอดลมโดยเอ็นและแคปซูลเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

การแปลโดยทั่วไปของต่อมนั้นสอดคล้องกับวงแหวนกล่องเสียงไตรมาสที่สองอย่างไรก็ตามมีตำแหน่งที่ผิดปกติ (โทเปีย) ก็เกิดขึ้นเช่นกัน ในกรณีเช่นนี้ สามารถพบได้บริเวณหลังกระดูกสันอก ในบริเวณหัวใจ และแม้แต่ที่โคนลิ้น

อย่างไรก็ตาม ในทุกกรณี ต่อมไทรอยด์อาจเรียกได้ว่า “มองไม่เห็น” เพราะโดยปกติแล้วจะไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยสายตา แพทย์เรียกต่อมขนาดนี้ว่า "ศูนย์"

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น ฮอร์โมนเป็นปกติ

หน้าที่หลักของต่อมไทรอยด์ - การสังเคราะห์ฮอร์โมน - ดำเนินการในรูขุมขนซึ่งเป็น "หน่วยการสร้าง" โครงสร้างที่แปลกประหลาดซึ่งประกอบด้วย

เพื่อการสังเคราะห์ที่สมบูรณ์ จะมีการจัดหาเลือดจำนวนมาก เช่นเดียวกับ "การป้องกัน" ของรูขุมขนแต่ละอันด้วยผนังกั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

ในการผลิตฮอร์โมนหลัก triiodothyronine (T3) และ tetraiodothyronine (thyroxine, T4) ต่อมนั้นต้องการกรดอะมิโนไทโรซีนและแร่ธาตุไอโอดีน ซึ่งเป็นปริมาณที่ต้องการซึ่งมีอยู่ในอาหารและน้ำ นอกจากนี้ parafollicular (หรือ C-cells) ที่มีอยู่ในผนังของรูขุมขนยังผลิตฮอร์โมน thyrocalcitonin ซึ่งมีหน้าที่ในการเผาผลาญแคลเซียมในร่างกาย

หน้าที่ของการควบคุมการสังเคราะห์ฮอร์โมนไทรอยด์เป็นของ adenohypophysis และเกิดขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือของ TSH (ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์) ซึ่งในทางกลับกันก็ขึ้นอยู่กับการผลิตฮอร์โมนที่ปล่อยฮอร์โมนไทรอยด์โดยไฮโปทาลามัสเช่นเดียวกับ ความเข้มข้นของไอโอดีนในเลือด

กระบวนการควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ดำเนินการตามหลักการ "คำติชม": การขาดสารเหล่านี้จะกระตุ้นการปล่อย TSH และฮอร์โมนที่ปล่อยไทโรโทรปินเข้าสู่กระแสเลือดและในทางกลับกันจะนำไปสู่การยับยั้งฮอร์โมน - สร้างการทำงานของต่อมไทรอยด์โดยต่อมใต้สมอง

เพื่อจุดประสงค์นี้ ธรรมชาติ "ให้" สำหรับการปกคลุมด้วยเส้นประสาทสองเท่าของอวัยวะโดยเส้นใยประสาทที่เห็นอกเห็นใจและกระซิก ครั้งแรกจะเปิดเมื่อจำเป็นต้องกระตุ้นการหลั่งและครั้งที่สอง - เมื่อจำเป็นต้องยับยั้งการสังเคราะห์ฮอร์โมนไทรอยด์

ดังนั้นสถานะของภาวะไฮโปหรือไฮเปอร์ฟังก์ชันของต่อมไทรอยด์จึงสามารถตัดสินได้จากความเข้มข้นของ TSH ระดับ TSH ปกติในซีรั่มในเลือดอยู่ระหว่าง 0.4 μIU/ml ถึง 4.1 μIU/ml โดยค่าเบี่ยงเบนขึ้นอยู่กับเทคนิคการวิจัย

ค่า TSH ที่อ่านได้มากกว่า 4.1 µIU/มล. บ่งชี้ถึงการขาดฮอร์โมนไทรอยด์) และการลดลงเหลือ 0.4 µIU/มล. หรือต่ำกว่า บ่งชี้ว่าต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน

สาเหตุของการขยายตัวของต่อมน้ำเหลือง

การเพิ่มขึ้นของปริมาตรของต่อมไทรอยด์เรียกว่า “คอพอก” ในทางการแพทย์

โรคคอพอกอาจเป็นหรืออย่างไรก็ตาม ในทั้งสองกรณี บริเวณที่เปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อต่อมแตกต่างจากเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ทั้งแบบส่องกล้องด้วยตาเปล่าและระหว่างการตรวจอัลตราซาวนด์ หรือภายใต้กล้องจุลทรรศน์

ในทางจุลพยาธิวิทยา คอพอกอาจเป็นเนื้อร้ายหรือเนื้อร้ายก็ได้ ในกรณีแรก สาเหตุของการขยายต่อมไทรอยด์คือซีสต์ โรคอักเสบและภูมิต้านทานตนเอง เนื้องอกหรือก้อนคอลลอยด์

การเจริญเติบโตที่ร้ายกาจของเนื้อเยื่อต่อมอาจขึ้นอยู่กับมะเร็งของต่อมชนิดต่างๆ (papillary, medullary, follicular, beta-cell) และมะเร็งวิทยาอื่นๆ (เช่น lymphomas) แม้ว่าความจริงที่ว่าการเจริญเติบโตเป็นก้อนกลมในต่อมไทรอยด์ส่วนใหญ่ (95% ของกรณี) นั้นไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นควรเป็นเหตุผลในการปรึกษาหารือกับแพทย์ทันทีและการตรวจร่างกาย

ก้อนเนื้อในต่อมไทรอยด์อาจเป็นเนื้อร้ายหรือเนื้อร้ายก็ได้

สาเหตุทั่วไปประการหนึ่งของต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่คือการขาดไอโอดีนในอาหารอย่างเรื้อรัง สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากความชุกของโรคคอพอกประจำถิ่นในพื้นที่ที่ไม่มีมาตรการป้องกันในรูปแบบของไอโอดีนในน้ำหรือเกลือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีการก่อตัวของคอลลอยด์ในต่อมไทรอยด์มากขึ้น ส่งผลให้มีขนาดเพิ่มขึ้น

โรคคอพอกเฉพาะถิ่นแพร่หลายไปทั่วโลก โดยรวมแล้วมีผู้ป่วยมากกว่า 250 ล้านคนที่มีการวินิจฉัยโรคนี้ลงทะเบียนบนโลกนี้ แต่ความถี่ของการเกิดขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ มีตั้งแต่ 1% ถึง 90% ของประชากร

ความชุกของโรคคอพอกประจำถิ่นสูงสุดถูกบันทึกไว้ในประชากรของประเทศภูเขา (ทิเบต, เทือกเขาแอลป์, เทือกเขาหิมาลัย, คาร์พาเทียน, อัลไต, เทือกเขาหิมาลัย, เทือกเขาคอเคซัส, เทือกเขาเทือกเขา) รวมถึงรัฐที่ราบลุ่มของเอเชีย แอฟริกาและ อเมริกาใต้.

ในประเทศอดีต CIS อุบัติการณ์ของโรคคอพอกประจำถิ่นนั้นสูงในหมู่ชาวเบลารุส, ชาวยูเครน, ผู้อยู่อาศัยในทรานคอเคเซียและดินแดนตะวันออกไกล ความเสี่ยงสูงสุดที่จะเป็นโรคคอพอกคือผู้หญิงครึ่งหนึ่งของประชากร (สูงกว่าผู้ชายถึง 10 เท่า)

นอกจากนี้รังสีไอออไนซ์ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตมากเกินไปของเนื้อเยื่อต่อม ดังนั้น ในหมู่ผู้อยู่อาศัยในเมืองชื่อดังของญี่ปุ่นที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณู อุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมไทรอยด์ของต่อมไทรอยด์จึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากนี้มักพบการเกิดโรคคอพอกในผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสีโดยเฉพาะในวัยเด็ก

สัญญาณของโรค

ด้วยธรรมชาติของการเติบโตที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ตามกฎแล้วผู้ป่วยจึงไม่ต้องกังวลกับสิ่งใดเลย แม้ว่าคอพอกจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

บางครั้งทำให้เกิดอาการเฉพาะ:

• เสียงแหบและเสียงแหบ (ด้วยการกดทับเส้นประสาทกำเริบ);
• หายใจลำบาก (เมื่อหลอดลมถูกบีบอัด);
• กลืนอาหารลำบาก (เนื่องจากความกดดันต่อหลอดอาหาร);
• รู้สึกถึง "สิ่งแปลกปลอม" ในลำคอ

อย่างไรก็ตามต่อมไทรอยด์ที่รกส่วนใหญ่มักทำให้เกิดความไม่สะดวกด้านสุนทรียะและไม่สบายเนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มองเห็นได้ อาการอีกกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษเป็นภัยนั้นเกิดจากระดับการผลิตฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น

thyrotoxicosis ที่เกิดขึ้นนั้นแสดงออกในอิศวร (หัวใจเต้นเร็วมากถึง 150 ครั้งต่อนาที), มือสั่น, เหงื่อออกและรู้สึกร้อน, เต้นผิดปกติ, น้ำตาไหลและกังวลใจ, การลดน้ำหนักโดยไม่มีเหตุผล, ความกลัวและการรบกวนการนอนหลับ ด้วยการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที อาการเหล่านี้จะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว

ด้วยเนื้องอกร้ายของต่อมไทรอยด์สัญญาณที่น่าตกใจสามารถปรากฏได้เฉพาะในระยะแพร่กระจาย - ไปที่กระดูกหรือปอด

ในกรณีส่วนใหญ่ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน และการเพิ่มขึ้นของปริมาตรของต่อมจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ

เฉพาะในมะเร็ง anaplastic (ใน 1% ของกรณี) การเจริญเติบโตของเนื้องอกอย่างรวดเร็วนำไปสู่การพัฒนาของอาการเฉพาะ - พิษจากมะเร็ง cachexia ฯลฯ

จะเข้าใจได้อย่างไรว่าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น?

ตามระดับของการขยายตัวของต่อมไทรอยด์มีความโดดเด่น:

• ฉันปริญญา (ไม่สามารถระบุอวัยวะด้วยสายตาได้ คอคอดถูกกำหนดโดยการคลำ);
• ระดับ II (ต่อมสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าสามารถสัมผัสได้ทั้งสองกลีบ);
• ระดับ III (จากการตรวจสอบพบว่าขนาดของต่อมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด);
• ระดับ IV (คอพอกถูกกำหนดด้วยสายตาเปลี่ยนรูปร่างของคอ);
• ระดับ V (ต่อมมีขนาดใหญ่มาก)

เทคนิคการตรวจด้วยตนเองแบบง่ายๆ แนะนำให้ทำประมาณเดือนละครั้ง ช่วยในการตรวจพบต่อมไทรอยด์ที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ทันท่วงที

เมื่อยืนอยู่หน้ากระจกคุณควรตรวจสอบคออย่างระมัดระวังโดยสังเกตเห็นความไม่สมมาตรการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าการมีโหนดใต้ผิวหนังหรือการก่อตัวแบบกระจายในการฉายภาพของต่อมไทรอยด์ การหันศีรษะไปด้านข้างตลอดจนการกลืนจะช่วยให้ระบุคอพอกตัวเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น

สิ่งต่อไปนี้ควรแจ้งเตือนต่อการเกิดภาวะอวัยวะที่มีการขยายตัวมากเกินไป:

• ความรู้สึกของการเต้นที่คอ;
• การปรากฏตัวของ "ก้อนเนื้อ" ในลำคอ;
• กลืนลำบาก
• รู้สึกไม่สบายเมื่อหันศีรษะ
• ชีพจรเต้นเร็ว
• เหงื่อออกและใจสั่น;
• ไข้ต่ำอย่างไม่มีสาเหตุ

หลังการตรวจ คุณควรคลำคอและบริเวณเหนือกระดูกไหปลาร้าอย่างระมัดระวังแต่ระมัดระวัง โดยปกติไม่ควรมีก้อนหรือก้อนหนากระจายอยู่ใต้ปลายนิ้ว การตรวจจับของพวกเขาเป็นเหตุผลในการไปพบแพทย์ต่อมไร้ท่อทันที

วิดีโอในหัวข้อ

วิธีทำความเข้าใจง่ายๆ ว่าต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้ที่บ้าน:

สมัครสมาชิกช่องโทรเลขของเรา @zdorovievnorme

หนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยทุกวัยคือต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น อันตรายของกระบวนการนี้อยู่ที่ความจริงที่ว่าในระยะแรกการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แทบจะมองไม่เห็นในทางปฏิบัติ

ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น: สาเหตุหลัก

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ต่อมไทรอยด์อาจขยายใหญ่ขึ้นมีดังต่อไปนี้:

• ร่างกายขาดไอโอดีนและธาตุขนาดเล็ก เช่น ซีลีเนียมและฟลูออรีน
• สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ไม่เอื้ออำนวยการสัมผัสกับสารพิษในร่างกาย
• สารยับยั้งฮอร์โมนฟิวชั่นมีอยู่ในเลือด
• ขาดวิตามินดี
• การปรากฏตัวของการติดเชื้อแบคทีเรียที่รบกวนการทำงานปกติของต่อมไทรอยด์;
• การสัมผัสกับความเครียด
• ขาดการออกกำลังกาย
• พันธุกรรม;
• โรคของไฮโปทาลามัสหรือต่อมใต้สมอง

ปัจจัยใด ๆ เหล่านี้สามารถนำไปสู่การพัฒนาของกลุ่มอาการที่ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้นหรือน้อยลง:

• ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ในกรณีที่ร่างกายไม่ได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม ปัญหาจะเริ่มต้นจากการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ด้วยเหตุนี้การทำงานอย่างเข้มข้นของอวัยวะหลั่งภายในและการเพิ่มขนาดของมันทีละน้อย มีอาการปฐมภูมิและทุติยภูมิ สาเหตุหลักคือความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ การพัฒนาทุติยภูมิเกิดจากการขาดฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์
• ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ปริมาณฮอร์โมนไทรอยด์เกินเกณฑ์ปกติอย่างมาก พยาธิวิทยานี้อาจเกิดจากคอพอกที่เป็นพิษ, การอักเสบของต่อมไทรอยด์, เนื้องอกในต่อม, ไฮโปทาลามัสและต่อมใต้สมอง ในเวลาเดียวกันจะสังเกตเห็นความเร่งของกระบวนการเผาผลาญ
• Euthyroidism ระดับฮอร์โมนไม่เกินปกติแต่ต่อมไทรอยด์ยังขยายใหญ่ขึ้น มักได้รับการวินิจฉัยในสตรีมีครรภ์ วัยรุ่น และวัยหมดประจำเดือน

สัญญาณของต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่ขึ้น

อาการที่สังเกตได้เมื่อขนาดของต่อมไทรอยด์เปลี่ยนแปลงจะมีความหลากหลายมาก ผู้ป่วยมักสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในร่างกายดังต่อไปนี้:

• การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักโดยไม่มีสาเหตุ (อาจเป็นทั้งการเพิ่มขึ้นของดัชนีมวลกายและการลดลง)
• การรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ
• ผมร่วงอย่างรุนแรง
• ปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิความรู้สึกหนาวสั่นหรือความร้อนจัด
• เพิ่มความเหนื่อยล้าและรู้สึกเหนื่อย
• นอนไม่หลับและหงุดหงิดบ่อย
• ความล้มเหลวของรอบประจำเดือน
• ปัญหาเกี่ยวกับความแรง
• ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
• อาเจียนและคลื่นไส้

อาจมีสองสาเหตุของความผิดปกติของต่อมไทรอยด์: การลดลงและการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนไทรอยด์ โดยธรรมชาติแล้วอาการในแต่ละกรณีจะแตกต่างกันออกไป

อาการหลักของภาวะพร่องไทรอยด์คือ:

• น้ำหนักมากขึ้น, น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น;
• ความเปราะบางและเมื่อเวลาผ่านไปความแห้งกร้านผมร่วงอย่างรุนแรง
• ความรู้สึกหนาวเย็น, หนาวสั่น, แพ้อุณหภูมิอากาศต่ำ;
• บวมที่ใบหน้า โดยเฉพาะเปลือกตา ขา และแขน
• สูญเสียความกระหาย;
• รู้สึกปากแห้ง
• ชีพจรน้อยกว่าหกสิบครั้งต่อนาที
• ความดันเลือดต่ำ;
• ท้องอืดและท้องผูก;
• อาเจียนและคลื่นไส้
• เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
• ความรู้สึกอ่อนแอง่วงนอนและง่วง;
• หายใจลำบาก
• เสียงแหบและบางครั้งก็สูญเสียเสียงโดยสิ้นเชิง
• ปัญหาการได้ยิน
• ภาวะซึมเศร้า;
• ไมเกรน;
• การลอกและความแห้งกร้านของผิวหนัง
• รู้สึกเสียวซ่าในอ้อมแขน;
• ความล้มเหลวของรอบประจำเดือน
• โรคโลหิตจาง;
• ปัญหาหน่วยความจำ

สัญญาณหลักของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินมีดังต่อไปนี้:

• การลดน้ำหนักโดยไม่มีเหตุผล
• ชีพจรมากกว่าเก้าสิบครั้งต่อนาที
• ความดันโลหิตสูงและหายใจถี่;
• ความเปราะบางของแผ่นเล็บ
• ผมบางและลักษณะของผมหงอก;
• แพ้อุณหภูมิอากาศสูงและเหงื่อออกมากเกินไป
• ผิวจะเรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ;
• ความรู้สึกกระหายอย่างต่อเนื่อง
• ปัสสาวะบ่อยมาก
• ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
• เพิ่มความเมื่อยล้าและกล้ามเนื้ออ่อนแรง
• มือสั่น;
• ความบกพร่องทางสายตา: กลัวแสง, น้ำตาไหลมากเกินไปและการพัฒนาตาโปน;
• ความกังวลใจความรู้สึกกลัวอย่างต่อเนื่องและความตื่นเต้นง่ายเพิ่มขึ้น
• เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ;
• นอนไม่หลับ.

บ่อยครั้งไม่ใช่ทั้งหมด แต่มีเพียงไม่กี่อาการเท่านั้นที่สังเกตได้ ในผู้สูงอายุ ภาพทางคลินิกอาจถูกลบออกไปจนหมด

ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของอวัยวะอย่างมีนัยสำคัญจะมีการสังเกตอาการไอและหายใจถี่เมื่อกดนิ้วในบริเวณหลอดลม

การกดทับหลอดอาหารอย่างรุนแรงทำให้เกิดปัญหาในการกลืนและความเจ็บปวดเมื่อรับประทานอาหารแข็งและแข็ง ความรู้สึกไม่พึงประสงค์ปรากฏขึ้นแม้จะสวมผ้าพันคอหรือเสื้อสเวตเตอร์ที่อบอุ่นซึ่งมีปกเสื้อค่อนข้างสูง

ต่อมไทรอยด์: องศาของการขยายตัว

ในสภาวะปกติ แทบจะมองไม่เห็นต่อมไทรอยด์และคลำได้ยาก ขนาดของอวัยวะนี้มีการจำแนกมากกว่าหนึ่งประเภท ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงแยกแยะพัฒนาการทางพยาธิวิทยาได้เพียงสามระดับเท่านั้น:

• ศูนย์. สามารถคลำอวัยวะได้ แต่ขนาดของกลีบนั้นสอดคล้องกับความยาวของเล็บของ phalanges บนนิ้วหัวแม่มือทุกประการ
• อันดับแรก. เมื่อคลำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดของต่อม แต่คอพอกยังคงมองไม่เห็นในกรณีของตำแหน่งศีรษะปกติ
• ที่สอง. คอพอกสามารถเห็นได้ชัดเจนและสังเกตได้ชัดเจนแม้ด้วยตาเปล่า
• นอกจากนี้ยังมีการจำแนกประเภทที่แตกต่างกันเล็กน้อยซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศ CIS ตามระบบนี้มีพัฒนาการทางพยาธิวิทยามากถึงห้าระดับ:
• อันดับแรก. อวัยวะนั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า นอกจากนี้ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงในการคลำ เมื่อกลืนเท่านั้นที่คุณจะเห็นคอคอดเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับกลีบของต่อมไทรอยด์
• ที่สอง. มองเห็นกลีบได้ชัดเจนเมื่อคลำ นอกจากนี้ยังมองเห็นได้ในระหว่างการกลืนอีกด้วย รูปทรงของคอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
• ที่สาม. ทั้งคอพอกและคอคอดจะมองเห็นได้ชัดเจน คอหนาเล็กน้อย แต่ผู้ป่วยไม่รู้สึกไม่สบาย
• ที่สี่ ขนาดของคอพอกเพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของโครงร่างของคอ มองเห็นกลีบทั้งหมดได้ชัดเจนแม้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
• ที่ห้า ขนาดคอพอกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันกำลังบีบอัดหลอดลม หลอดเลือดแดง หลอดอาหารและสายเสียงอยู่แล้ว คุณอาจมีอาการหายใจลำบาก เคี้ยวลำบาก รู้สึกแน่นหน้าอก ไมเกรน และเสียงเปลี่ยนไป

เพื่อกำหนดขนาดของต่อมไทรอยด์ได้อย่างแม่นยำ ผู้ป่วยจะถูกส่งไปอัลตราซาวนด์ ในระหว่างการตรวจด้วยสายตาไม่สามารถยกเว้นข้อผิดพลาดเล็กน้อยได้ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไขมันตำแหน่งของต่อมและระดับการพัฒนาของกล้ามเนื้อปากมดลูกโดยตรง

คุณไม่ควรรอให้ต่อมไทรอยด์ขยายใหญ่จนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ขอแนะนำให้ตรวจร่างกายเป็นประจำและตรวจสอบให้แน่ใจว่าร่างกายได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม

เฉพาะการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาอย่างทันท่วงทีและการรักษาที่เพียงพอเท่านั้นที่สามารถรับมือกับโรคได้อย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมา