วิธีทำไฟ LED สำหรับตู้ปลา DIY วิธีทำไฟในตู้ปลา ไฟเสริมในตู้ปลา

ทำไมแสงในตู้ปลาที่เหมาะสมจึงสำคัญ?บทบาทหลักของการจัดแสงคือการสามารถสังเกตผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น การจัดแสงที่เหมาะสมจะให้พลังชีวิตที่จำเป็นและการสังเคราะห์แสงตามปกติในพืชและสัตว์ เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดแสงหลัก แสงในตู้ปลาจึงมีความจำเป็นสำหรับระบบต่างๆ ที่มีสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์แสง เช่น พืช ดอกไม้ทะเล หรือปะการัง

แสงสว่างส่งผลต่อพฤติกรรมของปลา สรีรวิทยาของปลา และยังมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของตู้ปลาทั้งหมด

ตัวเลือกแสงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีตัวเลือกมากมายสำหรับตู้ปลาที่ให้แสงสว่างซึ่งหลากหลายซึ่งทำให้สามารถให้แสงที่เหมาะสมสำหรับชีวิตของผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะ

ไฟส่องสว่างสำหรับตู้ปลาแบ่งออกเป็นสี่ประเภทหลัก ตั้งแต่มรดกตกทอดไปจนถึงเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ - หลอดฟลูออเรสเซนต์เอนกประสงค์ หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ เมทัลฮาไลด์ และ LED

• หลอดฟลูออเรสเซนต์ - ระบบไฟส่องสว่างเอนกประสงค์เหล่านี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจุดไฟให้กับตู้ปลา

  หลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับปลาน้ำจืดและปลาในตู้ปลา หลอดไฟที่ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง และประหยัดพลังงานจำนวนมากเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับแต่งแสงในตู้ปลาของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โคมไฟแอกทินิกสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ - ปล่อยแสงสีน้ำเงิน-ม่วงในช่วงความยาวคลื่น 400 นาโนเมตร ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังเคราะห์แสงของปะการังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในตู้ปลาที่มีแนวปะการังลึกเมื่อใช้ร่วมกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ T5 10000K (เคลวิน)

นาโนเมตร - นาโนเมตร หน่วยความยาวย่อยหลายหน่วยในระบบหน่วยสากล (SI) = หนึ่งในล้านของมิลลิเมตร หรือหนึ่งในพันล้านของเมตร

หน่วยวัดที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับความยาวคลื่นของแสงที่มองเห็นได้

หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบเต็มสเปกตรัม (T5 หรือ T8) - มองเห็นได้ใกล้เคียงกับแสงแดดธรรมชาติ มีส่วนผสมของสีต่างๆ ของสเปกตรัมสี เหมาะสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำทุกประเภท

เนื่องจากเต็มสเปกตรัม หลอดไฟยับยั้งการพัฒนาของสาหร่าย อุณหภูมิสี = 9000 K.

หลอดฟลูออเรสเซนต์กลางวัน (T8) - ออกแบบมาสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์ทะเล ปะการัง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ หลอดไฟมีสเปกตรัมสีขาวเย็นที่มีอุณหภูมิสี 15,000 K (เคลวิน)

หลอดไฟแบบเต็มสเปกตรัมสำหรับแสงที่เข้มข้นในตู้ปลาน้ำจืด (T8) - ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และกระบวนการทางแสงของพืช เพิ่มสีสันในตู้ปลาน้ำจืด ให้แสงแก่พืช อุณหภูมิสี 10000 K.

การกำหนด T5 และ T8 สำหรับหลอดฟลูออเรสเซนต์

T - เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อที่เรียกว่า T-size ตัวเลขที่ตามหลังตัวอักษรคือค่าของเส้นผ่านศูนย์กลางในหน่วยที่แปดของนิ้ว ดังนั้นการทำเครื่องหมาย T8 จะระบุขนาด 26 มม. และ T5 - 16 มม.

หลอดไฟ T5 เป็นหลอดรุ่นใหม่ และมีข้อดีบางประการเมื่อเทียบกับหลอด T8 กล่าวคือ ให้แสงสว่างที่เพิ่มขึ้น ประหยัดพลังงานสูงสุด 30% ยืดอายุการใช้งาน ฟลักซ์ส่องสว่างลดลง 5% หลังจากการเผาไหม้ 10,000 ชั่วโมง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า

• หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ - ให้แสงสว่างในหลอดประเภทนี้สูงกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป

  แทนที่จะใช้หลอดไส้หลอดเดียว ระบบคอมแพคฟลูออเรสเซนต์จะรวมหลอดสองหลอดหรือสี่หลอดเพื่อให้แสงสว่างที่มากกว่า

  โคมฟลูออเรสเซนต์ขนาดกะทัดรัดสามารถเปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซนต์มาตรฐานได้ 2 หลอด อีกทั้งยังใช้งานและบำรุงรักษาได้ง่าย และมีข้อดีทั้งหมดของหลอดไฟเดย์ไลท์: ให้ความร้อนต่ำ และหลอดไฟที่มีอุณหภูมิสีต่างกันให้เลือกมากมาย จะเหมาะสำหรับทั้งน้ำจืดเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเล

• หลอดไฟเมทัลฮาไลด์เป็นหลอดที่มีการคายประจุความเข้มสูง (HID) ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 100 ลูเมน/วัตต์ และมีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 ชั่วโมง

  แตกต่างจากหลอด High Intensity Discharge (HID) ชนิดอื่นๆ เช่น โซเดียมหรือปรอท สเปกตรัมแสงและการแสดงสีทำให้โคมไฟเมทัลฮาไลด์เหมาะสำหรับการให้แสงในตู้ปลา โคมไฟประเภทนี้เหมาะสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในแนวปะการังที่มีผู้อยู่อาศัยที่ต้องการระดับแสงสูง

  วิธีทำแสงในตู้ปลา

  นอกจากนี้ หลอดไฟยังใช้สำหรับตู้ปลาขนาดใหญ่มาก ซึ่งลึกกว่า 60 ซม. ซึ่งหลอดไฟประเภทอื่นไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะให้แสงสว่างเพียงพอ

• หลอดไฟ LED - และในฐานะที่เป็น "ผู้มาใหม่" ในการให้แสงสว่างแก่โลกของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มักเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดต่างๆ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟ LED สำหรับตู้ปลาที่นี่

การคำนวณแสงสำหรับตู้ปลา

การคำนวณไฟ LED คำนวณเป็นลูเมน (หน่วยวัดของฟลักซ์การส่องสว่าง lm หรือ lm) สำหรับพืชที่ไม่โอ้อวด ต้องการ 20-40 ลูเมนต่อลิตรสำหรับความต้องการที่มากขึ้น 40-60 ลูเมน

การให้แสงสว่างของตู้ปลาด้วยหลอดฟลูออเรสเซนต์พร้อมตัวสะท้อนแสงคำนวณเป็น W / l ตามรูปแบบต่อไปนี้:

• พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ไม่มีพืช - 0.1-0.3 W / l
• พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพืชไม่กี่ชนิด - 0.3-0.5 W/l
• สำหรับปลาที่ชอบร่มเงา - 0.2-0.4 W / l
• สำหรับให้แสงสว่างตู้ปลาตกแต่งด้วยพืชสด - 0.5-0.8 W / l
• พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพืชปลูกหนาแน่น - สูงกว่า 0.8 W/l

อุณหภูมิสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้อยู่อาศัยในตู้ปลา:

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำลึกจำเป็นต้องมีแสง Actinic โดยเฉพาะตู้ปลาน้ำเค็ม

• ปลา - 5500 - 20000 K (เคลวิน) ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
• แนวปะการัง - 9000-20 000 K เป็นแสงแอคตินิกเพิ่มเติม
• พืช - 6500-18,000 K ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
• โคมไฟที่มีอุณหภูมิสี 10,000 K มีแสงสีขาวสว่างและเหมาะสำหรับตู้ปลาทุกชนิด

ระยะเวลาของแสงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง (สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 9-12 ชั่วโมง)

ในจำนวนนี้ การให้แสงต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยอาจมีการหยุดพัก 2-3 ชั่วโมงในช่วงเวลากลางวัน

ตามกฎแล้วนักเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วไปจะปิดไฟในตู้ปลาของเขาในเวลากลางคืน

ใช่คุณบอกว่าคุณเขียนบทความเกี่ยวกับความจำเป็นในการรักษาเวลากลางวันในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

ค่อนข้างถูกต้องผู้อ่านอยากรู้อยากเห็นของฉัน มือใหม่บางคนมักจะนึกถึงคำถามว่า ปลาของฉันไปทำอะไรในตู้ปลาตอนกลางคืน!? พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร? คุณสามารถเปิดไฟกลางคืนได้ไหม

อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติได้จัดเตรียมทุกสิ่งไว้ตรงหน้าคุณ สร้างดวงจันทร์และแสงจันทร์ตามลำดับ และภารกิจก็ลงมาเพื่อจำลองแสงจันทร์ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

นี่คือจุดที่แสงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ LED สามารถช่วยได้

วิธีทำไฟ LED

สีฟ้าของ LED ถูกเลือก แม้ว่าจะไม่มีความแตกต่างเลยแม้แต่น้อยว่าจะเลือกใช้สีใด

ฉันทำงานทั้งหมดบนฝาตู้ปลาของฉันเองพร้อมโคมไฟ

คุณอาจมีการออกแบบที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคุณต้องพิจารณา

พิจารณาถึงความจำเป็นในการจำกัดกระแสให้เป็นค่าการทำงานของ LED โดยใช้ตัวต้านทาน ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะคำนวณ และฉันใช้ไซต์นี้เพื่อคำนวณวงจรและจำนวน LED

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเพิ่มไฟ LED ให้กับตู้ปลาของคุณแล้ว ให้กำหนดว่าจะใช้ LED ใดและจำนวนเท่าใด

คุณจะต้องใช้เครื่องมือและอะไหล่ที่แตกต่างกันเล็กน้อย กล่าวคือ:

• ไฟ LED สีฟ้าติดเอง ฉันเลือกใช้ 2.8V / 20mA
• ตัวต้านทาน (ตัวต้านทาน)
• สายต่อ
• แหล่งจ่ายไฟหรือแหล่งจ่ายแรงดันไฟอื่นๆ ฉันใช้ 6V/100mA
• หัวแร้งและหัวแร้ง
• ไขควง
• ปืนกาว
• มือเติบโตจากที่ที่เหมาะสม

(จากผู้แปลและบรรณาธิการ: ในบางกรณี รายการอุปกรณ์จะแตกต่างกันไป

ไฟ LED สำหรับตู้ปลา DIY

ตามที่ระบุไว้ในบทความคุณสามารถนำทางเป็นพื้นฐานได้)

เราถอดโคมไฟตู้ปลาที่มีอยู่เราต้องไปที่ปลอก

ในกระบวนการรื้อถอน อย่าให้หลอดไฟและตัวสะท้อนแสงเสียหาย

เนื่องจากหลอดไฟในตู้ปลาทำงานด้วยไฟ 220 โวลต์ จึงควรซ่อนแหล่งจ่ายไฟ LED ไว้ใต้ฝาครอบหลอดไฟและเชื่อมต่อที่นั่น

ไฟ LED บนปลอกหุ้มด้วยปืนกาว

หลีกเลี่ยงการติดกาวบนหัว LED คุณต้องทากาว ไม่ใช่ทากาวจนหมด

ในกรณีของตัวเรือนโลหะ อย่าให้หน้าสัมผัส LED สัมผัสกับโลหะของฝาครอบ ใช่ คุณจะได้รับการลัดวงจรนั้น

สายไฟ ไฟ LED และจุดเชื่อมต่ออื่นๆ ทั้งหมดได้รับการบัดกรีและหุ้มฉนวนอย่างระมัดระวัง

เหลือเพียงการรวบรวมทุกอย่างกลับคืนมาและเปิดใช้งาน

อย่างที่คุณเห็น ไฟ LED DIY นั้นใช้งานได้

ไฟกลางคืนในตู้ปลา

เพื่อให้เกิดผลเต็มที่ในการเปลี่ยนวันและคืน เหลือเพียงการเพิ่มตัวจับเวลา แต่เป็นทางเลือกและเป็นทางเลือก

วิดีโอ: แสงจันทร์ในอควาเรียม

ขอให้ปัจจุบันและความสว่างของไฟ LED อยู่กับคุณ 🙂

วิธีการ DIY ไฟ LED สำหรับตู้ปลา

สำหรับนักเลี้ยงมือใหม่คำถามมักเกิดขึ้น - ต้องการแสงในตู้ปลามากแค่ไหนและจะคำนวณระดับความสว่างของมันได้อย่างไร ปัญหานี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพืชสด

เป็นวิธีสากลในการคำนวณความสว่าง ใช้อัตราส่วน - ลูเมนต่อลิตรของน้ำ (Lm / L) ลูเมนเป็นหน่วยวัดของฟลักซ์การส่องสว่าง ยิ่งค่าของหลอดไฟสูงเท่าใด ความสว่างก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าสามารถให้แสงสว่างในปริมาณที่มากขึ้น

ระดับแสงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

ต่ำ - 15–25 ลูเมนต่อลิตร
ปานกลาง - 25–50 ลูเมนต่อลิตร
สูง - มากกว่า 50 ลูเมนต่อลิตร

เมื่อทราบถึงความต้องการแสงของไฮโดรไบอองหนึ่งหรืออื่นรวมถึงปริมาตรของตู้ปลาคุณสามารถเลือกระบบไฟส่องสว่างที่เหมาะสมในแง่ของพลังงาน

ตัวอย่างเช่นสำหรับถังขนาด 50 ลิตรที่มีต้นไม้ชอบร่มเงา (ระดับแสงน้อย) จะใช้หลอดไฟ LED 10 วัตต์ ซึ่งให้ความสว่าง 935 ลูเมน ดังนั้นคุณจะได้ 18.7 ลูเมนต่อน้ำ 1 ลิตร

ความสนใจ,มักจะมีเคล็ดลับที่ผิดพลาดซึ่งอัตราส่วนของจำนวนวัตต์ต่อน้ำ 1 ลิตร (W / l) ถูกนำมาใช้เป็นการคำนวณสำหรับแสงในตู้ปลาซึ่งเป็นที่ยอมรับไม่ได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากหลอดไฟประเภทต่างๆจะให้พลังงานเท่ากัน ปริมาณแสงที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างง่ายๆ - ความสว่างของ LED สมัยใหม่นั้นมากกว่าความสว่างของหลอดไส้ที่มีกำลังไฟเท่ากันถึงสิบเท่า
หลอดไฟ LED ใน 10 W = 935 lm
หลอดไส้ที่ 10 W = 50 lm

การพึ่งพาแสงจากตำแหน่งและความสูงของโคมเหนือน้ำ

ระดับการส่องสว่างของตู้ปลานั้นไม่ได้พิจารณาจากพลังของหลอดไฟเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความสูงเหนือผิวน้ำซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาเมื่อวางพืชในตู้ปลา
ตัวอย่างเช่นหากแหล่งกำเนิดแสงอยู่ตรงกลางตู้ปลาสี่เหลี่ยม ตำแหน่งที่สว่างที่สุดจะอยู่ใต้หลอดไฟโดยตรง ในขณะที่ระดับแสงที่ด้านข้างสามารถลดลงได้ 5 ครั้งขึ้นไป

การพึ่งพาแสงจากตำแหน่งและความสูงของโคมไฟเหนือพื้นผิวของตู้ปลา

ตัวเลือกสำหรับตำแหน่งของโคมไฟเหนือตู้ปลาและระดับความสว่างของผิวน้ำขึ้นอยู่กับความสูง

ระบอบแสงในตู้ปลาและองค์ประกอบสเปกตรัมของแสง

หากไม่มีแสงไฟ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจะดูหมองคล้ำและหมองคล้ำ

ไฟตู้ปลาทำเอง

ด้วยความช่วยเหลือของแสงเท่านั้นที่คุณสามารถ "ทำให้มีชีวิต" สร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของพืชและคิดถึงทิวทัศน์ของปลาและน้ำ

เมื่อแสงสว่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์บางประการ การเลือกอุปกรณ์คำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและขนาดและรูปร่างไม่ได้มีบทบาทสำคัญที่นี่

เพื่อเพิ่มความสวยงามของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและผู้อยู่อาศัย คุณต้องคำนวณความเข้มของแสง

ทิศทางที่แท้จริงของรังสีจะแสดงให้เห็นแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของชีวิตใต้น้ำ และช่วงแสงที่เหมาะสมจะทำให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีความน่าสนใจ ดวงตาของมนุษย์มองเห็นส่วนสีน้ำเงินและสีแดงได้ไม่ดีและความรู้สึกของรังสีของโซนสีเหลืองและสีเขียวนั้นน่าพึงพอใจที่สุด สำหรับการให้แสงควรใช้หลอดสีเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องมีการไหลของแสงที่เพียงพอ: สำหรับบุคคลนี่คือปริมาณพลังงานที่ถูกดูดซับ

ผลที่ตามมาและสาเหตุของแสงไม่สม่ำเสมอ

การเจริญเติบโตของพืชขึ้นอยู่กับจำนวนโฟตอนหรือการสังเคราะห์ด้วยแสงโดยตรง (PAR เป็นภาษาอังกฤษซึ่งมีอยู่ในรูป)

การขาดหรือขาดแสงในตู้ปลาทำให้พืชเหี่ยวเฉาและสูญเสียสีตามธรรมชาติไปเป็นสีเขียวซีดหรือใบเหลือง ลำต้นจะยืดออก ระยะห่างระหว่างใบจะเพิ่มขึ้น และใบจะเล็กลง หากวางส่วนหนึ่งของลำต้นของพืชชนิดเดียวกันไว้ใกล้กับแสง ใบจะใหญ่ขึ้นและปล้องจะสั้นลง

สัญญาณของความสว่างไม่เพียงพอของตู้ปลาคือการตายของพืชที่มีใบสีน้ำตาลและสีแดง (สิ่งนี้ใช้ไม่ได้กับ Cryptocorynes)

พืชที่มีลำต้นที่บางกว่าและยาวกว่ามักจะได้รับแสงสีแดงมากเกินไปจากแหล่งกำเนิดแสงประดิษฐ์จำนวนมาก หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่ผลิตสีฟ้าทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ข้อบกพร่องดังกล่าวในการให้แสงของตู้ปลาทำให้เกิดการเบี่ยงเบนในการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช

แสงและปลา
ปลามีความไวต่อแสงไม่น้อย เวลาแสงปกติในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคือ 12 ชั่วโมง จากนั้น 12 ชั่วโมงในเวลากลางคืน

ค่าโฟโตโวลตาอิกนี้สอดคล้องกับปลาส่วนใหญ่ ทำให้พวกมันมีความทนทานอย่างสมบูรณ์และส่งผลดีต่อกระบวนการของชีวิตทั้งหมด รวมถึงการสืบพันธุ์ ถ้าพวกเขาต้องการแสงไม่น้อยกว่าต้นไม้ พวกมันตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีแสง

เมื่อเลือกโคมไฟอย่าลืมเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพและลักษณะของปลา: ในแสงที่ดีเท่านั้นปลาจะมีสีธรรมชาติสมบูรณ์

การเคารพในระยะเวลาที่กำหนดและพลังของแสงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเจริญพันธุ์ทางเพศในเวลาที่เหมาะสมของปลา เช่นเดียวกับการสืบพันธุ์ของปลา เพื่อให้ได้ปลาบางประเภท พวกมันต้องมีสภาพแสงที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ

บทบาทของแสงในชีวิตของปลาแทบจะไม่สามารถประเมินได้: การมองหา "ตัวเองท่ามกลางคนแปลกหน้า" ช่วยให้ค้นหาคู่นอน ค้นพบอาหาร ซ่อนตัวจากศัตรู นำทางในอวกาศ และปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้

สำหรับปลาบางชนิด ฟลักซ์แสงมีผลพิเศษ

Synodontics มีบทบาทสำคัญในชีวิต สรีรวิทยาของโสมถูกควบคุมในลักษณะที่ช่วงเวลาของกิจกรรมไม่สามารถแยกออกจากความมืดของวันได้ characinids ส่วนใหญ่จะพบในที่ร่มหรือในที่แสงพร่า

แสงน้อยยังกระตุ้นผู้ล่าเพราะอาหารมีอยู่ในที่มืดมากกว่า นี่เป็นเพราะการวางแนวการมองเห็นที่ไม่ดีของปลาจำนวนมากในความมืด ผู้คนที่กินแพลงก์ตอนที่เงียบสงบพยายามพักผ่อนในช่วงเวลานี้ และกิจกรรมของพวกเขาเติบโตขึ้นเมื่อมีแสงสว่างเพียงพอเท่านั้น

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพายุหมุนมาลาวีในภาพเป็นตัวอย่างที่ดีของแสงที่สว่างจ้า

ที่น่าสนใจที่นี่ในเพจ ใช้ไฟ LEDเกี่ยวกับสิ่งที่จะเป็นการสนทนาแยกต่างหากบน akvamore.ru ในอนาคต

ปลาส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโหมดการรับแสงในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีผู้บูชาเงาด้วย ปลาที่อาศัยอยู่ในแสงแดดจัด (เช่น แปรงสีฟันที่มีชีวิตหรือโดนาซิเน) ไม่เคยได้รับแสงจากแสงส่องลงมาสู่แสงที่ต่ำต้อย

แต่ปลาประเภทนี้สามารถดำรงอยู่ได้เต็มที่เมื่อมีแสงมากเกินไปในตู้ปลา ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อสีของมันแต่อย่างใด

สิ่งที่ต้องทำเพื่อ Shadowfish

ตำแหน่งของปลาที่บรรพบุรุษอาศัยอยู่ในบ่อใต้ร่มเงานั้นแตกต่างกันมาก วิถีชีวิตกลางคืนหรือพลบค่ำต้องลดปริมาณแสงในช่วงเวลาปิด หากมีการติดตั้งตู้ปลาที่ดูแลต้นไม้ด้วยโคมไฟที่แรงเกินไป จะทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดำรงอยู่และรบกวนจังหวะตามธรรมชาติของปลาที่ลุกลาม

เจ้าของที่มีประสบการณ์เตือนว่าพวกเขามีตัวแยกสิ่งสกปรก สูญเสียความชัดเจนในโครงสร้างและความเข้มของสี โดยส่วนใหญ่ปลาเหล่านี้จะต้องซ่อนตัวและไม่พอใจผู้ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ การสร้างสภาพที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับผู้อยู่อาศัยในตู้ปลานั้นจำเป็นต้องจัดสรรพื้นที่แรเงา สิ่งนี้สามารถช่วยได้ด้วยองค์ประกอบตกแต่ง การสร้างหินขนาดใหญ่ ถ้ำเทียม เช่นเดียวกับต้นไม้ จำนวนที่พักพิงดังกล่าวควรสอดคล้องกับจำนวนปลา

ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ ซึ่งเลียนแบบไบโอโทปภูเขาไฟ มีการจัดแสงแบบกระจายแสง

มีที่พักพิงสำหรับปลาเงาและการเจริญเติบโตของพืชที่ดี - บริเวณที่สว่าง

ในกรณีที่ไม่มีพืชในตู้ปลา เพียงแค่ลดพลังงานของหลอดไฟในขณะที่รักษาระยะเวลาของแสงก็เพียงพอแล้ว สภาพจะยากขึ้นด้วยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรือพืชลึกเช่น เมื่อต้องใช้แสงจ้า คุณต้องคำนวณปริมาณแสงที่ถูกต้องอย่างแม่นยำและค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ละเมิดสิทธิ์ในการมีอยู่ของปลาและพืชอย่างมีนัยสำคัญ

เหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การไหลเฉลี่ยสำหรับนักเลี้ยง

1. ใช้แสงอันทรงพลังที่พืชต้องการเมื่อเลือกปลาที่ชอบแสงซึ่งมีสระน้ำตื้นและมีแสงสว่างเพียงพอ ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เก็บพืชผักไว้ในตู้ปลา
2. เติมพืชในตู้ปลาที่ไม่ต้องการแสงมาก - สามารถอยู่ร่วมกับปลาส่วนใหญ่ได้

   ทางออกที่ดีสำหรับตู้ปลา "ปลา" ซึ่งพืชจะไม่อยู่ในความเศร้า

3. สร้าง "รั้ว" ของพืชสูงที่เติบโตหรือทอดยาวบนพื้นผิว - ปลาสามารถซ่อนตัวจากแสงได้ภายใต้ร่มเงา นกน้ำยังสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้
4. ปลูกในตู้ปลาและพืชเตี้ยและพันธุ์ไม้ที่เติบโตใกล้ผิวน้ำ ตัวปลาเองสามารถเลือกสภาพความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดในที่โล่งหรือใต้ร่มเงาของต้นไม้สูง

   การตัดสินใจนี้ขยายไปสู่ปริมาณมาก เนื่องจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็กไม่อนุญาตให้คุณสร้างพื้นที่ทั้งหมด

5. อีกวิธีหนึ่งสำหรับตู้ปลาขนาดใหญ่คือการติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างตามทิศทางเพื่อให้แสงส่วนใหญ่ตกกระทบต้นไม้

   สารเคลือบนี้เป็นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภายใต้แหล่งน้ำธรรมชาติ: ในบริเวณที่มีร่มเงา สันเขาสามารถย้อมด้วยไม้โอ๊คได้ ราวกับว่ามีรากห่อหุ้มไว้ซึ่งคล้ายกับภูมิทัศน์ของแม่น้ำหรือทะเลสาบ

คำสองสามคำเกี่ยวกับโคมไฟ

นักเลี้ยงสัตว์น้ำทุกคนสามารถแบ่งออกเป็นผู้ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สว่างและมืด ขั้นแรก ควรติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่แรง (โคมไฟ)

ด้านหลังเป็นแสงพลบค่ำและแสงจ้าเพื่อให้มองเห็นปลาได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากความต้องการส่วนบุคคลแล้วเขาควรได้รับคำแนะนำจากวัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและความชอบของผู้อยู่อาศัย

ปลาหมอสีแอฟริกันขุดและทำลายพืช ดังนั้นพวกมันจึงอาจไม่ได้อยู่บน "จักรยาน" ด้วยซ้ำ ในกรณีนี้จำเป็นต้องใช้แสงเพื่อความสะดวกของนักเลี้ยงเท่านั้น

แสงที่มากเกินไปไม่ชอบปลา มันถึงกับทำร้ายพวกมันซึ่งทำให้เครียด ดังนั้นคุณสามารถวางโคมไฟจากสเปกตรัมใดก็ได้ในตู้ปลานี้ พวกเขาไม่ต้องการการคำนวณลูเมนพิเศษและพืชเทียม - เหมาะสำหรับหลอดไฟธรรมดาที่ติดตั้งตู้ปลา

การเลือกอุปกรณ์สำหรับปลาชนิดอื่นและพืชที่มีชีวิตต้องให้ความสำคัญมากขึ้น

เพื่อให้รวยใกล้กับเฉดสีธรรมชาติติดตั้งโคมไฟปลาแบบเต็มสเปกตรัม (ด้วยสีรังสีที่หลากหลาย) หรือ TRICHROMATOGRAPHIC / ไตรฟอสเฟต (ไตรฟอสเฟต) ในวัสดุต่อไปนี้เราจะพิจารณาทางเลือกของหลอดไฟโดยละเอียดยิ่งขึ้น

ภาพนี้แสดงรุ่นของตู้ปลาที่ไม่มีฝา

ใช้แล้ว zetlight

แสงแดดธรรมชาติยังช่วยให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำส่องสว่าง อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่แหล่งเดียวที่ตอบสนองความต้องการของพืชและสัตว์เสมอไป ปัญหาในการใช้แสงธรรมชาติคือความสว่างของตู้ปลาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของตู้ปลา

แต่แม้กระทั่งการติดตั้งตู้ปลาที่ถูกต้องกับแสงแดดก็ไม่สามารถควบคุมความยาวของช่วงแสงและความเข้มของแสงที่ส่องออกมาได้เนื่องจากสภาพอากาศหรือฤดูกาล

รังสีของดวงอาทิตย์พุ่งตรงไม่อนุญาตให้มีการกระจายแสงทั่วโต๊ะน้ำ: บางพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอาจประสบปัญหาการขาดแสงในขณะที่ส่วนอื่น ๆ มีมากเกินไป แสงแดดที่มากเกินไปจะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของสาหร่าย ผนังและพืชในตู้ปลาจะถูกกระจาย และการส่งผ่านแสงจะลดลง ปริมาณแสงอาจทำให้น้ำ "บาน" เนื่องจากการสืบพันธุ์ของแพลงก์ตอนพืช

รังสีของดวงอาทิตย์ยังทำให้น้ำร้อนขึ้น ซึ่งมักนำไปสู่การตายของปลา

ในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำตั้งอยู่ใกล้กับหน้าต่างทางทิศใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในกรณีอื่น ๆ จำเป็นต้องมีแสงสว่างเพิ่มเติมสำหรับการเจริญเติบโตของไม้ประดับ

ควรสังเกตว่าแสงแดดโดยตรงอาจทำให้เกิดอันตรายเป็นเวลานาน (มากกว่าสองชั่วโมง) ที่เป็นของตู้ปลา คุณควรหลีกเลี่ยงการวางภาชนะใกล้กับหม้อน้ำ: อุณหภูมิที่ผันผวนอย่างกะทันหันจะส่งผลเสียต่อปลาและพืช ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือด้านตรงข้ามหรือด้านของดวงอาทิตย์ที่ด้านหลังห้อง

แสงธรรมชาติที่ดีจะช่วยให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและผู้อยู่อาศัยสวยงาม

ไฟตู้ปลา

แสงที่ดีจะช่วยเผยความงามของโลกใต้น้ำ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้อยู่อาศัย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ: ความเข้มและระยะเวลาของเวลากลางวันส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืชและปลา น่าเสียดายที่นักเลี้ยงสัตว์น้ำบางคนไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งนี้

ไม่ควรให้แสงสว่างในตู้ปลามากเกินไป เพราะอาจทำให้พืชขนาดเล็กโตเร็วได้

ขอแนะนำให้ตั้งช่วงเวลาหนึ่งระหว่างที่คุณจะเปิดไฟสำหรับตู้ปลา โดยปกติไม่เกิน 13 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับทั้งพืชและปลา จำเป็นต้องสลับช่วงเวลาของความมืดและแสงสว่าง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ คุณสามารถตั้งค่าการควบคุมแสงอัตโนมัติได้: โฟโตเซลล์ที่ไวต่อแสงจะเปิดไฟเมื่อจำเป็นเท่านั้น

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการให้แสงอย่างต่อเนื่องเป็นอันตรายต่อสัตว์บางชนิด - มันเกิดขึ้นที่ปลาสูญเสียความสามารถในการ
คูณ.

ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าแสงสว่างเพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยในตู้ปลา

พืชในตู้ปลาส่วนใหญ่ต้องการแสงที่สว่างมาก แต่ปลามักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีร่มเงา นักเลี้ยงสัตว์น้ำมักจะคิดถึงแต่ความต้องการของพืชและติดตั้งหลอดไฟที่แรงเกินไป สำหรับปลาแสงดังกล่าวอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายพวกเขาจะมองหาโอกาสที่จะซ่อน

ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวเมื่อเวลาผ่านไปสีสดใสของบางชนิดอาจซีดจางและคลุมเครือ บางครั้งมีการติดตั้งโคมไฟจำนวนมากในตู้ปลาแม้ว่าจะไม่มีต้นไม้อยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นที่ต้องการเลย หากคุณต้องการใช้หลอดไฟหลายดวงเช่นกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลอดไฟเหล่านั้นมีกำลังไฟต่ำ

ความเข้มของแสงควรขึ้นอยู่กับความลึกของตู้ปลาด้วย ยิ่งความลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องให้แสงสว่างมากขึ้นเท่านั้น

หากมีแสงธรรมชาติไม่เพียงพอในห้องให้เลือกหลอดไฟที่ทรงพลังกว่าสำหรับตู้ปลา

ข้อมูลต่อไปนี้สามารถใช้สำหรับการคำนวณได้ สำหรับพื้นที่ด้านล่าง 1 dm2 ของตู้ปลา 2 W ก็เพียงพอแล้วเมื่อใช้หลอดไส้และ 0.7 W เมื่อใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ด้วยโคมไฟคริปทอน มันซับซ้อนกว่าเล็กน้อย

สำหรับความลึกมากกว่า 40 ซม. ต่อน้ำ 1 ลิตรในตู้ปลา จำเป็นต้องใช้ 1 W สำหรับความลึกที่ตื้นขึ้น 0.75 W ก็เพียงพอแล้ว

สำหรับการเจริญเติบโตตามปกติ พืชน้ำต้องการรังสีที่มองเห็นได้ทั้งหมด เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงสเปกตรัมแต่ละช่วงมีบทบาทของตัวเอง: ความยาวคลื่นยาวของรังสีที่มองเห็นได้ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความยาวคลื่นสั้นส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของมวลพืชและการออกดอก

หากใช้แสงประดิษฐ์ที่มีขอบเขตจำกัด อาจเกิดการเจริญเติบโตของสาหร่ายหรือดอกบานได้

ส่วนใหญ่มักจะติดตั้งหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดไส้ในตู้ปลา

แสงของแสงหลังถูกพืชดูดกลืนอย่างสมบูรณ์ หลอดไส้โดดเด่นด้วยแสงสีเหลืองหรือสีส้มที่น่ารื่นรมย์ อย่างไรก็ตาม หลอดไฟเหล่านี้มีค่าสัมประสิทธิ์ประสิทธิภาพ (COP) ต่ำ ดังนั้นแม้แต่ตู้ปลาขนาดเล็กก็ยังต้องการพลังงานสูงในการส่องสว่าง

หลอดไส้ร้อนจัด ไม่ควรวางใกล้ผนังตู้ปลา ขอแนะนำให้วางเหนือผิวน้ำที่ความสูงต่ำ - จาก 10 ถึง 25 ซม.

สำหรับตู้ปลาลึกจำเป็นต้องมีไฟด้านข้างเพิ่มเติม แต่หลอดไส้
ไม่เหมาะกับสิ่งนี้

ไฟส่องสว่างตู้ปลาพร้อมไฟ LED

ควรสังเกตว่าการให้ความร้อนเฉพาะชั้นบนของน้ำจะทำให้เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิอย่างมากที่พื้นผิวและที่ด้านล่างของตู้ปลา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผสมชั้นที่มีอุณหภูมิต่างกัน

หากปลาจากอ่างเก็บน้ำน้ำเย็นอาศัยอยู่ในตู้ปลา จะไม่สามารถใช้หลอดไฟฟ้าได้

ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์แทน โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพและความประหยัดสูง สำหรับตู้ปลา จะใช้หลอดไฟสีขาวและแสงวอร์มไวท์ (ไม่เหมาะกับหลอดไฟกลางวัน) องค์ประกอบสเปกตรัมคล้ายกับแสงแดดโดยมีช่วงสีน้ำเงินและสีแดงอยู่เล็กน้อย จำนวนโคมไฟขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ปลาที่จะติดตั้งและกำลังของพวกมัน

เช่นเดียวกับหลอดไส้ หลอดฟลูออเรสเซนต์ติดตั้งได้ดีที่สุดจากด้านบน

พวกเขาให้ความร้อนน้อยกว่าแบบธรรมดามาก ดังนั้นจึงอนุญาตให้วางไว้ใกล้กับกระจกมองภาพ คุณสามารถติดตั้งไฟส่องสว่างที่ฝาตู้ปลา

เมื่อเวลาผ่านไป หลอดไฟจะสูญเสียความสว่างไปเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มีนัยสำคัญ เพื่อให้แสงสว่างกลับสู่ระดับก่อนหน้านั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นระยะ

ในเวลาเดียวกัน คุณควรจำหรือจดวันที่ติดตั้งหลอดไฟใหม่ แน่นอน คุณจะต้องเปลี่ยนมันเมื่อหมดไฟ

เพื่อเพิ่มพลังของแสง หลอดไฟจะถูกวางไว้ในแผ่นสะท้อนแสง - แผ่นสะท้อนแสงพิเศษ
ซึ่งช่วยให้คุณส่องสว่างมุมที่ไกลที่สุดของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

เพื่อไม่ให้การดูแลตู้ปลาซับซ้อนคุณสามารถปลูกพืชที่ต้องการแสงน้อยได้

จากนั้นปลาจะไม่เครียดเพราะแสงจ้า

ด้วยความช่วยเหลือของพืชคุณสามารถสร้างเงาให้กับผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เมื่อต้องการทำสิ่งนี้ ให้ปลูกต้นไม้ลอยน้ำหรือมีใบขนาดใหญ่คืบคลานไปตามผิวน้ำ การทำเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมดินล่วงหน้าและให้โอกาสพืชที่จะหยั่งราก เป็นไปได้มากว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวสองถึงสามเดือน แต่สัตว์เลี้ยงของคุณจะสามารถซ่อนตัวในที่ร่มได้

ยิ่งตู้ปลาใหญ่เท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสในการออกแบบน้ำมากขึ้นเท่านั้น

ในบางพื้นที่สามารถปลูกพืชเพื่อให้ร่มเงาได้ ส่วนหนึ่งของพื้นที่สามารถเปิดทิ้งไว้เพื่อให้ปลาในตู้ว่ายในที่ที่สบาย อีกทางเลือกหนึ่งคือการเน้นแสงจ้าในบริเวณที่มีต้นไม้มากกว่า

ดังนั้นปลาจะมีทางเลือกระหว่างที่สว่างและมืดกว่า มุมที่ร่มรื่นสามารถตกแต่งด้วยอุปสรรค์ไม้โอ๊ค - ด้วยวิธีนี้การออกแบบตู้ปลาจะดูน่าประทับใจมาก

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องแสงแล้ว อย่าลืมรายละเอียดที่สำคัญอย่างหนึ่ง

ในธรรมชาติ ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกหรือขึ้นในทันที มีช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างแสงกับความมืด และแสงในตู้ปลามักจะดับลงทันที ปล่อยให้ปลาอยู่ในความมืดสนิท การเปลี่ยนแสงกะทันหันอาจทำให้ปลาสับสนได้ หากมีผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำรายวันหรือกลางคืน การเปิดหรือปิดไฟไฟฟ้ากะทันหันอาจทำให้พวกเขาตกใจ เนื่องจากพวกเขาจะไม่มีเวลาซ่อนตัวในที่ปลอดภัย สำหรับบางชนิด เวลาพลบค่ำเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน

ตัวอย่างเช่น ปลาหมอสีซึ่งมีกิจกรรมหลักในตอนกลางวัน ก่อนที่ความมืดมิดจะรวบรวมลูกปลาเข้าด้วยกันแล้วส่งไปยังที่พักพิงเพื่อปกป้องพวกมันจากผู้ล่า และในบางชนิด เช่น ancitruses กิจกรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มมีแสงตะวัน หากแสงแดดส่องเข้ามาในห้องในช่วงพระอาทิตย์ตกและ/หรือยามรุ่งสาง ไม่จำเป็นต้องสร้างแสงยามเย็น

มิเช่นนั้นการเปิดไฟตู้ปลาหลังจากไฟปกติ 10-20 นาทีก็เพียงพอแล้วและปิดก่อนหน้านี้ 10-20 นาที ปลาทำความคุ้นเคยกับแสงสนธยาอย่างรวดเร็ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ร้านขายสัตว์เลี้ยงได้ขยายขอบเขตของอุปกรณ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอย่างมาก

ในอีกด้านหนึ่ง การเลือกจำนวนมากช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าสำหรับทุกรสนิยม แต่นักเลี้ยงมือใหม่สามารถทำผิดได้ง่าย ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จำหน่ายในร้านขายสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจก่อนว่ามีอุปกรณ์ประเภทใดบ้างและมีไว้เพื่ออะไร

การทำงานของตู้ปลาโดยตรงขึ้นอยู่กับระดับความสว่างของมัน เมื่อเลือกประเภทของแสงสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใด ๆ ให้คำนึงถึงความลึกปริมาณและประเภทของถังด้วยจำนวนประชากร ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Hydrobionts คือหลอดไฟ LED ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเลือกโหมดสีที่ต้องการ ให้สภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพืชและปลา

ในบทความนี้:

ประโยชน์ของไฟ LED

ไฟ LED สำหรับตู้ปลามีข้อดีหลายประการไม่เหมือนกับแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดไฟ LED สามารถประกอบได้อย่างง่ายดายด้วยมือของคุณเอง โดดเด่นด้วยการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ในขณะที่สามารถปรับสเปกตรัมและอุณหภูมิสีได้โดยใช้ตัวควบคุมพิเศษ

ข้อดีของไฟ LED ได้แก่:

• การออกแบบโคมไฟที่มีให้เลือกมากมาย
• การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด
• ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความเสถียรของฟลักซ์การส่องสว่างสเปกตรัม
• ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• การป้องกันโคมไฟที่ดีเยี่ยมจากอิทธิพลทางกล สามารถติดตั้งโคมไฟที่ทนต่อการกระเด็นหรือเปียกได้

ไฟ LED สำหรับตู้ปลา

เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใส่ใจกับความจริงที่ว่าแผงไฟ LED และโคมไฟสำหรับตู้ปลาสามารถประกอบได้ด้วยมือในขณะที่ต้นทุนของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะน้อยกว่าราคาโรงงานมาก

ทางเลือกของไฟ LED สำหรับตู้ปลา

เมื่อเลือกประเภทของโคมไฟต้องคำนึงถึงพารามิเตอร์หลายอย่าง สิ่งนี้ใช้กับขนาดของตู้ปลา ประเภทของตู้ ข้อกำหนดสำหรับฟลักซ์การส่องสว่าง และวิธีการวางโคมไฟ สำหรับงานคุณสามารถใช้แถบ LED ไฟสปอร์ตไลท์หรือโคมไฟโดยคำนวณกำลังและปริมาณโดยคำนึงถึงมาตรฐานและข้อกำหนดสำหรับการจัดแสงสำหรับถังประเภทต่างๆ ตัวอย่างเช่น นักสมุนไพรต้องการแสงสว่างสำหรับการสังเคราะห์แสง และปลาบางชนิดต้องการการเปลี่ยนแปลงระดับแสงทุกวัน

สปอร์ตไลท์ LED

ในการจัดแสงที่เหมาะสมในตู้ปลาแบบเปิด คุณสามารถใช้ไฟสปอร์ตไลท์ LED ได้ ตะเกียงดังกล่าวให้แสงที่สว่างมากซึ่งเข้าถึงด้านล่างได้อย่างง่ายดายแม้ในถังที่ลึกที่สุด แต่สำหรับอควาเรียมขนาดใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ต้องใช้ไฟอย่างน้อยสองถึงสามดวงที่กำลังไฟ 50 วัตต์ สำหรับถังธรรมดาขนาด 100 ลิตร ไฟสปอร์ตไลท์ 25 W สองดวงก็เพียงพอแล้ว

สีขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของหลอดไฟ - หลอดไฟสีขาวใช้สำหรับกลางวันธรรมดา ไฟสปอร์ตไลท์สีน้ำเงินใช้สำหรับกลางคืนโดยเลียนแบบแสงจันทร์ ควรจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่ส่องสว่างทั่วทั้งภาชนะโดยไม่ให้มีมุมมืด

หลอดไฟ LED

ตัวเลือกที่พบบ่อยที่สุดสำหรับตู้ปลาคือหลอดไฟ LED เหมาะสำหรับตู้ปลาขนาดเล็กที่มีความจุไม่เกิน 50 ลิตร ให้แสงที่สว่างและคงที่ซึ่งปลาและพืชต้องการ สำหรับภาชนะขนาดใหญ่ จะดีกว่าถ้าเลือกแผงขนาดใหญ่ที่มีโคมไฟหลายแบบ ระบบกันสะเทือน หรืออุปกรณ์ยึดติดบนขายึด

ผู้ผลิตเสนอทางเลือกที่หลากหลายสำหรับโคมไฟดังกล่าว ระบบที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Aqualighter ซึ่งออกแบบมาสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเค็มหรือน้ำจืด เหล่านี้เป็นรุ่นมัลติฟังก์ชั่นที่มีความสามารถในการเปลี่ยนอุณหภูมิสี, การเปลี่ยนสีรายวัน, โหมดพรีเซ็ต ระบบดังกล่าวสามารถใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบระบบไฟส่องสว่างของคุณเองได้

แถบ LED

เมื่อไม่นานมานี้ ไฟแถบ LED ใช้สำหรับตู้ปลาขนาดเล็กเท่านั้น แต่วันนี้วิธีการที่คล้ายกันนี้เหมาะสำหรับถังขนาดใหญ่ที่มีความจุ 200 ลิตรขึ้นไป แต่เมื่อเลือกแล้วควรเลือกเทปที่มีกำลังไฟสูงเช่น SMD 3528 ไม่เหมาะกับตู้ปลาขนาดใหญ่ เป็นการดีกว่าที่จะเลือกใช้ SMD 5050, SMD 5730 และอื่นๆ ที่มีการแผ่รังสี 18 lm สำหรับแต่ละไดโอด แต่เมื่อวางแผนการผลิตหลอดไฟเอง คุณควรเลือกใช้ระบบระบายความร้อนทันที

คุณสมบัติของทางเลือกของแสง

เมื่อเลือกแสงสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ควรพิจารณาพารามิเตอร์ต่อไปนี้:

• เนื้อหาของภาชนะประเภทของผู้อยู่อาศัยและพืชในตู้ปลา
• โดยคำนึงถึงพารามิเตอร์มาตรฐาน (ค่าต่ำสุดคือ 0.5 W ต่อลิตร)
• ทางเลือกของหลอดไฟ LED (สำเร็จรูปหรือประกอบเอง "ตั้งแต่เริ่มต้น");
• การออกแบบซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของถัง (สปอตไลท์, ไม้บรรทัด, โคมไฟบนวงเล็บหรือระบบกันสะเทือน);
• ชุดอุปกรณ์ (ตัวควบคุมแสงสว่าง ตัวจับเวลา ตัวควบคุมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสีและสเปกตรัมในแต่ละวัน)
• คุณสมบัติการทำงาน (ป้องกันจากความชื้นหรือน้ำกระเซ็นปกติ)

ไฟ LED พร้อมตัวกระจายอากาศ

ลดราคามีโคมไฟสำเร็จรูปแบรนด์ดังให้เลือกมากมาย เมื่อซื้อขอแนะนำให้เลือกพวกเขาเนื่องจากคนจีนราคาถูกมักไม่ตรงตามข้อกำหนดที่ระบุไว้และอาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยของชาวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและผนังที่มีสาหร่ายมากเกินไป

คุณสมบัติของการคำนวณโคมไฟสำหรับตู้ปลา

เมื่อคำนวณระดับความสว่างของตู้ปลา จำเป็นต้องคำนึงถึงมาตรฐานและคุณสมบัติของตู้ปลาที่ยอมรับ เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าต้องใช้กำลังไฟ 0.5 วัตต์และความสว่างของฟลักซ์การส่องสว่าง 40 ลิตรต่อน้ำหนึ่งลิตร แต่สำหรับตู้ปลาประเภทต่างๆ ตัวชี้วัดเหล่านี้อาจแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น สำหรับตู้ปลาที่ลึกมาก พารามิเตอร์จะถูกคูณด้วย 2

สำหรับนักสมุนไพรที่มีพืชหายากและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดัตช์ จำเป็นต้องให้ฟลักซ์การส่องสว่าง 60 ลูเมนหรือมากกว่าที่ 0.8-1 วัตต์ต่อลิตร เมื่อวางแผนการให้แสงสว่างสำหรับตู้ปลาที่มีความลึกและยาว มาตรฐานอาจแตกต่างกันไป ไม่ว่าในกรณีใดจะต้องเลือกหลอดไฟเป็นรายบุคคล

โคมไฟ LED สำหรับตู้ปลา ปลอกคอ AquaLighter 2 22 W

ควรจำไว้ว่าทุกๆ 10 ซม. ของความลึก ระดับของฟลักซ์แสงจะลดลงอย่างน้อย 50% โดยคำนึงถึงชนิดของพืช ความต้องการออกซิเจน และพารามิเตอร์อื่นๆ อีกมากมาย สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการสังเคราะห์ด้วยแสงสำหรับพืชจะเข้าสู่ความอิ่มตัวที่ระดับแสง 400 umol / (m2 * s) เท่านั้น นั่นคือแสงจะต้องเข้มข้น ปัจจัยสำคัญคือการมีอยู่ของพืชคลุมดิน อนูเบียส และอื่นๆ

เรารวบรวมโคมไฟด้วยมือของเราเอง

เมื่อติดตั้งระบบไฟส่องสว่างสำหรับตู้ปลาที่มีต้นไม้ คุณต้องตัดสินใจเลือกหลอดไฟทันที ที่นิยมและง่ายที่สุดคือการใช้แถบ LED ตัวอย่างเช่นสำหรับตู้ปลามาตรฐาน 100 ลิตรแถบยาวห้าเมตรพร้อมไดโอด SMD 5050 ที่มีกำลังไฟ 0.2 W ก็เพียงพอแล้ว

เทปติดอยู่ที่ฝาตู้ปลาในรูปแบบของงูในขณะที่ทิศทางอาจแตกต่างกัน แต่การสังเกตความหนาแน่นของไฟ LED เท่ากันเป็นสิ่งสำคัญมาก จำเป็นต้องยึดหลอดไฟด้วยกาวซิลิโคน อุปกรณ์สตาร์ทและแหล่งจ่ายไฟต้องวางไว้ด้านนอกเท่านั้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการแลกเปลี่ยนความร้อนอย่างเหมาะสมและป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไป

วิธีที่สองนั้นยากกว่านั้นต้องใช้ทักษะบางอย่าง แต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่า ในการทำเช่นนี้ แทนที่จะใช้ฝาครอบมาตรฐาน โคมไฟรูปเพชรหรือสี่เหลี่ยมจะวางอยู่เหนือตู้ปลา โดยให้แสงสว่างที่มีความสว่าง 10,000 ลูเมนและกำลัง 120 วัตต์ หลอดไฟดังกล่าวเพียงพอสำหรับตู้ปลาที่มีปริมาตร 200-300 ลิตร

ลักษณะทางเทคนิคของหลอดไฟดังกล่าวจะไม่ด้อยกว่าหลอดสำเร็จรูป แต่ค่าใช้จ่ายจะลดลงมาก สำหรับการประกอบ คุณจะต้องใช้หลอดไฟ LED ประมาณ 40 ดวง หลอดละ 3 W สีขาว น้ำเงิน แดง คุณต้องระวังสีเขียว เนื่องจากอาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของสาหร่ายได้ การแยกไดโอดสีเขียวออกทั้งหมดถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องมีการควบคุมความสมดุลอย่างต่อเนื่องเพื่อแยกการเติบโตของสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย

Lamas ถูกนำมาจากแบรนด์ต่างประเทศเช่น Osram และ Philips ได้ดีที่สุดแม้ว่า Era, Feron, Gauss ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ในการประกอบโคมไฟสำหรับตู้ปลาที่มีปริมาตร 200-300 ลิตร คุณจะต้อง:

• แถบ LED, โคมไฟ LED;
• รางน้ำพลาสติกยาว 2 เมตร กว้าง 10 ซม. (ความยาวจะขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ปลา)
• แหล่งจ่ายไฟ 12 V สามารถเชื่อมต่อแสงสว่างกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปได้
• ลวดที่มีหน้าตัด 1.5 มม.
• เครื่องปรับอากาศสำหรับ 6-12 V;
• คอนเนคเตอร์สำหรับหลอดไฟ (40 ชิ้นตามจำนวนหลอดไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเชื่อมต่อสำหรับเทป)
• เครื่องมือตัดรู 48 มม.

ไฟสำหรับตู้ปลาจากแถบ LED

คุณต้องเริ่มต้นด้วยการเตรียมฐาน - สองรางน้ำและรูถูกตัดในโครงสร้างพลาสติกในรูปแบบกระดานหมากรุก ไฟ LED จะถูกเสียบเข้าไปในรูเหล่านี้ ซึ่งสำคัญมากในการยึดให้แน่น โคมไฟทั้งหมดเชื่อมต่อกับสายอ่อนหลังจากนั้นจะเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ พัดลมถูกวางบนบริเวณที่ให้ความร้อนจากด้านนอกของโครงสร้าง

หากใช้โคมไฟสีขาวเท่านั้น ให้ใช้เทปสีน้ำเงินเพื่อเลียนแบบแสงจันทร์ ติดตั้งที่ผนังด้านหลัง เปิดได้เฉพาะเวลากลางคืนหรือใช้ร่วมกับแสงสีขาว ให้ครอบคลุมสเปกตรัมที่ต้องการ

โดยทั่วไปเมื่อคำนวณหลอดไฟ LED คุณต้องมุ่งเน้นไปที่ตัวบ่งชี้ต่อไปนี้ - 0.5 W ต่อน้ำหนึ่งลิตรหากตู้ปลาลึกมากให้ใช้หลอด 1 W ต่อลิตร วัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก็ถูกนำมาพิจารณาด้วยเช่นนักสมุนไพรต้องการแสงสว่างและแสงสว่างที่ดีโดยที่การสังเคราะห์แสงจะเป็นไปไม่ได้

นอกจากนี้ ในการเลือกแสง เราต้องคำนึงถึงสเปกตรัมและอุณหภูมิสีด้วย สำหรับพืชและสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในตู้ปลาชนิดต่าง ๆ พวกมันสามารถแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระดับการส่องสว่างควรสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแสงทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีสุขภาพที่ดี

บทสรุป

หลอดไฟ LED สำหรับตู้ปลาค่อยๆ เปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซนต์ให้ประหยัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อายุการใช้งานยาวนานกว่ามากและสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า สามารถติดตั้งหลอดไฟประเภทต่างๆ ได้อย่างอิสระ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นหนึ่งในการตกแต่งที่น่าประทับใจและโดดเด่นที่สุดของทุกการตกแต่งภายใน น่าเสียดายที่มันไม่สามารถทำได้หากไม่มีไฟส่องสว่างเพิ่มเติม นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าแสงแดดสำหรับผู้อยู่อาศัยไม่เพียงพอแม้ว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจะวางไว้ริมหน้าต่าง นอกจากนี้ บ่อขนาดเล็กที่ออกแบบอย่างเหมาะสมจะเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพิ่มเติมที่ยอดเยี่ยมในบ้าน เราจะบอกวิธีสร้างแสงสำหรับตู้ปลาด้วยมือของคุณเองเพื่อให้เข้ากับสัตว์เลี้ยงในน้ำของคุณอย่างสมบูรณ์แบบและกลมกลืนกับการตกแต่งภายในโดยรวม

ทำไมแสงถึงต้องการ?

ตามกฎของธรรมชาติ ระบบนิเวศของมันถูกสร้างขึ้นในคอลัมน์น้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพืชน้ำ จุลินทรีย์ต่างๆ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ สำหรับปลา นี่คือลิงค์สุดท้ายในระบบนิเวศนี้ ซึ่งต้องการแหล่งกำเนิดแสงเพิ่มเติมสำหรับชีวิตปกติ นอกจากนี้ แสงยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา การกระตุ้นการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ของพืชน้ำ นี่เป็นเพราะกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งอยู่ในคอลัมน์น้ำจะเข้าสู่กระบวนการของพืช ดังนั้นน้ำจึงอุดมไปด้วยออกซิเจนซึ่งปลาหายใจ หากมีแสงไม่เพียงพอ พืชจะเริ่มจางและหยุดขยายพันธุ์

สิ่งสำคัญ! ให้ความสนใจกับความจริงที่ว่าพืชน้ำสีเขียวและสีม่วงในตู้ปลาไม่ดูดซับสเปกตรัมทั้งหมด แต่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่

ในการทำโคมไฟสำหรับตู้ปลาด้วยมือของคุณเอง โปรดทราบว่าโคมไฟประเภทต่างๆ จะปล่อยช่วงสเปกตรัมที่แตกต่างกันออกไป นั่นคือเหตุผลที่บ่อยครั้งที่การรวมกันของพวกมันถูกใช้เพื่อให้แสงสว่างเพิ่มเติมของตู้ปลาและไม่ได้แยกจากกัน

สิ่งสำคัญ! ในฤดูหนาวด้วยการให้แสงสว่างเพิ่มเติม ระยะเวลาของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่แนะนำให้ส่องสว่างตู้ปลานานกว่า 10 ชั่วโมง ดังนั้นควรปิดไฟในเวลากลางคืน

จะทราบได้อย่างไรว่ามีแสงสว่างเพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยในตู้ปลาหรือไม่?

สัญญาณหลักของแสงในตู้ปลาที่ดีคือพืชที่มีสีเขียวเข้ม โดยมีสีเหลือง สีม่วง และสีน้ำตาลหลายเฉด ในทางกลับกัน ปลาก็กระฉับกระเฉงและขี้เล่น และเกล็ดของพวกมันจะส่องประกายด้วยสีรุ้งทั้งหมด

สิ่งสำคัญ! เนื่องจากการละเมิดสมดุลสิ่งแวดล้อมซึ่งขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของน้ำและแสงที่เหมาะสม น้ำจึงเริ่มผลิดอกและกลายเป็นสีเขียวขุ่น ดังนั้นปลาจึงไม่มีออกซิเจนเพียงพอพวกมันจึงเริ่มจับอากาศที่ผิวน้ำ

หากหลังจากติดตั้งไฟเพิ่มเติมหลังจาก 2-3 เดือนผู้อยู่อาศัยในตู้ปลารู้สึกสบายตัวแสดงว่าติดตั้งไฟอย่างถูกต้อง

สิ่งสำคัญ! บางครั้งเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์ ไดโอดสีน้ำเงินและสีเขียวจะถูกเพิ่มลงในแบ็คไลท์ ใช้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น น่าเสียดายที่ไม่แนะนำให้เปิดไฟแบบนี้บ่อยๆ เพราะจะส่งผลเสียต่อการสังเคราะห์แสงของพืชและทำให้ปลาตกต่ำ

วิธีการคำนวณพลังงานแสง?

เพื่อให้แสงสว่างของตู้ปลาด้วยมือของคุณเองคุณควรคำนวณพลังงานแสงก่อนเนื่องจากชีวิตของผู้อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับสิ่งนี้โดยตรง:

• ค่ามาตรฐานคือกำลังไฟรวมของหลอด LED ทั้งหมดประมาณ 1 วัตต์ แต่ปริมาณน้ำควรอยู่ในช่วง 20 ลิตร-2 ตัน

สิ่งสำคัญ! เพื่อให้แสงสว่างแก่ตู้ปลา ส่วนใหญ่จะใช้ LED ที่มีกำลังไฟ 0.2 W

• สำหรับการกำหนดจำนวนหลอดไฟที่แม่นยำยิ่งขึ้นนั้นมีสูตรการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน ตัวอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีปริมาตร 200 ลิตรจะต้องใช้แถบ LED ที่มีจำนวนอุ้งเท้า 30 ชิ้นหรือ LED เฉพาะจุดประมาณ 25-40 ชิ้นและกำลังไฟ 3 วัตต์
• ในทางปฏิบัติอัตราส่วนที่ถูกต้องที่สุดคือ 0.5 วัตต์ต่อน้ำ 1 ลิตร แต่โชคไม่ดีที่มันไม่ถูกต้อง เนื่องจากยิ่งผนังของตู้ปลาสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เสาน้ำที่อยู่ด้านล่างส่องสว่างได้ยากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดพารามิเตอร์นี้ด้วยสายตาได้ พืชควรให้แสงสว่างอย่างสม่ำเสมอและถึงด้านล่างสุด

สิ่งสำคัญ! โปรดทราบว่าช่วงสเปกตรัมของไฟ LED มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เนื่องจากพวกเขาใช้เฉดสีม่วงน้ำเงินและส้ม ดังนั้นเมื่อรวมหลอดฟลูออเรสเซนต์และไฟ LED เข้าด้วยกัน คุณจะได้ไฟแบ็คไลท์ที่เต็มเปี่ยมซึ่งเหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกคน

การเลือกโคมไฟสำหรับตู้ปลา

ส่วนใหญ่มักจะใช้โคมไฟประเภทต่อไปนี้เพื่อให้แสงสว่างในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในร่ม

หลอดฮาโลเจน

พวกเขาค่อนข้างประหยัดส่องแสงสดใสในขณะที่ปล่อยความร้อนเล็กน้อย โคมไฟดังกล่าวทำขึ้นจากปรอทดังนั้นจึงไม่ค่อยใช้สำหรับตู้ปลาที่ให้แสงสว่าง แต่แทนที่จะใช้หลอดไส้ หลอดฮาโลเจนจะค่อนข้างเหมาะสม

หลอดไส้ธรรมดา

มันให้สเปกตรัมสีเหลืองซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวอ่างเก็บน้ำ น่าเสียดายที่สเปกตรัมนี้ไม่เพียงพอสำหรับพืชในตู้ปลาสูง สำหรับใบไม้ภายใต้แสงนั้นพวกมันจะค่อยๆเล็กลงและเปลี่ยนเป็นสีซีด

สิ่งสำคัญ! หากหลอดไส้สว่างเกินไปน้ำก็เริ่มเบ่งบาน

แสงไฟดังกล่าวยังทำให้น้ำและแก้วร้อนอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ปลารู้สึกไม่สบายตัว ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้หลอดไส้เป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างอิสระ แต่ควรใช้ร่วมกับหลอดอื่นเช่นหลอดฟลูออเรสเซนต์

เรืองแสง

พวกมันค่อนข้างทนทานและประหยัด เนื่องจากแสงของหลอดดังกล่าวกระจัดกระจายสเปกตรัมของการส่องสว่างจึงกว้างขึ้น สัดส่วนมาตรฐาน 0.5 วัตต์ / ลิตรก็เพียงพอสำหรับตู้ปลาและวางหลอดไฟเพิ่มเติมหลายหลอดตามความยาวทั้งหมดของตู้ปลา

สิ่งสำคัญ! สำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำประเภทดัตช์ที่มีพืชพันธุ์เขียวชอุ่มให้เลือกหลอดไส้ที่มีกำลังไฟ 1800 K และ 1200 K

หลอดไฟ LED

นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด นี่เป็นเพราะประหยัดในขณะที่ไม่ให้น้ำร้อน DIY ไฟ LED พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นเรื่องง่าย การกระเจิงจะมีความสม่ำเสมอมากขึ้นเนื่องจากหลอดไฟไม่เป็นอันตรายต่อพืชและไม่ทำให้ปลาไม่สบาย

สิ่งสำคัญ! ด้วยสีที่หลากหลาย คุณจะมีโอกาสรวมและสร้างเอฟเฟกต์การออกแบบที่หลากหลาย

ไฟ LED Strip

ส่วนใหญ่จะใช้เป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมสำหรับการให้แสงในตู้ปลา เนื่องจากขาดช่วงสเปกตรัม จึงควรรวมแถบ LED กับโคมไฟอื่นๆ

วิธีการติดตั้งไฟตู้ปลา?

• ทางที่ดีควรติดตั้งไฟแบ็คไลท์จากด้านบนและใกล้กับผนังด้านหน้าของตู้ปลา
• นอกจากนี้ยังดูเป็นธรรมชาติมากเมื่อติดตั้งบ่อน้ำในบ้านในเฟอร์นิเจอร์ตู้และวางฝาให้อาหารปลาอยู่ด้านบน
• นอกจากนี้ โซลูชันดั้งเดิมจะเป็นแบบพิเศษ ซึ่งทำจากโปรไฟล์ที่มีไฟส่องสว่างด้านหน้า
• บ่อยครั้งที่ตู้พิเศษถูกใช้เป็นขาตั้งโดยทำแบ็คไลท์ในรูปแบบของฝาครอบ

สิ่งสำคัญ! หากติดตั้งไฟเหนือตู้ปลาในตู้ ในระหว่างการติดตั้งควรปิดกระจกไว้เพื่อไม่ให้มีสิ่งใดเข้าไปในน้ำและไม่รบกวนปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ

ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า มีการติดตั้งรีเลย์ระบายความร้อนพิเศษบนแผ่นทำความร้อน และติดตั้งตัวจับเวลาไฟฟ้าบนไฟส่องสว่าง เนื่องจากมีการเปิดและปิดไฟโดยที่มนุษย์ไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม

สิ่งสำคัญ! เมื่อติดตั้งไฟตู้ปลาด้วยมือของคุณเองสิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงที่มาของผู้อยู่อาศัย ตัวอย่างเช่น ปลาเขตร้อนต้องการน้ำอุ่นและแสงสว่างในระยะยาว

วิธีทำไฟ LED สำหรับตู้ปลาด้วยมือของคุณเอง?

มีสองวิธีในการทำโคมไฟ LED ของคุณเองสำหรับสระน้ำขนาดเล็กในบ้าน

วิธีที่ 1

นี่เป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถติดตั้งฝาครอบไฟที่ติดตั้งหลอดไฟพิเศษได้ ในการทำเช่นนี้ คุณต้องแก้ไขแถบ LED สีขาวรอบปริมณฑล ด้วยเหตุนี้ คุณจะได้สเปกตรัมที่เหมาะสมที่สุดและการส่องสว่างที่สม่ำเสมอ

สิ่งสำคัญ! เพื่อจุดประสงค์เหล่านี้ ควรใช้แถบ LED แบบมีกาวในตัวที่หุ้มด้วยพลาสติก

การส่องสว่างดังกล่าวมักใช้เพื่อการตกแต่ง น่าเสียดายที่มันไม่สามารถใช้เป็นแหล่งกำเนิดแสงตู้ปลาอิสระได้

วิธีที่ 2

ประกอบด้วยการรวบรวมแสงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ LED เต็มรูปแบบที่มีกำลังไฟเพียงพอโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ซับซ้อนเพิ่มเติม

สิ่งสำคัญ! สำหรับตู้ปลาที่มีปริมาตร 200-300 ลิตร 120 วัตต์ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว นี่ถือว่า 40 สปอต LED 3W แต่ละอันที่ 270 ลูเมน ผลที่ได้คือคุณจะได้แสงที่สว่างและสว่างเต็มที่

ค่าใช้จ่ายของการออกแบบนี้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณภาพและตำแหน่งของ LED และอุปกรณ์จ่ายไฟ

สำหรับการประกอบไฟแบ็คไลท์นี้ด้วยตนเอง คุณจะต้องใช้วัสดุและเครื่องมือดังต่อไปนี้:

• ชุดโคมไฟ LED;
• รางน้ำพลาสติกกว้าง 100 มม.
• แหล่งจ่ายไฟ 12 โวลต์;

สิ่งสำคัญ! คุณสามารถใช้แหล่งจ่ายไฟของคอมพิวเตอร์ทำไฟในตู้ปลาได้

• ลวดอ่อนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 มม.
• 6 คอมพิวเตอร์คูลเลอร์;
• ที่นั่ง 40 ชิ้นสำหรับ LEDs;
• คัตเตอร์สำหรับเจาะรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 48 มม.

ลำดับของการกระทำมีดังนี้:

1. ตัด 2 รางน้ำเท่ากับความยาวของตู้ปลา
2. เจาะรู ส่ายพวกมันด้วยความถี่ 1 เมตร 20 ชิ้น
3. ใส่หลอดไฟ LED ลงในรูที่เตรียมไว้แล้วแก้ไข
4. เชื่อมต่อหลอดไฟทั้งหมดเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ

สิ่งสำคัญ! เครื่องทำความเย็นของคอมพิวเตอร์ได้รับการติดตั้งในที่ที่มีควันขนาดใหญ่และมีความร้อนสูงที่ฝาครอบไฟ

เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสร้างความสุขให้คุณทุกวันด้วยความงามและกิจกรรมของพวกเขา การดูแลพวกเขาอย่างเหมาะสม ซึ่งรวมถึงแสงที่ติดตั้งมาอย่างดีเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญของเรา คุณจะสามารถคำนวณจำนวนอุปกรณ์ส่องสว่างและกำลังที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง และบ่อน้ำขนาดเล็กในบ้านของคุณจะไม่เพียงแต่เป็นไฮไลท์หลักของการตกแต่งภายในเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่โปรดสำหรับ ทั้งครอบครัวที่จะรวบรวม

แสงสว่างที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเหมาะสมสำหรับตู้ปลาจะเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างรวดเร็วของพืชและชีวิตที่ดีของชาวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ปัจจุบันมีการใช้วิธีการให้แสงสว่างสำหรับตู้ปลาหลายวิธี รวมถึงการใช้หลอดประหยัดไฟ ไดโอด และเทคโนโลยีเมทัลฮาไลด์ คุณสามารถสร้างแสงคุณภาพสูงด้วยมือของคุณเองหรือซื้อชุดอุปกรณ์สำเร็จรูปสำหรับตู้ปลาขนาดต่างๆ

ไฟ LED ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์

ทำไมคุณถึงต้องการแสงสว่าง

ปลาในตู้ปลาและพืชที่ปลูกไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีแสงแดดหรือแสงประดิษฐ์ ภายใต้แสงไฟคุณภาพสูง พืชน้ำมีส่วนร่วมในกระบวนการสังเคราะห์แสงอย่างแข็งขัน: มันดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ไนเตรต และไนไตรต์ ในขณะที่ทำให้น้ำอิ่มตัวด้วยออกซิเจนที่ให้ชีวิต

ปลาและสิ่งมีชีวิตในน้ำต้องการแสง ช่วยให้พวกเขาสังเกตระบอบการปกครองประจำวันของความตื่นตัวและผล็อยหลับไป ไม่เพียง แต่ต้องเลือกกำลังแสงที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังต้องเลือกระยะเวลาด้วย ปัจจัยหลังจะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพืช เนื่องจากจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่ไม่ต้องการ

หากไม่มีแสงที่เหมาะสมในตู้ปลาคุณสามารถปลูกพืชเทียมพลาสติกได้เท่านั้นซึ่งมีลักษณะที่ห่างไกลจากอุดมคติ แต่ถ้าคุณต้องการสร้างสวนใต้น้ำที่แท้จริงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีพืชพรรณสวยงามและปลาเขตร้อนที่สดใส หากไม่มีแสงคุณภาพสูงจะไม่สามารถทำได้

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ทางเลือกของนักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก็มีจำกัดอย่างมาก พวกเขาสามารถใช้ได้เพียงหลอดไส้มาตรฐานซึ่งไม่เหมาะกับจุดประสงค์นี้มากนัก เช่นเดียวกับแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ซึ่งช่วยลดต้นทุนไฟฟ้าลงบ้าง ทำให้พวกเขาเลือกคลื่นความถี่ที่ดีที่สุดสำหรับปลาและพืช วันนี้ช่วงของการติดตั้งไฟสำหรับตู้ปลาได้ขยายตัวอย่างมาก

ข้อเท็จจริงหลักที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกไฟแบ็คไลท์:

1. ทางออกที่ดีที่สุด - แหล่งกำเนิดแสงฮาโลเจนที่ทั้งประหยัด มีช่วงแสงกว้าง มีสารปรอทน้อยที่สุด และใช้งานง่าย
2. หลอดไส้พลังงานขนาดเล็กยังสามารถใช้เพื่อส่องสว่างตู้ปลา แสงนี้มีโทนสีเหลืองซึ่งช่วยให้คุณเน้นความงามของปลาเขตร้อนที่สดใส อย่างไรก็ตาม หลอดไส้ยังมีข้อเสียอยู่ ประการแรกนี่คือการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกระตุ้นการเจริญเติบโตของสาหร่ายตลอดจนความร้อนที่สำคัญซึ่งนำไปสู่ความร้อนสูงเกินไปของตู้ปลาทั้งหมด
3. หลอดฟลูออเรสเซนต์มีความโดดเด่นด้วยความประหยัด ประสิทธิภาพ และสเปกตรัมที่หลากหลาย
4. ไฟ LEDเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ประหยัดซึ่งช่วยให้คุณลดการใช้พลังงานโดยการให้แสงที่มีทิศทางเข้มข้นหรือแสงแบบกระจาย ด้วยการใช้ตัวควบคุมต่างๆ ทำให้หลอดไฟ LED เป็นแบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มที่ โดยจะเปิดและปิดตามกำหนดการที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือหลอดฟลูออเรสเซนต์และหลอด LED ในขณะเดียวกันก็ประหยัดช่วยให้คุณได้สีด้วยเฉดสีและสเปกตรัมส่องสว่างทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็กและภาชนะที่มีปริมาตรหลายตัน ข้อเสียเปรียบเพียงอย่างเดียวของหลอดไฟ LED และตัวควบคุมที่จำเป็นสำหรับการทำงานคือส่วนประกอบที่ใช้ต้นทุนสูง หลังค่อนข้างจำกัดการจำหน่ายในตลาดภายในประเทศ

โคมไฟสีน้ำเงิน 430 - 460 นาโนเมตรจะให้ความงามที่สมจริงแก่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แสงสีฟ้าสามารถเร่งการเติบโตของสัตว์ทะเลได้

การคำนวณกำลังไฟฟ้าที่ถูกต้อง

มักเป็นเรื่องยากสำหรับนักเลี้ยงมือใหม่ในการคำนวณปริมาณแสงที่ต้องการสำหรับปริมาตรตู้ปลาที่เฉพาะเจาะจง ในอดีต เมื่อหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นที่นิยมมากที่สุด การคำนวณกำลังแสงที่ต้องการทำได้ง่ายกว่ามาก ตัวบ่งชี้ขั้นต่ำคือระดับ 0.50 W ต่อลิตรของปริมาตร ดังนั้นโคมไฟ 10 วัตต์ก็เพียงพอสำหรับตู้ปลาขนาด 20 ลิตร สำหรับต้นไม้ที่ชอบแสงและความสูงที่เพิ่มขึ้นของภาชนะแก้ว พลังงานอาจเป็น 0.7–1 W ต่อลิตร

แต่ด้วยการถือกำเนิดของหลอดไฟ LED การคำนวณก็ซับซ้อนมากขึ้น ที่นี่จำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้ไฟฟ้าด้วย LED หนึ่งดวงไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงพลังงานในลูเมนและลักษณะอื่น ๆ ด้วย ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ไฟ LED ที่ 0.2 วัตต์ต่อลิตรของความจุตู้ปลาสำหรับให้แสงสว่างในตู้ปลา ดังนั้นสำหรับปริมาตร 200 ลิตรจะต้องใช้ไดโอดขนาดเล็กประมาณ 40 ชิ้น

สเปกตรัมที่เหมาะสมที่สุด:

• สำหรับปลาก้น - 3000−6000 Lux;
• สำหรับการบำรุงรักษาพืชและสัตว์ - 6000−10000 Lux;
• สำหรับพืชที่ชอบแสงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ - 10,000–15,000 Lux

นักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีประสบการณ์จะเลือกกำลังแสงที่ต้องการโดยสังเกตจากประสบการณ์ ที่นี่จำเป็นต้องคำนึงถึงไม่เพียง แต่ความต้องการของพืชที่ปลูก (บางชนิดอาจรู้สึกดีในที่ร่มหรือในที่มีแสงจ้า) แต่ยังรวมถึงการมีปุ๋ยในน้ำความยาวของเวลากลางวันด้วย ยิ่งเสาน้ำสูงเท่าไหร่ แสงก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น

หากต้นไม้และผนังของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำถูกเคลือบด้วยสีน้ำตาลอย่างมากมาย แสดงว่ามีพลังงานแสงมากเกินไปและเวลากลางวันยาวนาน แต่ถ้าต้นไม้ดูไร้ชีวิตชีวา อ่อนแอและซีดจาง คุณควรเริ่มปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อม ๆ กัน ให้ปุ๋ยน้ำเป็นประจำ และเพิ่มความเข้มของแสง

ไฟ LED สำหรับตู้ปลามีราคาแพง แต่หลอดไฟ LED แบบธรรมดามีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง และมีราคาถูกกว่าในระยะยาว

แบ็คไลท์ทำเอง

แม้จะดูซับซ้อน แต่การจัดไฟในตู้ปลาด้วยไฟ LED เองก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถใช้ได้ทั้งหลอดฟลูออเรสเซนต์และฝาครอบที่มีไฟ LED ในตัว ในแต่ละกรณี ทางเลือกจะขึ้นอยู่กับปริมาณของตู้ปลา ความเข้มและพลังของแสงที่ต้องการ ตลอดจนความสามารถทางการเงินของนักเลี้ยง

การใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์

วิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างแสงที่มีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงโดยใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ทั้งหมดที่จำเป็นในกรณีนี้คือตลับปิดผนึก (สองหลอดสำหรับแต่ละหลอด) สตาร์ทไฟฟ้าหรือบัลลาสต์สายไฟคุณภาพสูง ไม่แนะนำให้ใช้คาร์ทริดจ์ธรรมดาที่ไม่ได้รับการปกป้องจากน้ำเนื่องจากความชื้นที่เพิ่มขึ้นภายใต้ฝาครอบซึ่งนำไปสู่การออกซิเดชันของหน้าสัมผัสและไฟฟ้าลัดวงจรที่เป็นไปได้

วงจรไฟฟ้าของแสงดังกล่าวเป็นมาตรฐาน จากเต้าเสียบ สายเคเบิลจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์สตาร์ทไฟฟ้า สายไฟจากตลับแรงดันเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในเอาต์พุตที่เกี่ยวข้อง ไดอะแกรมการเชื่อมต่อแบบง่ายจะถูกนำไปใช้กับร่างกายของอุปกรณ์สตาร์ทไฟฟ้าตามที่ควรประกอบแสงฟลูออเรสเซนต์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของแสงดังกล่าว คุณสามารถใช้ตัวกระจายแสงที่อยู่เหนือโคมไฟและทำจากโลหะขัดเงาหรือฟอยล์สำหรับห้องครัว

แถบ LED

ลดราคาคุณสามารถหาโคมไฟและแถบ LED สำเร็จรูปซึ่งเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดในการสร้างแสงคุณภาพสูงในตู้ปลา ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้โคมไฟดังกล่าวโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูงสุด: ด้วยขนาดที่กะทัดรัดทำให้ส่องสว่างในตู้ปลาได้ดีปล่อยความร้อนขั้นต่ำและสามารถติดตั้งได้ง่ายในที่นั่งมาตรฐานของโคมไฟที่ใช้แล้ว

คุณสามารถเลือกตัวเลือกต่างๆ สำหรับไฟ LED สำหรับตู้ปลา ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามกำลัง สเปกตรัม และลักษณะอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โคมไฟดังกล่าวเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเลี้ยงมือใหม่ซึ่งมีโอกาสใช้ความก้าวหน้าล่าสุดในการผลิตเทคโนโลยีแสงสว่าง

เพื่อให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทำงานได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องควบคุมจำนวนชั่วโมงกลางวัน และสร้างแสงที่สม่ำเสมอในอ่างเก็บน้ำสำหรับผู้อยู่อาศัยแต่ละคน

โคมไฟ LED อัตโนมัติ

ทุกปี ความนิยมของไฟ LED สำหรับตู้ปลาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอธิบายได้จากการทำงานของแสง พลังงาน เศรษฐกิจ และความสามารถในการเลือกสเปกตรัมที่จำเป็นสำหรับนักเลี้ยงสัตว์น้ำได้อย่างง่ายดาย ลดราคามีไฟ LED ที่มีกำลังและเฉดสีต่าง ๆ รวมถึงตัวควบคุมอัตโนมัติที่ง่ายที่สุดที่จำเป็นสำหรับการควบคุมไฟฟ้า การทำโคมไฟตู้ปลา LED ของคุณเองไม่ใช่เรื่องยาก

ในร้านขายสัตว์เลี้ยงเฉพาะ คุณสามารถหาโคมไฟสำเร็จรูปหรือแถบ LED ที่ออกแบบมาสำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโดยเฉพาะ ผู้ผลิตแสงดังกล่าวรายใหญ่ที่สุดคือ บริษัทดังต่อไปนี้:

• เดนเนอร์ล;
• กำมะถัน;
• ยูเวล;
• ฮาเกน;
• อควาเอล;
• อควาเมดิคัล

แถบ LED ต้องยึดด้วยกาวซิลิโคนกันน้ำที่ฝาตู้ปลาในรูปแบบคดเคี้ยวหรือไขว้ โดยจัดวางในลักษณะเพื่อให้แน่ใจว่ามีความหนาแน่นสม่ำเสมอของไฟ LED แหล่งจ่ายไฟและอุปกรณ์เริ่มต้นเชื่อมต่อกับแถบ LED ในกรณีที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟและอุปกรณ์เริ่มต้นมาพร้อมกับเทป ก็สามารถซื้อเพิ่มเติมหรือทำจากแหล่งจ่ายไฟของคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าได้

หากคุณวางแผนที่จะใช้คอนโทรลเลอร์ คอนโทรลเลอร์นั้นจะเชื่อมต่อระหว่างแหล่งจ่ายไฟกับแถบ LED ตัวควบคุมที่ใช้ช่วยให้คุณเพิ่มและลดแสงได้อย่างราบรื่น โดยจำลองพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เป็นไปได้ที่จะเปิดไฟ LED ต่างๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนสเปกตรัมของแสงได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวัน ตัวควบคุมสำหรับไฟ LED ใช้กันอย่างแพร่หลายในตู้ปลาทะเล ซึ่งจำเป็นต้องรักษากิจวัตรประจำวัน

ด้วยการเลือกไฟ LED สำหรับตู้ปลา คุณสามารถสร้างสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตในน้ำและปลูกสวนพืชที่สวยงาม สำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และเมทัลฮาไลด์ รวมถึงองค์ประกอบ LED นั้นเหมาะสม ซึ่งสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมากโดยการควบคุมความเข้ม พลังงาน และระยะเวลาของแสงอย่างเหมาะสมที่สุด

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้รับการตกแต่งภายในอพาร์ทเมนท์มานานแล้ว ส่วนใหญ่แล้วคุณจะพบตู้ปลาขนาดใหญ่ที่มีความจุ 100 ลิตรขึ้นไป อย่างไรก็ตาม บางคนชอบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโน ในกรณีนี้ วัตถุที่ไม่คาดคิด เช่น แจกันและแก้วถูกใช้เพื่อเก็บสิ่งมีชีวิตในน้ำ มีแม้กระทั่งอควาเรียม...ในหลอดไฟ เราเสนอให้สร้างตู้ปลาด้วยตัวคุณเอง

จากวัสดุที่เราต้องการหลอดไส้, ดินตู้ปลาที่มีเนื้อละเอียดและพืชน้ำขนาดเล็ก

ขั้นแรก แยกฐานออกจากหลอดไฟ สามารถทำได้โดยใช้ค้อนเคาะที่ฐานทุกด้าน อย่าออกแรงมากเกินไป - หลอดไฟอาจแตก

หลังจากถอดฐานแล้ว ให้ถอดชิ้นส่วนแก้วที่ไม่จำเป็นออกจากขวด ตะไบขอบของรูในขวดด้วยตะไบถ้าคมเกินไป

ล้างขวดและเติมดินในตู้ปลา จากนั้นปลูกพืชในตู้ปลาแล้วเติมน้ำลงในตะเกียง สุดท้ายวางบนฐาน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้สามารถวางบนขาตั้งหรือแขวนได้หากวางฐานไว้อย่างดีบนขวด

แน่นอนว่าใน "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ" เช่นนี้จะไม่สามารถเลี้ยงปลาได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือนี้ คุณสามารถทำให้เพื่อนและคนรู้จักของคุณประหลาดใจได้ นอกจากนี้ตู้ปลาในหลอดไฟสามารถเป็นของขวัญดั้งเดิมได้